ชาวดิน ออนเน็ต

***อนิจา วาสนา ไพร่***

เรียกร้องเถอะ ร่ำหา กันให้ตาย
เคยบ้างไหม เคยได้ สิ่งที่หวัง
กราบแทบเท้า ติดดิน ร้องเสียงดัง
มีสักครั้ง บ้างไหม ใครเมตตา

สิ่งที่ขอ รอมา กี่ชาติแล้ว
ไร้วี่แวว สิทธิ ที่ใฝ่หา
เป็นแค่ไพร่ เขาชี้ เป็นอีกา
อย่าได้มา ร่วมหงส์ ดงผู้ดี
ร้องขอมา กี่ปี กี่ชาติแล้ว
ก็ไม่แคล้ว โดนด่า ฆ่าทุบตี
จากปู่ย่า มาถึง ทุกวันนี้
ถูกย่ำยี ไล่บี้ ให้จำนน
ตายแล้วสิบ เกิดใหม่ ได้เป็นแสน
แต่ขาแขน ถูกตรึง ด้วยเล่ห์กล
แล้วเมื่อไหร่ สิ่งนี้ จะหลุดพ้น
รับกฏโจร กฏหมาย ไร้ปราณี
อนิจา วาสนา ชะตาไพร่
ถูกใส่ร้าย กล่าวหา ว่าบัดสี
ทั้งหมอบกราบ ก้มไหว้ อย่างภักดี
แพ้วจี คนโฉด โป้ปดลวง
คงถึงครา แล้วหนา บรรดาไพร่
แม้ร่ำไห้ ร้องขอ ก็ช้ำทรวง
เขาไม่แล พวกเรา ไพร่ทั้งปวง
ต้องวัดดวง ทวงค่า ความเป็นคน


โดย ยรรยง ลูกชาวดิน

7 / มีนาคม / 2553
........


วันอาทิตย์, สิงหาคม 16, 2552

มึง เป็น เหี้ยอะไรกันนักหนา.ถึงเกลียดคนเสื้อแดง

การศึกษาสูง จริยธรรมต่ำ
กรณี กระทำการอย่างไร้จรรณยาบรรณ กับชาวบ้าน ที่เป็นผู้ป่วย ที่มีญาติ
ใส่เสื้อสีแดง หรือว่า สองมาตรฐาน เหมือนๆ กับ องค์กร อื่นๆ


คลิ๊กขยายที่รูป
เงินเดือนจากภาษีประชาชน


ไม่ยอมรักษาผู้ป่วย (เนชั่นทันข่าว)
ชาวบ้านใน 3 ตำบลของ อ.งาว จ.ลำปาง ได้แก่ ต.บ้านแหง หลวงเหนือ และปงเตา และกลุ่มคนเสื้อแดงจาก อ.งาว ที่ได้สวมเสื้อสีแดงกว่า 200 คน พามาชุมนุมประท้วงกันที่หน้าโรงพยาบาลอำเภองาว จังหวัดลำปาง โดยได้ชุมนุมปิดประตูทางเข้าโรงพยาบาล พร้อมตั้งเครื่องขยายเสียง และมีการพูดเพื่อขับไล่ แพทย์หญิงเบญจวรรณ ไม้รอด แพทย์ประจำห้องตรวจโรคทั่วไปโรงพยาบาลอำเภองาว
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา นางสศิรส ผาสมุทร อายุ 33 ปี อสม.ประจำหมู่บ้าน ได้พานาง ยอด ศรีนวล ผู้เป็นแม่ เข้ามารับการตรวจรักษาร่างกาย เนื่องจากป่วยเป็นโรคเก๊าปวดที่ขาทั้ง 2 ข้าง แต่หลังจากยื่นบัตร ปรากฏว่าในขณะที่นางสศิรส เข็นรถที่ผู้เป็นแม่นั่งเข้าห้องตรวจ ปรากฏว่า แพทย์หญิง เบญจวรรณ ไม้รอดได้เห็นนางสศิรส สวมใส่เสื้อแดง จึงชี้หน้า พูดออกมาอย่างเสียงดังว่า ทำไม่ นางสศิรส ถึงใส่เสื้อสีแดงมา ซึ่งตนไม่ชอบกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเฉพาะ พ.ต.ท. ทักษิน ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย
จากนั้นแพทย์หญิงคนดังกล่าว ได้เขียนข้อความลงใบปะหน้าใบรับการตรวจรักษาว่า ขอให้ส่งผู้ป่วยรายนี้ไปพบแพทย์ท่านอื่น เนื่องจากทำใจตรวจคนใส่เสื้อสีแดงไม่ได้ หลังจากนั้นหลังได้รับใบส่งตัว นางสศิรส จึงพาแม่กลับบ้าน ก่อนจะปรึกษาหารือ กับญาติพี่น้อง ว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องที่เกิเดขึ้น จึงพากันมารวมตัวขับไล่แพทย์หญิงเบญจวรรณ ไม้รอด
นาย สมเจตต์ เปลื้องนุช นายอำเภองาว และนายแพทย์ ธนวัฒน์ วงศ์ชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ได้เข้ามาพบปะกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อรับทราบเหตุผลของการชุมนุม โดยเบื้องต้นทางกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ย้ายแพทย์หญิงออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่รักษาคนไข้ และทำไมต้องแสดงความแบ่งแยก และให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ และชี้แจงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนายแพทย์ ธนวัฒน์ วงศ์ชัยอุดมโชค ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำเภองาวจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ได้มีการพูดคุย และได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ในส่วนของแพทย์หญิงเบญจวรรณ ไม้รอดได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยินดีแก้ไขข้อบกพร่อง ซึ่งหากผิดจริงก็จะถูกสอบสวนและลงโทษทางวินัยและ ทางโรงพยาบาล ไม่ได้มีการแบ่งแยกคนไข้ คนไข้ก็คือคนไข้ที่ต้องได้รับการรักษาคนไข้ก็ต้องทำตามหน้าที่
ขณะนี้ได้รายงานให้ทาวงจังหงัดและผู้ใหญ่ทราบเรื่องแล้วและกำลังมีการดำเนินการอยู่ โดยทางราชการกำลังดำเนินการตรวจสอบตามระบบขอทางราชการ และจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบเพราะว่าเป็นบุคลากรของทางราชการ เบื้องต้นจากการสอบสวนของกรรมการตรวจสอบทราบว่า แพทย์หญิงเบญวรรณ นั้นอาอยุยังน้อย ตกใจ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่อยากเหตุนี้เกิดขึ้น ที่ผ่านมาแพทย์หญิงเบญวรรณ ไม้รอดไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการรักษาคนไข้ ซึ่งทางนายอำเภองาว และผู้อำนวยการโรงพยาบาลงาว ได้เชิญตัวแทนของผู้ชุมนุมเข้าหารือถึงข้อสรุปในเรื่องนี้แล้ว หลังจากรับปากว่าจะย้ายแพทย์หญิงคนดังกล่าวออกจากพื้นที่ภายใน 3 วัน เพื่อยุติปัญหา ก่อนจะเจรจากันภายในห้องประชุมของโรงพยาบาลงาว เพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง






ในขณะที่พลเมืองเน็ตคนอื่นๆ รุมประนามอย่างรุนแรง ในกระทู้ ดูรูปกันชัดๆ!! พญ.เบญจวรรณ ไม้รอด ไม่รับรักษาเสื้อแดง เพราะเกลียดทักษิน

เวลา 12:50:02 ผู้ใช้นาม เวลาและวารี โพสต์ ในเวปบอร์ดห้องราชดำเนิน เวปไซต์พันทิพ โดยนำเสนอภาพเหตุการณ์การประท้วงของประชาชน ดังรายละเอียดในกระทู้ ขับไล่หมอ ทำใจไม่ได้ตรวจคนเสื้อแดง ลำปาง โดยมีพลเมืองเน็ตร่วมประนามจำนวนมาก


คลิ๊กขยายที่รูป



ผู้ใช้นาม Worstion ในกระทู้ดังกล่าวได้คัดคำสอนของ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์ไทย ดังนี้

เอามาให้อ่าน

สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
พระบิดาแห่งการแพทย์ไทย และพระบิดาแห่งการสังคมสงเคราะห์ได้สั่งสอนนักเรียนแพทย์ให้ยึดมั่นในอุดมคติ ดังนี้


"ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัวเป็นกิจที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง"


พรหมวิหาร ธรรมเป็นธรรมอันประเสริฐ เป็นธรรมเครื่องอยู่ของพรหม สำหรับผู้เป็นแพทย์ ทำให้แพทย์ผู้ปฏิบัติพรหมวิหารธรรมเสมอด้วย พรหม มี 4 ประการ คือ


1).เมตตา ความรักใคร่ ปราถนาดีอยากให้ผู้ป่วยมีความสุขมีจิตอันแผ่ไมตรีและคิดทำประโยชน์แก่ผู้ป่วยเสมอ


2).กรุณา ความสงสารใฝ่ใจอันปลดเปลื้องบำบัดความทุกข์ยากเดือดร้อนของผู้ป่วยที่กำลังได้รับอยู่ (Altruism)


3).มุทิตา มีความยินดีเมื่อผู้ป่วยอยู่ดีมีสุข


4).อุเบกขา ความวางใจเป็นกลาง มีจิตเรียบตรงดุจตราชั่ง ไม่เอนเอียงด้วยรักและชัง

__________________________________________________



ไอ้ บวรศักดิ์ นี่ก็ระยำไม่เลิก

ที่มา : วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2552 มติชนออนไลน์

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ราชบัณฑิต เขียนบทความอีกครั้งโดยยืนยันว่าพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) วางระเบียบวิธีการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา พ.ศ.2457 ยังคงมีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน หลังจากที่เขียนบทความ �การใช้สิทธิทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาตามกฎหมายและประเพณี� ปรากฏว่านายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรค พท. ออกทักท้วงว่า พ.ร.ฎ.ดังกล่าวถูกยกเลิกไปแล้ว

ศ.ดร.บวรศักดิ์ระบุว่า ต้องเขียนบทความเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องตามความเป็นจริง เพื่อไม่ให้การเมืองมาบิดเบือนความถูกต้อง โดยวิทยานิพนธ์ของคุณเพ็ญจันทร์ โชติบาล เรื่อง พระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษของพระมหากษัตริย์ไทย ระบุไว้ชัดเจนว่า หลักเกณฑ์และวิธีการใดๆ ในการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ตาม พ.ร.ฎ.วางระเบียบวิธีการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา พ.ศ.2457 เท่านั้นที่ถูกยกเลิกไป เพราะมีประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญากำหนดไว้แล้ว คุณเพ็ญจันทร์ไม่ได้ระบุไว้ในที่ใดว่า พ.ร.ฎ.ดังกล่าวถูกยกเลิกไปทั้งฉบับ

ศ. ดร.บวรศักดิ์ระบุว่า มีวิทยานิพนธ์อีกเล่มของคุณวรรธนวรรณ ประพัฒน์ทอง เรื่อง พระราชอำนาจในการพิจารณาฎีการ้องทุกข์ ยืนยันไว้ในหลายที่ว่า พ.ร.ฎ.วางระเบียบวิธีการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา พ.ศ.2457 ยังคงใช้บังคับอยู่ นอกจากนี้ยังระบุถึงกรณีฎีกานิสิต จุฬาฯ ไว้ ความดังนี้

"กรณีของฎีกานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี พ.ศ.2506 นั้น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีคำสั่งลงโทษนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ก่อเรื่อง วิวาทร้ายแรงระหว่างนิสิตต่างคณะ โดยการไล่ออกและพักการศึกษาครั้งนั้น เป็นเรื่องที่เป็นกรณีที่รุนแรงระหว่างนิสิตกับทางมหาวิทยาลัย ซึ่งในขณะนั้นนายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งอธิการบดี ความรู้สึกที่ไม่ดีเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะก่อตัวเป็นความแตกร้าวระหว่าง ประชาชนกับรัฐบาล เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงดนตรีที่จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยในวันที่ 20 กันยายน ขณะที่เสด็จออกจากประตูพระตำหนักจิตรลดารโหฐานนั้น นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์จำนวน 9 คน ได้เข้ามาทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษแทบพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"

อ้างมีพระราชดำรัส"ต้องสำนึกผิดด้วย"

ในวิทยานิพนธ์ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระมหากรุณาธิคุณรับฎีกา และมีพระราชดำรัสว่า ในการที่จะถวายฎีกานั้น จะต้องมีความสำนึกผิดจริงๆ ทางใจด้วย ต้องยอมรับว่าที่ได้กระทำไปแล้วเป็นความผิดจริง จึงจะอภัยกันได้ มิใช่เป็นการถวายฎีกาแต่เพียงลายลักษณะอักษร

"เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปถึงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตามหมายกำหนดการ แล้ว มีพระราชดำรัสเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ที่ประชุมฟังเกี่ยวกับที่นิสิตทูล เกล้าฯ ถวายฎีกา และมีพระราชดำรัสว่า ฎีกานี้นิสิตทั้งหลายที่ถูกทำโทษเขียนมารับว่าทำผิดจริง การรับว่าทำผิดนี้แสดงว่าเขารู้ตัวว่าผิด คนเราทำผิดครั้งเดียวนับว่าเก่ง นิสิตพวกนี้ไม่เคยบอกว่าทำผิดมาก่อน การที่เขาทำผิดและฎีกามาบอกในวันนี้ จึงอยากจะให้อธิการบดีและคณาจารย์อภัยเขาเสีย เนื่องในงานวันนี้"

"ด้วยพระราชดำรัสดังกล่าวนี้เอง ทำให้อธิการบดีรับสนองพระราชประสงค์ และประกอบพิธีลดโทษนิสิตเหล่านั้น โดยให้ทุกคนปฏิญาณต่อหน้าอาจารย์ แล้วคืนสภาพแห่งความเป็นนิสิตอีกครั้ง"

__________________________________________



"ยงยศ"แฉมั่วเซ็นชื่อค้านฎีกา กำนัน-ผญบ.ลอกจากบัญชีเลือกตั้ง

วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11480 มติชนรายวัน

นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กรณีคนเสื้อแดงร่วมล่ารายชื่อประชาชนทั้งประเทศยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ปรากฏว่าทางกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการผ่านนายอำเภอไปยังกำนันผู้ใหญ่บ้าน ขอความร่วมมือให้ประชาชนลงลายเซ็นเพื่อถอนรายชื่อและคัดค้านการถวายฎีกาดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบทำให้กรรมการบริหารสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทยเกิดความขัดแย้งกัน เนื่องจากมีทั้งกลุ่มที่สนับสนุนและคัดค้านการดำเนินการเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะแกนนำของสมาคมในภาคเหนือและภาคอีสาน ล่าสุดยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าสมาคมจะเดินหน้าดำเนินการหรือมีข้อยุติในเรื่องดังกล่าวอย่างไร

"ได้รับแจ้งจากกำนันผู้ใหญ่บ้านบางพื้นที่ว่า เพื่อให้การล่ารายชื่อรวดเร็วทันใจ จึงได้ปลอมแปลงลายเซ็นของชาวบ้านที่ลอกมาจากบัญชีรายชื่อการเลือกตั้งส่งให้นายอำเภอ เพื่อไม่ให้มีปัญหากับฝ่ายปกครอง เนื่องจากขณะนี้กระทรวงมหาดไทยต้องการจำนวนตัวเลขไปเทียบเคียงกับรายชื่อถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยส่วนตัวมองว่าไม่มีประโยชน์ในการแข่งขันกันเรื่องตัวเลข เพราะไม่มีใครออกมายืนยันว่า การที่ประชาชนทั่วประเทศออกมาสนับสนุนและคัดค้านเป็นไปด้วยความสุจริตและเกิดจากความสมัครใจหรือไม่ วันนี้ยังไม่มีใครออกมาพิสูจน์ว่าลายเซ็นของกลุ่มที่ค้านและสนับสนุนเป็นของจริง ก่อนที่จะมีการถวายฎีกาให้กับสำนักพระราชวังในวันที่ 17 สิงหาคมนี้" นายยงยศกล่าว

ด้านนายชาตรี อยู่ประเสริฐ เลขาธิการสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย เผยกรณีที่ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า อปท.ร่วมมือกับคนเสื้อแดงไปจ้างวานประชาชนมาลงชื่อเพื่อร่วมถวายฎีกานั้นว่า ขอให้ไปทบทวนคำพูดเสียใหม่ อปท.ไม่มีพฤติกรรมแบบนั้น ขณะที่กระทรวงมหาดไทยเองก็มาร้องขอให้ อปท.ช่วยทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ซึ่งแทนที่ อปท.จะได้ความดีจากรัฐบาล ยังกลับมาถูกรัฐบาลโยนบาปให้อีก


_________________________________________



ถึงพวกมึงขี้ข้าอำมาตย์เผด็จการ

เล่นกันไม่เลิกจะเอากันให้ตาย ทั้ง ไอ้ อี หน้าเหี้ย หน้าหอย หน้าหมี ขี้ข้าเผด็จการอำมาตย์ชั่ว เสนอหน้ากันออกมาค้านการถวายฎีกา นี่พวกมันเลวโดนสันดานของจริงเลยนะ เหตุผลต้องด่าแรงกันแบบนี้เพราะมันสุดจะทนแล้ว พวกมึงทั้งนั้นที่เป็นต้นตอปัญหาทั้งปวงเพราะความอิจฉาโลภไม่รู้จักพอ ไม่มองเห็นค่าคนจนอย่างพวกกู แต่ตอนนี้ก็เห้นแล้วไม่เพียงคนจน มีคนรวยที่มีคุณธรรมมากมายที่เข้าใจและเห็นด้วย ความรู้มึงมันวิเศษกว่าคนเสื้อแดงที่เรียนและจบมาจากที่เดียวกับพวกมึงแค่ไหน ทำไมมึงถึงออกมาค้านทุกเรื่อง ถ้าพันธมิตร หรือ พวกเสื้อน้ำเงินออกมามากขนาดนี้พวกมึงคง กระหยิ่มสินะ ไอ้ อี พวกจัญไร พวกมึงทั้งนั้นที่ อ้างและทำกันทุกเรื่องมันแตกแยก เมื่อคนเสื้อแดงเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมพึ่งใครไม่ได้ ไม่เสือกมาอ้างหรอกว่าหมิ่น ศาลนั่น ศาลนี่ เพราะนั่นก็คนที่มันไม่ฟังคนอีกส่วนที่เรียนจบมาจากที่เดียวกันเหมือนกัน แต่ เอะอะ ก็คนเสื้อแดงทำไม่ถูก ไม่ควร แล้วพวกมึงล่ะ สาระเลวยิ่งกว่าคนเสื้อแดงอีกในการอ้างเบื้องสูง คนเสื้อแดงน่ะ หวังพึ่งพระบารมี ร้องทุกข์ขอความเมตตา กับสิ่งที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่มิได้กำหนดว่าพระอค์ท่านจะ ต้องทำตาม คำร้องขอ ของคนเสื้อแดงเลย นั่นคือการแสดงความจงรักภักดีเทิดทูลไว้เหนือสิ่งใดแล้ว แล้วพวกที่แกล้งโง่เพียงเพื่อต้องการอำนาจที่ได้มาไม่ถูกต้อง และมานั่งบริหารบ้านเมืองให้ล่มจมอยู่ทุกวัน ใช้งบ กี่พันล้านแล้วที่เอาไปประชาสัมพันธ์ สร้างภาพของพวกมึง แลฃะเอาไปใช้สร้างความแตกแยกใส่ร้ายคนเสื้อแดง แทนที่มึงจะเอาเงินเหล่านั้นไปช่วยชาวบ้านที่ยากจนจริง พวกมึงก็ไม่ทำ ข้าว ข้าวโพด และพืชผลไม้ต่างๆ ราคาตกต่ำ มึงก็ไม่เคยยื่นมือช่วยดีแต่พูด แต่จ้องแต่จะขัดขวางคนเสื้อแดง พวกมึงเป็น เหี้ย อะไรกันนักหนา ทำไมซึมซับ ความชั่วช้า สาระเลว ใจทราม ไว้มากมายกันขนาดนี้ พวกมึงยิ่งกระทำเรื่องเลวกลั่นแกล้งใส่ร้ายต่อคนเสื้อแดง คนเสื้อแดงก็จะยิ่งมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้นๆๆ จน เต็มแผ่นดินและอาจจะมากจน เหยียบพวกมึง จม ธรณี

เคยสำนึกกันใส่กระโหลกบ้างไหม ใครที่ทำไร่นา ปลูกข้าวให้พวกมึงแดก ก็คนจนอย่างพวกกูไง ที่ทำมาตลอด น้ำหน้าอย่างพวกมึงมีปัญญาเหรอ
แต่จะค้าขายบ้าง ได้ราคาแสนถูกทั้งที่พวกกูทุกยากลำบากน้ำตาปนเม็ดเหงื่อ แต่พวกมึงขึ้นภาษีหาแดก กู้เงินมาผลาญให้พวกกูเป็นหนี้ด้วย ดูแลแย่ๆเอาเปรียบมองข้ามพวกกูแบบนี้ พวกมึงอย่าแดกข้าวเลย ไปแดกขี้แลยดีกว่า เสียดายข้าวว่ะ

4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ16 สิงหาคม 2552 เวลา 14:33

    หมอบ้า ส่งความรู้วิชาแพทย์กลับคืนสถาบันที่ให้ได้รับความรู้มา
    เสียดายอนาคต จงจดจำไว้ เบญจวรรณ ไม้รอด ไม่รอดแน่นอน
    โดยเฉพาะกับคนเสื้อแดงที่มีใจบริสุทธิ์ ไม่เอนเอียงเหมือนหมอไร้จรรยาบรรณ,,,,จากคนรักความเป็นกลาง

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ17 สิงหาคม 2552 เวลา 23:07

    เขาเป็นหมอรักษาคนไม่ใช่หมอรักษาสัตว์ เขาเลยไม่รับรักษาตัวเหี้ยแบบพวกมึง

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ5 ตุลาคม 2552 เวลา 20:45

    เขาต้องรักษาแต่สัตย์เดรัจฉานอย่างพวกเดียวกันคือพันธมิตรใช่ไหม
    เพราะการกระทำที่เหี้ยยังอายก็มีแต่พวกพันธมิตรสารเลวนั่นแหละบ้านเมืองถึงได้ตกต่ำเช่นนี้

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ13 กรกฎาคม 2553 เวลา 14:43

    ที่พวกเดียวกันไม่เห็นสนใจที่จะเอาเรื่องเลย
    ปิดหูปิดตาประชานชน ภูมิใจเหรอกับตำแหน่งบนความสาบเเช่งของประชาชน

    ตอบลบ

คลังบทความของบล็อก