ชาวดิน ออนเน็ต

***อนิจา วาสนา ไพร่***

เรียกร้องเถอะ ร่ำหา กันให้ตาย
เคยบ้างไหม เคยได้ สิ่งที่หวัง
กราบแทบเท้า ติดดิน ร้องเสียงดัง
มีสักครั้ง บ้างไหม ใครเมตตา

สิ่งที่ขอ รอมา กี่ชาติแล้ว
ไร้วี่แวว สิทธิ ที่ใฝ่หา
เป็นแค่ไพร่ เขาชี้ เป็นอีกา
อย่าได้มา ร่วมหงส์ ดงผู้ดี
ร้องขอมา กี่ปี กี่ชาติแล้ว
ก็ไม่แคล้ว โดนด่า ฆ่าทุบตี
จากปู่ย่า มาถึง ทุกวันนี้
ถูกย่ำยี ไล่บี้ ให้จำนน
ตายแล้วสิบ เกิดใหม่ ได้เป็นแสน
แต่ขาแขน ถูกตรึง ด้วยเล่ห์กล
แล้วเมื่อไหร่ สิ่งนี้ จะหลุดพ้น
รับกฏโจร กฏหมาย ไร้ปราณี
อนิจา วาสนา ชะตาไพร่
ถูกใส่ร้าย กล่าวหา ว่าบัดสี
ทั้งหมอบกราบ ก้มไหว้ อย่างภักดี
แพ้วจี คนโฉด โป้ปดลวง
คงถึงครา แล้วหนา บรรดาไพร่
แม้ร่ำไห้ ร้องขอ ก็ช้ำทรวง
เขาไม่แล พวกเรา ไพร่ทั้งปวง
ต้องวัดดวง ทวงค่า ความเป็นคน


โดย ยรรยง ลูกชาวดิน

7 / มีนาคม / 2553
........


วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 18, 2551

คบท. ชี้ 'SMS ' ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล มาร์คหน้าด้านอีกแล้ว...../// จดหมายเปิดผนึกจาก ‘ใจ’ ถึงเพื่อนๆเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตย

ที่มาจาก /ไทยรัฐ

คบท. ชี้ 'SMS นายกฯ' ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล













จากกรณีที่นายกรณ์ จาติกวณิช ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พรรคประชาธิปัตย์ ได้เชิญตัวแทนผู้ประกอบการมือถือทุกค่ายทั้งเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ เข้าพบเพื่อขอความร่วมมือในการส่งข้อความสั้น (SMS) ไปถึงผู้ใช้บริการในเครือข่าย ที่เชิญชวนรับฟังข้อความจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยมีข้อความว่า ผมนายกรัฐมนตรีคนใหม่ขอเชิญท่านร่วมนำประเทศไทยออกจากวิกฤติสนใจ ได้รับการติดต่อจากผม กรุณาตอบ 1 มาที่เบอร์ 9191 (3บ.)นั้น

นางสาวสารี อ๋องสมหวัง หนึ่งในกรรมการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (คบท.) กล่าวว่า คบท.ตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดทางพรรคประชาธิปัตย์จึงเลือกใช้ช่องทางสื่อสารด้วยการส่งเอสเอ็มเอส ที่เข้าข่ายเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เนื่องจากโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นช่องทางการสื่อสารส่วนบุคคลเจ้าของจึงควรเป็นผู้มีสิทธิเลือกใช้ ไม่ควรถูกรุกล้ำในลักษณะมัดมือชก

การส่งเอสเอ็มเอส เป็นเหมือนการเคาะประตูบ้าน บุกเข้าถึงตัวผู้รับ ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หากเจ้าของมิได้ให้ความยินยอมกรรมการ คบท.กล่าว

กรรมการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องมาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ.2549 ข้อ 12 ระบุว่า ผู้ให้บริการจะนำข้อมูลที่ได้มาจากการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการนั้นไปใช้เพื่อประโยชน์อย่างอื่นโดยมิได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากผู้ใช้บริการ มิได้ เว้นแต่เป็นการใช้เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎหมาย นอกจากนี้ วิธีการที่เปิดให้กดรับข้อความเสียงยังก่อให้เกิดภาระกับประชาชน ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อฟังเสียงนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ดังนั้นจึงเห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ ควรใช้ช่องทางอื่นที่ไม่สร้างภาระและไม่เป็นการละเมิดสิทธิประชาชน

ไม่ว่าจะเป็นฟรีทีวีที่มีอยู่หลายช่อง หรือระบบสื่อสารสาธารณะต่างๆ ที่อยู่ในความดูแลของรัฐบาล ไม่

........................

แค่วันเดียวหลังจากได้รับการโปรดเกล้า มาร์ค ก็เริ่ม แทรกแซงสื่อแล้ว เมื่อก่อนนี้ เคยว่าใครเขาไว้บ้าง จำไม่ได้หรือ เวรกรรมประเทศไทย

0..........จดหมายเปิดผนึกจาก ‘ใจ’ ถึงเพื่อนๆเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตย

คำถามคาใจสำหรับมิตรสหายเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตยเป็นจำนวนมาก คือ "ก้าวต่อไปของการต่อสู้กับรัฐประหารเงียบที่แต่งตั้งประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลคืออะไร?"

เราในฐานะองค์กรเลี้ยวซ้าย ซึ่งเป็นองค์กรที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสังคมนิยม และรณรงค์ให้ไทยเป็นรัฐสวัสดิการครบวงจรและถ้วนหน้า ขอเสนอข้อคิดกับเพื่อนๆ ด้วยความเคารพ

เราคงไม่ต้องอธิบายมากมายว่า ทหาร พันธมิตรฯ ศาล ประชาธิปัตย์ ส.ส.หักหลังประชาชน พวกอำมาตยาธิปไตยได้ทำรัฐประหารรอบที่สองเรียบร้อยไปแล้ว ซึ่งถือเป็นการ "ขโมย สิทธิเสรีภาพของคนส่วนใหญ่" พวกนี้ไม่เคยเห็นด้วยกับระบบประชาธิปไตย ไม่เคยเคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนคนยากคนจน สิ่งที่เขาต้องการ คือหมุนนาฬิกากลับไปสู่ระบบการเมืองน้ำเน่าแบบเก่าที่ไม่เห็นหัวและเคารพความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกันของคนจน พวกนี้สบายใจเมื่อมีโอกาสที่จะกอบโกยขูดรีดเอารัดเอาเปรียบประชาชนส่วนใหญ่ ตั้งแต่ยุคไทยรักไทยเมื่อพลเมืองสามัญชนเรียกร้องการมีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจ พวกนี้ก็เริ่มตื่นตระหนก

ประเด็นปัญหาที่เราจะต้องร่วมกันคิดร่วมกันเคลื่อนไหว คือ เราจะต้องต่อสู้ต่อไปข้างหน้าอย่างไร?

แน่นอนเราต้องโจมตีรัฐบาลเถื่อนนี้ว่าเป็นรัฐบาลที่ถูกบงการโดยอำนาจของทหารเผด็จการ เป็นรัฐบาลจัดตั้งร่วมระหว่างหลายพรรคที่ไม่มีอุดมการณ์เพื่อประชาชน แต่แค่นั้นไม่พอ พวกเราต้องยืนยันว่าประชาธิปไตยไม่ใช่หลักการนามธรรมเท่านั้น เราต้องต่อสู้เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง เราต้องการกำหนดและสร้างสังคมที่มีความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ

พรรคประชาธิปัตย์มีประวัติอันอัปยศอดสูมาอย่างยาวนานในการเสนอนโยบายเศรษฐกิจเสรีนิยม กลไกตลาด "วินัยทางการคลัง" ที่ระบุว่าคนจนควรจะต้องพอเพียงในความยากจนของตัวเอง ในวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 พรรคนี้ใช้ภาษีของพวกเรา คนยากคนจน ในการอุ้มหนี้เสียของคนรวยและอุ้มสถาบันการเงิน ในขณะที่ไม่มีนโยบายอะไรเลยสำหรับคนยากคนจน นอกจากจะบอกให้คนจน "กลับบ้าน" ไปเป็นภาระกับครอบครัวที่ยากจนอยู่แล้ว แถมยังเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มและกดค่าจ้างอีกด้วย

พรรคนี้จะท่องสูตร "วินัยทางการคลัง" เหมือนนกแก้ว แต่ไม่เคยใช้มาตรฐานนี้กับงบประมาณทหาร หรืองบประมาณที่เป็นประโยชน์กับอภิสิทธิชน พูดง่ายๆ พวกนี้คือ "ศัตรูของประชาชนส่วนใหญ่" และนี่คือสาเหตุที่พวกอภิสิทธิชนเหล่านี้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลผ่านกลไกประชาธิปไตยในยามปกติได้เลย

ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติเศรษฐกิจอันร้ายแรงสองวิกฤติซ้อนกัน คือ วิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ไม่เคยเห็นมาในรอบ 80 ปีที่ผ่านมา และวิกฤติที่มาจากการปิดสนามบินนานาชาติโดยกลุ่มพันธมิตรฯ และ สส.พรรคประชาธิปัตย์ วิกฤตินี้กำลังทำให้ประชาชนชาวไทยตกงานเป็นจำนวนมาก และประชาชนที่เหลือจะเดือดร้อนจากสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ

ในสถานการณ์แบบนี้ เราต้องเรียกร้องให้รัฐบาลรักษากำลังซื้อของคนจนเพื่อพยุงเศรษฐกิจภายในประเทศ ต้องมีการขึ้นค่าแรง (ค่าจ้างขั้นต่ำต้องขึ้นถึง 300บาทต่อวันเป็นอย่างน้อย) ต้องมีการยกเลิกการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่คนจนต้องแบกภาระจ่าย ต้องมีมาตรการของรัฐที่เข้าไปแทรกแซงธุรกิจเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเลิกจ้าง แทนการปกป้องนายทุนใหญ่ ต้องมีมาตรการสำหรับเกษตรกรรายย่อย เช่นการยกเลิกหนี้และการช่วยเหลือให้รวมกลุ่ม และรัฐต้องขึ้นภาษีทางตรงให้กับคนรวยและนายทุนเพื่อใช้เป็นงบประมาณ นี่คือประเด็นที่เราต้องใช้ในการเคลื่อนไหวคัดค้านรัฐบาลเถื่อน ข้อเสนอแบบนี้ของเรา เป็นนโยบายที่มีการยอมรับกันในระดับสากลในยุคนี้

วิกฤติเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศไทยบังคับให้เราต้องทบทวนการต่อสู้ตลอดเวลา องค์กรเลี้ยวซ้ายขอเสนอต่อมิตรสหายเสื้อแดงด้วยความเคารพว่า การนำของนักการเมืองพรรคเพื่อไทยหลายคนมีข้อบกพร่องและขาดประสิทธิภาพ เนื่องจากไปหวังประนีประนอมกับนักการเมืองในระบบเก่า แถมยังมีการใช้ลัทธิการเมืองของพวกอำมาตยาธิปไตย คือลัทธิ "ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรย์" ในการต่อสู้กับพวกนั้นอีกด้วย การใช้ลัทธิการเมืองของพวกอำมาตยาธิปไตย ทำให้บรรดามิตรสหายตกอยู่ในสภาพที่ถูกมัดมือชก ต่อสู้กลับไปแทบจะไม่ได้เลย พวกเราจะต้องเน้นการชูคำขวัญเรื่อง "ประชาธิปไตยและความเป็นธรรมในสังคม" แทนลัทธิของศัตรูประชาชน เราต้องสมานฉันท์กับคนมุสลิมในภาคใต้ และคนงานพม่า เพราะเราจะไม่ดูถูกผู้ด้อยโอกาสด้วยกัน อย่างที่พวกอำมาตยาธิปไตยทำเป็นประจำ

เราจึงเสนอว่ามวลชนเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลายควรจะรวมกลุ่มและนำตนเอง เพื่อสร้างเครือข่ายประชาธิปไตยของประชาชนจากข้างล่าง การต่อสู้ในครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ที่ใช้เวลา เราต้องไม่ประมาทและไม่หาทางลัด พวกเราจะต้องเน้นพลังมวลชนของคนธรรมดา เมื่อใดที่นักการเมืองกระแสหลักยอมแพ้ต่อการนำในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เมื่อนั้นเราต้องนำตัวเอง เราต้องใช้สติปัญญาทำความเข้าใจกับสังคม ขออย่าหดหู่กับอคติของสื่อกระแสหลักที่มักจะเข้าข้างอภิสิทธิชนเสมอ เราต้องสร้างสื่อทางเลือกของประชาชนเองขึ้นมาให้ได้

องค์กรเลี้ยวซ้ายขอเป็นหนึ่งในเครือข่ายองค์กรประชาธิปไตยประชาชน เราต้องต่อสู้เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เสมอภาคกันถ้วนหน้าให้กลับคืนมาสู่เรา


ใจ อึ๊งภากรณ์

องค์กรเลี้ยวซ้าย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก