ชาวดิน ออนเน็ต

***อนิจา วาสนา ไพร่***

เรียกร้องเถอะ ร่ำหา กันให้ตาย
เคยบ้างไหม เคยได้ สิ่งที่หวัง
กราบแทบเท้า ติดดิน ร้องเสียงดัง
มีสักครั้ง บ้างไหม ใครเมตตา

สิ่งที่ขอ รอมา กี่ชาติแล้ว
ไร้วี่แวว สิทธิ ที่ใฝ่หา
เป็นแค่ไพร่ เขาชี้ เป็นอีกา
อย่าได้มา ร่วมหงส์ ดงผู้ดี
ร้องขอมา กี่ปี กี่ชาติแล้ว
ก็ไม่แคล้ว โดนด่า ฆ่าทุบตี
จากปู่ย่า มาถึง ทุกวันนี้
ถูกย่ำยี ไล่บี้ ให้จำนน
ตายแล้วสิบ เกิดใหม่ ได้เป็นแสน
แต่ขาแขน ถูกตรึง ด้วยเล่ห์กล
แล้วเมื่อไหร่ สิ่งนี้ จะหลุดพ้น
รับกฏโจร กฏหมาย ไร้ปราณี
อนิจา วาสนา ชะตาไพร่
ถูกใส่ร้าย กล่าวหา ว่าบัดสี
ทั้งหมอบกราบ ก้มไหว้ อย่างภักดี
แพ้วจี คนโฉด โป้ปดลวง
คงถึงครา แล้วหนา บรรดาไพร่
แม้ร่ำไห้ ร้องขอ ก็ช้ำทรวง
เขาไม่แล พวกเรา ไพร่ทั้งปวง
ต้องวัดดวง ทวงค่า ความเป็นคน


โดย ยรรยง ลูกชาวดิน

7 / มีนาคม / 2553
........


วันพุธ, สิงหาคม 12, 2552

ศิลปินพันธมิตรเข้าเฝ้าฯ ถวายพระสาทิสลักษณ์วันแม่ ตรัสชื่นชมตี๋ชิงชัย"เก่งมาก"

ที่มา http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=











พระราชินีให้ศิลปินพันธมิตรเข้าเฝ้าฯ ถวายพระสาทิสลักษณ์วันแม่ ตรัสชื่นชมตี๋ชิงชัย"เก่งมาก"

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา เวบผู้จัดการASTV
13 ตุลาคม 2551 "เป็นห่วงพันธมิตรทุกคน ไว้จะฝากดอกไม้ไปเยี่ยมพันธมิตร"พระราชินีรับสั่งกับนายจินดา ระดับปัญญาวุฒิ บิดา นางสาวอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือ น้องโบว์ ในงานพิธีพระราชทานเพลิงศพ น.ส.อังคณา


พันธมิตรที่ว่ามีหัวหน้าเป็นโจรก่อการร้ายสากลพันธมารกบฎโกเตกซ์และอ้างตัวเป็นเขย ซึ่งรอดตายจากคนซึ่งไอ้โจรบอกว่าเป็นพวกทหารป้อม-ป๊อกและนายทุนที่อยู่ต่างประเทศ(เอกยุทธ อัญชัญบุตร ท้าวแชร์ชาร์เตอร์ หนีคดีอยู่ที่อังกฤษ) ไม่แน่ว่าจะรอดไปได้อีกสักกี่น้ำ


11 สิงหาคม 2552 18.03 น. ที่ศาลาดุสิตาลัย พระราชินีตรัสว่า"สี่ยุคหรือ แค่สามยุคก็แย่แล้ว ข้าพเจ้าใจหายใจคว่ำ ยุคนี้ กลียุค"





1.ปะทะ- ม็อบพันธมิตรฯ ใช้ด้ามธงตอบโต้ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระหว่างการปะทะกันหลังจากตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา ทำให้ได้รับบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย ตามข่าว

2.นองเลือด- จ.ส.ต.ทวีป กลั่นเนียม ตำรวจจากสภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ถูกอาวุธคล้ายมีดติดอยู่ที่ด้ามธง แทงได้รับบาดเจ็บสาหัส ระหว่างเข้าสลายม็อบที่แยกพิชัย ขณะที่นายธัญญา กูลแก้ว การ์ดพันธมิตร ถูกระเบิดจนขาขวาขาดตั้งแต่หัวเข่า ระหว่างการยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ต.ค.

3.แรงต่อแรง- กลุ่มพันธมิตรพร้อมอาวุธเข้าขัดขวาง ระหว่างตำรวจเข้าสลายการชุมนุมปิดล้อมรัฐสภา เพื่อเปิดทางให้รัฐมนตรี ส.ส.และส.ว.เข้าประชุมรับฟังการแถลงนโยบายของรัฐบาล ทำให้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย เมื่อเช้าวันที่ 7 ต.ค.

4.หลบแก๊ส- ผู้ชุมนุมพันธมิตร ล้มตัวลงหมอบกับพื้นกันจ้าละหวั่น หลังตำรวจหน่วยปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตาใส่ ในเหตุการณ์สลายม็อบที่ปิดล้อมรัฐสภา ที่บานปลายกลายเป็นการจลาจลกลางกรุง เมื่อวันที่ 7 ต.ค.












































www.matichon.co.th/mtc-flv-window.php?newsid=...

และแล้วอยากนำภาพของคุณ รุ่งศิลา มาดูอีกครั้ง ในวันนี้ที่ มาร์ค อภิสิทธิ เวชชาชีวะ สามหาวเห่าใส่พม่าเรื่องประชาธิปไตย ช่างไม่ส่องกระจกดูตัวเอง




วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 07, 2009

คนอ่านติดใจ คนโพสท์ติดคุ

โดย : rungsira





สมัย นปก. เสื้อเหลือง ปะทะสี่เสาร์เทเวศน์ บันทึกสีม่วง คืนวันที่ 22 กรกฏาคม 2550 นะครับ




ณ วันนี้ประเทศไทยภายใต้อำนาจของมาร์คและพวกอำมาตย์ ทหารเลวบางกลุ่ม มันเป็นประชาธิปไตยนักหรือ
สัญญาณการล่มสลายฝ่ายความมั่นคง....

ที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวถึงการก่อเหตุลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุลว่า ตนเองไม่ขอวิเคราะห์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเรื่องดังกล่าวถือเป็นคดีอาชญากรรม ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ก็ยังคงพบว่า มีการลักลอบนำอาวุธมาใช้ก่อเหตุอยู่อย่างต่อเนื่อง เช่น กรณีที่มีการใช้อาวุธสงครามลอบยิงที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้

"ที่ผ่านมาที่ไม่มีความเรียบร้อยเพราะมีกลุ่มคนไปทำให้เกิดความไม่สงบ เรานำทหารเข้าไปในพื้นที่ และจัดเวรยามไปอยู่โดยเฉลี่ย 1 เขต มี 2 จุดเท่านั้น เพื่อดูแลความเรียบร้อย และสร้างความเข้าใจไม่ว่าจะเป็นเขตดุสิต พญาไท หรือบางซื่อ เราไม่ได้เอาไปจับผู้ร้ายว่า ใครจะยิงใคร แต่เพื่อเป็นจุดตรวจและเฝ้าระวังว่า หากมีการรวมกลุ่มในลักษณะที่ก่อให้เกิดความไม่สงบอีก เราจะนำกำลังที่เก็บไว้ออกมาแก้ไขปัญหาได้ ไม่ได้มุ่งหวังแก้ปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของทหาร ผมได้เน้นว่า ในวันที่ 20 เม.ย.นี้ที่เป็นวันเปิดทำงาน ในช่วงกลางวันจะไม่เห็นกำลังในส่วนนี้ แต่ในยามค่ำคืนจะออกมารักษาความสงบเรียบร้อย ยกเว้นแต่จะเลิกปฏิบัติก่อนจึงจะลดกำลังออกไป" ผบ.ทบ.กล่าว
เกมความขัดแย้งภายในรัฐบาลจากประเด็นร้อนๆอย่าง"คดีสนธิ ลิ้ม "และ"เชือด(ชั่วคราว)พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ " ถูกจับความเชื่อมโยงไล่พาลไปถึง การจัดทำ"โผปรับกำลังพล"ของหน่วยงานความมั่นคงอย่างกองทัพและตำรวจ ที่อบอวลไปด้วยข่าวปล่อย ข่าวลือ ลับ ลวงพราง มากมาย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายในระดับนายพล 152 ตำแหน่ง ที่ผ่านคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)เป็นที่เรียบร้อยไปแล้วนั้น จะเอาอย่างไร รื้อ- ไม่รื้อ หรือจะเป็นเรื่องคนสนิทผู้ใหญ่ซื้อขายตำแหน่งนายพล หรือจะเป็นเรื่องโผกองทัพที่ยังกรุ่นๆไม่สะเด็ดน้ำฯลฯ

ประเด็นพัชรวาทแม้นายกฯ เลือก " พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี " ที่ปรึกษา (สบ 10)ที่ไม่มีแต้มในตำแหน่งนายใหญ่สีกากีเลย มาสวมหัวโขนรักษาการชั่วคราว จนกว่าพัชรวาท จะสิ้นสุดการลาพักร้อนในวันที่14 ส.ค.นี้นั้นเป็นการ "ซื้อเวลา" ด้วยตัวละครที่อยู่ในคู่ความขัดแย้งน้อยที่สุด
(ช่วงนี้กองเชียร์ตัวพ่อทั้งอยากให้ปลด-ไม่ปลด เปิดหน้ากันซดกัน ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(แนบแน่น พันธมิตร) ที่ชี้ชัดต้องเชือดพล.ต.อ.พัชรวาท ในขณะที่พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีตโฆษกตร.บอกปลด พัชรวาท โดนศาลปกครองแน่)

และแน่นอนว่าเรื่องนี้...ยังไม่จบ ...เพราะ พล.ต.อ.พัชรวาทย่อมไม่พอใจ ยิ่งกว่านั้น พี่ชายสายโลหิต "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" บิ๊กกลาโหมยิ่งไม่พอใจทบ ทวีคูณ แต่ทำอะไรไม่ได้ถนัดนัก แต่คำพูดดุๆของ "เลขาฯบิ๊กป้อม-พล.อ.นพดล อินทปัญญา" ในทำนองว่านายทนไม่ไหวแล้ว " ตอนนี้จะเดินหน้าฟ้องตาม กฎหมายทุกอย่างหรือ นอกกฎหมายก็จะยอมทำ" (30 ก.ค.2552) ก็เป็นการส่งสัญญาณรบกับคู่ปรปักษ์อย่างไม่กลัวพอกัน


แต่ที่รู้ชัดคือคนเหล่านี้กำลังต้องการหาวิธีสืบอำนาจและสกัดการยื่นถวายฎีการ้องทุกข์ของคนเสื้อแดงต่อ พระมหากษัตริย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก