ชาวดิน ออนเน็ต

***อนิจา วาสนา ไพร่***

เรียกร้องเถอะ ร่ำหา กันให้ตาย
เคยบ้างไหม เคยได้ สิ่งที่หวัง
กราบแทบเท้า ติดดิน ร้องเสียงดัง
มีสักครั้ง บ้างไหม ใครเมตตา

สิ่งที่ขอ รอมา กี่ชาติแล้ว
ไร้วี่แวว สิทธิ ที่ใฝ่หา
เป็นแค่ไพร่ เขาชี้ เป็นอีกา
อย่าได้มา ร่วมหงส์ ดงผู้ดี
ร้องขอมา กี่ปี กี่ชาติแล้ว
ก็ไม่แคล้ว โดนด่า ฆ่าทุบตี
จากปู่ย่า มาถึง ทุกวันนี้
ถูกย่ำยี ไล่บี้ ให้จำนน
ตายแล้วสิบ เกิดใหม่ ได้เป็นแสน
แต่ขาแขน ถูกตรึง ด้วยเล่ห์กล
แล้วเมื่อไหร่ สิ่งนี้ จะหลุดพ้น
รับกฏโจร กฏหมาย ไร้ปราณี
อนิจา วาสนา ชะตาไพร่
ถูกใส่ร้าย กล่าวหา ว่าบัดสี
ทั้งหมอบกราบ ก้มไหว้ อย่างภักดี
แพ้วจี คนโฉด โป้ปดลวง
คงถึงครา แล้วหนา บรรดาไพร่
แม้ร่ำไห้ ร้องขอ ก็ช้ำทรวง
เขาไม่แล พวกเรา ไพร่ทั้งปวง
ต้องวัดดวง ทวงค่า ความเป็นคน


โดย ยรรยง ลูกชาวดิน

7 / มีนาคม / 2553
........


วันศุกร์, ตุลาคม 10, 2551

สล้าง จัดตั้งกองกำลังตำรวจเกษียณราชการ ยึดทำเนียบคืน

เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ แถลงข่าว พร้อมอดีตตำรวจอีก 8 คน ว่าตนมาแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะตนรู้จักกับสื่อที่นี่ดีว่าเสนอข่าวตามความเป็นจริง ไม่เหมือนกับผู้บริหารระดับสูงที่ได้ผลประโยชน์จากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ทั้งนี้ ตนเกิดตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มามาก และเป็นผู้อยู่ร่วมในเหตุการณ์14 ตุลา 2514 และ 6 ตุลา 2519 ทำให้ถูกโจมตีว่าตนสั่งการยิงนักศึกษา แต่ที่ตนยิงไปคือกระสุนซ้อมยิง อย่างไรก็ตาม ว่าหากตนไม่ทำอย่างนั้นจะตายมากกว่านี้ ที่ทำเช่นนี้เพราะตนไม่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งแกนนำพันธมิตรฯ ในวันนี้ ครึ่งหนึ่งเป็นคอมมิวนิสต์เก่า มีจุดมุ่งหมายล้มล้างประชาธิปไตย ทำให้ราชบัลลังก์สั่นคลอน และทำให้ตำรวจทั้งประเทศน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอย่างยิ่ง



"มันเอาน้ำดื่มจิตรลดามาแจก แล้วเยาะเย้ยตำรวจว่าได้กินน้ำของในหลวงหรือไม่ เราก็รู้ว่าซื้อที่ไหนก็ได้ ก็มีคุณหญิงท่านหนึ่งซื้อน้ำจิตลดามาแจกตำรวจ เพื่อให้ตำรวจไม่น้อยใจ มีโรงพยาบาลแห่งหนึ่งกระซิบนางพยาบาลให้ถอดสายน้ำเกลือตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะ แต่ปรากฏว่าผู้บังคับบัญชาของตำรวจนายนั้นรู้ก่อนจึงได้ย้ายตัวออกจากโรงพยาบาลดังกล่าว แล้วในวันรุ่งขึ้นมีนายแพทย์ประกาศว่าจะไม่รักษาตำรวจ ผมเลยทำหนังสือถึงตำรวจทั่วประเทศว่าอย่าได้น้อยเนื้อต่ำใจ หมอประพฤติชั่วคนเดียวอย่าเหมาว่าโรงพยาบาลของเขาเสียหาย หมอดีๆ มีเยอะกว่าหมอชั่วๆ เลวๆ" พล.ต.อ.สล้าง กล่าว ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ



พล.ต.อ.สล้าง กล่าวว่า ขณะนี้มีตำรวจขอลาป่วยโดยอ้างว่าไปรักษาสุขภาพจิตไม่น้อยกว่า 40 คน และลาออก 2 คน เพราะไม่รู้ว่าจะทำหน้าที่ไปทำไม ทำไปก็ถูกเจ้าของภาษีคือประชาชนกุ้มรุมด่ามากมาย อย่างไรก็ตามเชื่อว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ออกมาให้ตำรวจจับ เพื่อต้องการให้เกิดเหตุการณ์นองเลือดเหมือนเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ จากนั้น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ก็พาไปเข้าเฝ้าเพื่อให้บ้านเมืองสงบ สุดท้ายคนที่ทำผิดกฎหมายก็รอดพ้น



"พล.ต.จำลอง เป็นคนที่ขี้โกง ทำลายชาติเป็นนิสัย คงติดใจเหตุการณ์นองเลือดเมื่อปี 2535 ซึ่งครั้งนี้ก็ออกไปให้ตำรวจจับ เมื่อศาลถอนหมายจับก็ถอนไป แต่ตำรวจต้องดำเนินคดีในข้อหากบฏอีก ซึ่งแกนนำพันธมิตร 9 คน จะสร้างเรื่องต่อจนกว่าจะมีการนองเลือด และให้ พล.อ.เปรม พาเข้าเฝ้าอีก ขอพระราชทานอีก ทำไมต้องโยนภาระไปให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้น ผมจึงขออาสายึดทำเนียบรัฐบาลคืน"พล.อ.สล้าง กล่าว



พล.อ.สล้าง กล่าวว่า ขณะนี้เราได้ประชุมกับเพื่อนร่วมรุ่นที่เป็นครูฝึกปราบจลาจล และได้รวบรวมลูกศิษย์ได้หลายร้อยคนแล้ว โดยการยึดทำเนียบคืนจะใช้วิธีสันติ อหิงสา ก่อน โดยเริ่มจากการเจรจา เพราะตนกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ รักกัน เพราะตนเคยสอนวิชาเกี่ยวกับตำรวจให้นายสนธิ แต่หากนายสนธิไม่คุย อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดส่วนตำรวจคนไหนอยากสมัครก็จะต้องแต่งเครื่องแบบตำรวจ ทั้งนี้ จะรับตำรวจที่อยู่นอกราชการเป็นส่วนใหญ่ ส่วนตำรวจที่อยู่ในราชการจะต้องขอลากิจ ทั้งนี้ หากไม่มีใครบริจาคค่าใช้จ่ายในการต่อสู้ ตนก็จะออกเอง โดยตนจะขายเหรียญที่สวยที่สุดในประเทศ และขายนาฬิกาของตนเองเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่าย



"หาก พันธมิตรฯ ไม่ยอมคุย เพื่อแผ่นดินไทย อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพราะผมเคยเจอมายิ่งกว่านี้ ผมเคยเปลี่ยนรัฐบาลมาแล้ว 3 หน ด้วยความไม่ถูกต้อง แล้วครั้งนี้ทำไมผมจะกู้ชาติสักครั้งไม่ได้ แล้วจะรู้ว่าใครจงรักภัคดี ความชั่วปิดไม่ได้นาน ทองแท้ไม่แพ้ไฟคือพวกผม" อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจกล่าว



พล. ต.อ.สล้าง กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การกระทำของพันธมิตรฯ ครั้งนี้ คือการปล้นสะดมทำเนียบรัฐบาล สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขัดขวางการกระทำของพันธมิตรฯ ก็ถือว่าเป็นการป้องกันไม่ให้ใครมาขัดขวางการทำหน้าที่นิติบัญญัติ ที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายเพื่อบริหารประเทศ แต่สื่อก็ไม่เคยเสนอเลยว่าตำรวจชอกช้ำขนาดไหน และไม่เคยเสนอว่ารถจี๊บเชอโรกี ที่ระเบิดหน้าพรรคชาติไทย มีระเบิดเอ็นโฟว์ซ่อนอยู่ ซึ่งนักเล่นระเบิดเราก็สันนิษฐานว่าเป็นอย่างนั้น ส่วน พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี อดีตสารวัตรปราบปรามใน จ.บุรีรัมย์ น้องเขยของนายการุณ ใสงาม ที่เสียชีวิตในรถนั้น เขาเป็นตำรวจที่ดี เป็นคนจริงจัง แต่กลับไปหลงเชื่อพันธมิตรฯ แล้วลาออกมาเป็นหัวหน้าการ์ดพันธมิตรฯ หาก พ.ต.ท.เมธี ไม่ถูกระเบิดตาย ก็ไม่รู้ว่าคนหรือตำรวจจะตายอีกกี่ร้อยคน บังเอิญพระสยามเทวาธิราชมีจริงเขาเลยตายเสียก่อน

..ที่มาข่าวจาก ประชาไท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก