ชาวดิน ออนเน็ต

***อนิจา วาสนา ไพร่***

เรียกร้องเถอะ ร่ำหา กันให้ตาย
เคยบ้างไหม เคยได้ สิ่งที่หวัง
กราบแทบเท้า ติดดิน ร้องเสียงดัง
มีสักครั้ง บ้างไหม ใครเมตตา

สิ่งที่ขอ รอมา กี่ชาติแล้ว
ไร้วี่แวว สิทธิ ที่ใฝ่หา
เป็นแค่ไพร่ เขาชี้ เป็นอีกา
อย่าได้มา ร่วมหงส์ ดงผู้ดี
ร้องขอมา กี่ปี กี่ชาติแล้ว
ก็ไม่แคล้ว โดนด่า ฆ่าทุบตี
จากปู่ย่า มาถึง ทุกวันนี้
ถูกย่ำยี ไล่บี้ ให้จำนน
ตายแล้วสิบ เกิดใหม่ ได้เป็นแสน
แต่ขาแขน ถูกตรึง ด้วยเล่ห์กล
แล้วเมื่อไหร่ สิ่งนี้ จะหลุดพ้น
รับกฏโจร กฏหมาย ไร้ปราณี
อนิจา วาสนา ชะตาไพร่
ถูกใส่ร้าย กล่าวหา ว่าบัดสี
ทั้งหมอบกราบ ก้มไหว้ อย่างภักดี
แพ้วจี คนโฉด โป้ปดลวง
คงถึงครา แล้วหนา บรรดาไพร่
แม้ร่ำไห้ ร้องขอ ก็ช้ำทรวง
เขาไม่แล พวกเรา ไพร่ทั้งปวง
ต้องวัดดวง ทวงค่า ความเป็นคน


โดย ยรรยง ลูกชาวดิน

7 / มีนาคม / 2553
........


วันอังคาร, ธันวาคม 09, 2551

ชาวสกลไม่เอา ส.ส.ขายตัวมีค่าหัวไม่เท่าสุนัขท่าแร่ ออกเสียงให้ 120,000 เสียง แต่หักหลังชาวสกลนคร


ชาวสกลนครเดือด ยื่นคำขาดขอให้กลับพรรคเพื่อไทยภายใน 3 วัน หากไม่เชื่อเจอดีแน่..!!

ในที่สุด ส.ส.สกลนครยังอยู่กับเพื่อนเนวินอีก 3 คน ได้แก่ นายเฉลิมชาติ การุญ นายวีระ รักความสุข และนายทวีวัฒน์ ฤทธิ์ฤาชัย โดยการควบคุมของนายเอกพร รักความสุข อยู่ที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร


เวลา 10.00 น. (วันที่ 9 ธค. 51) ชาวสกลนครได้รวมกันใส่เสื้อแดง ประมาณ 200 คน ออกมากดดันที่หน้าบ้านเฉลิมชาติ การุญ และ นายทวีวัฒน์ ฤทธิ์ฤาชัย ได้ประนาม 3 ส.ส. อย่างเผ็ดมัน เช่น ชาวสกลไม่เอา ส.ส.ขายตัวมีค่าหัวไม่เท่าสุนัขท่าแร่ หักหลังประชาชนที่เลือกให้เข้าไปทำงานกับพรรคพลังประชาชน แต่แปรพักตร์ไปเข้ากับประชาธิปัตย์ ถ้าจะไปอยู่พรรคประชาธิปัตย์ก็ขอสิทธิคืนโดยลาออกไปเข้พรรคประชาธิปัตย์ แล้วเลือกตั้งใหม่ ...เวทีพัรธมิตร คือนอมินีประชาธิปัตย์ ทุกคำพูดที่เวทีพันธมิตรก็คือทุกคำพูดของประชาธิปัตย์โจมตีรัฐบาล พันธมิตรและประชาธิปัตย์ดูถูกชาสอีสานเป็นอาจิณ ว่าคนอีสานโง่..ซื้อเสียงได้...3 ส.ส.สกลนครยังยอมกลืนน้ำลายประชาธิป้ตย์ ไม่เห็นเกียรติศักดิ์ศรีที่นายเตียง ศิริขันธุ์ ที่ได้สร้างชื้อเสียงไว้ให้ชาวสกลนครที่เป็นแบบอย่างนักประชาธิปไตยอย่างอแท้จริง แต่ 3 ส.ส.กลับละเลยไม่นำพา ฯลฯ

ขอยื่นคำขาดว่า 3 ส.ส.ได้สร้างความเสื่อมเสียให้ชาวสกลนครอย่างไม่เคยมีมาก่อน ...ภายใน 3 วันหากไม่กลับเข้าพรรคก็จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด คือขับออกจากเขตจังหวัดต่อไป

...........................

ภาพ:Pic12ชูวิทย์.jpg
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ประณาม 'ปชป'.เป็นฝ่ายค้าน“อดอยาก”นักหรือ จวก! “มาร์ค” กระสันต์อยากเป็นนายกฯ มาก เชื่อสุดท้ายปัญหาไม่จบ

วันที่ 9 ธ.ค. 2551 เวลา 10.00 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคชาติไทย ได้เดินทางมาตั้งโต๊ะเปิดแถลงข่าววิพากษ์วิจารณ์การจัดตั้งรัฐบาลที่ด้านข้างสวนสัตว์ดุสิตตรงข้ามกับประตูทางเข้ารัฐสภา โดยนายชูวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้นักการเมืองเดินสายจัดตั้งรัฐบาลโดยเอาอุดมการณ์เก็บไว้ที่พรมหน้าบ้าน ทำให้เห็นธาตุแท้ของนักการเมืองไทย ที่เคยด่าทอกันแทบตายก็มาจับมือกัน ใคร ๆ ก็อยากได้สัมปทานประเทศไทย บรรดานักการเมืองเหล่านี้ทำอย่างอื่นไม่เป็น ทั้งคนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองก็ยังเห็นออกมาเคลื่อนไหว ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กระสันต์อยากเป็นนายกรัฐมนตรีมาก แต่คงเป็นฝ่ายค้านนานไปหน่อยเลยไม่รักษาอาการเดินสายพบปะคนนั้นนี้ไม่ว่านายบรรหาร ศิลปอาชา หรือนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มาบอกว่านายเนวิน ชิดชอบ ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าตนไม่ได้ยินกับหูก็คงไม่เชื่อ จึงขอฝากถึงนายอภิสิทธิ์ว่าหากอยากเป็นนายกรัฐมนตรีมากก็ควรดำเนินการอย่างเงียบๆ อย่าเอิกเกริกเกินไป เป็นฝ่ายค้านมันเป็นอย่างไร มันอดอยากมากหรือ คนมีโทษทางการเมืองก็ไม่มีความหมายเดินสายกันเหมือนไม่มีอะไรยังมาเสนอหน้า


นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนดูให้ดูบรรดานักการเมืองเสพติดอำนาจ บางคนอายุจะ 80 ปี ก็ยังจะกลับมาอีก เชื่อว่าที่สุดแล้วไม่ว่าพรรคการเมืองซีกใดสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ปัญหาทางการเมืองยังคงไม่จบลงเพราะปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองยังคงมีอยู่ การได้นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นคนที่สังคมไม่ได้ยอมรับอย่างแท้จริงจึงไม่ใช่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการสร้างปัญหาให้กับสังคมเพิ่มขึ้น หากนายอภิสิทธิ์มาเป็นนายกรัฐมนตรีปัญหาก็ยังไม่จบ เชื่อว่าหลังจากได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วปัญหาก็จะกลับมาอีกเพราะความขัดแย้ง ระหว่างเสื้อแดงกับเสื้อเหลืองยังคงมีอยู่ สุดท้ายก็จะได้ละครฉากเก่าที่เราเคยดู

.........................

วิชาญ มีนชัยนันท์

รมช.สาธารณสุข ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย

ขณะนี้พรรคเพื่อไทยรวบรวมส.ส.อดีตพรรคพลังประชาชนมาอยู่ร่วมพรรคได้เกือบเท่าจำนวนเดิม ขาดเพียง 10 กว่าคนที่ยังไม่ย้ายเข้ามา เท่ากับตัวเลขส.ส.ของพรรคเพื่อไทยค่อนข้างนิ่งแล้ว

ตามมารยาทเมื่อพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเดิมถูกยุบ แต่หากรวบรวมส.ส.ได้เหมือนเดิม ควรให้เกียรติจัดตั้งรัฐบาลก่อน ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่ปรารถนาให้เกิดปัญหา จึงให้สิทธิ์พรรคร่วมพิจารณาเสนอชื่อผู้ที่จะเป็นนายกฯ

พรรคประชาธิปัตย์ไม่ควรเล่นการเมืองแบบนี้ เท่าที่สังเกตท่าทีของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ก็ไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้ แต่เป็นความต้องการของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคที่ต้องการเป็นนายกฯ

การที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุพรรคเพื่อไทยเสนอโควตาให้กลุ่มการเมืองต่างๆ ที่จะเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย ในอัตรา 5:1 ผมไม่ขอพูด แต่การที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศจะให้โควตากลุ่มการเมืองต่างๆ ยิ่งทำให้การเมืองไทยสับสน เพราะขณะนี้ยังไม่มีพ.ร.ฎ.เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เป็นเพียงการเจรจาเพื่อร่วมกันตั้งรัฐบาลเท่านั้น



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก