ชาวดิน ออนเน็ต

***อนิจา วาสนา ไพร่***

เรียกร้องเถอะ ร่ำหา กันให้ตาย
เคยบ้างไหม เคยได้ สิ่งที่หวัง
กราบแทบเท้า ติดดิน ร้องเสียงดัง
มีสักครั้ง บ้างไหม ใครเมตตา

สิ่งที่ขอ รอมา กี่ชาติแล้ว
ไร้วี่แวว สิทธิ ที่ใฝ่หา
เป็นแค่ไพร่ เขาชี้ เป็นอีกา
อย่าได้มา ร่วมหงส์ ดงผู้ดี
ร้องขอมา กี่ปี กี่ชาติแล้ว
ก็ไม่แคล้ว โดนด่า ฆ่าทุบตี
จากปู่ย่า มาถึง ทุกวันนี้
ถูกย่ำยี ไล่บี้ ให้จำนน
ตายแล้วสิบ เกิดใหม่ ได้เป็นแสน
แต่ขาแขน ถูกตรึง ด้วยเล่ห์กล
แล้วเมื่อไหร่ สิ่งนี้ จะหลุดพ้น
รับกฏโจร กฏหมาย ไร้ปราณี
อนิจา วาสนา ชะตาไพร่
ถูกใส่ร้าย กล่าวหา ว่าบัดสี
ทั้งหมอบกราบ ก้มไหว้ อย่างภักดี
แพ้วจี คนโฉด โป้ปดลวง
คงถึงครา แล้วหนา บรรดาไพร่
แม้ร่ำไห้ ร้องขอ ก็ช้ำทรวง
เขาไม่แล พวกเรา ไพร่ทั้งปวง
ต้องวัดดวง ทวงค่า ความเป็นคน


โดย ยรรยง ลูกชาวดิน

7 / มีนาคม / 2553
........


วันพฤหัสบดี, เมษายน 30, 2552

คนชั้นกลาง-รากหญ้ายี้รัฐบาล‘มาร์ค’

จาก นสพ.โลกวันนี้
นักวิชาการม.ธรรมศาสตร์เผยลงพื้นที่พูดคุยกับประชาชนพบกระแสการไม่ยอมรับรัฐบาล “อภิสิทธิ์” ขยายตัวในวงกว้าง เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับกลุ่มบุคคลที่อยู่ในอำนาจขณะนี้ ทั้งตัวนายกฯ ขบวนการตุลาการภิวัฒน์ ทหาร นักวิชาการ และสื่อที่เอียงข้าง ร่วมกันตั้งฉายาให้เป็น “ผู้ดีหน้าด้าน” ระบุหากไม่อยากถูกต่อต้านมากขึ้นรัฐบาลและผู้สนับสนุนต้องปรับเปลี่ยนท่าที เชื่อแม้คนเสื้อแดงเลิกชู “ทักษิณ” เป็นแกนนำแต่ไม่มีผลกระทบต่อแนวร่วม อดีตรัฐมนตรียุบปฏิวัติยอมรับกระแสเรียกร้องประชาธิปไตยขยายวงกว้างและคนเข้าร่วมหลากหลายมากขึ้น แกนนำเสื้อแดงรุ่น 2 นัดชุมนุม 17 พ.ค. “มาร์ค” โยนประธานรัฐสภาแก้ปมตั้งกรรมการแก้ปัญหาการเมืองที่ฝ่ายค้านอาจไม่เข้าร่วม
รศ.ดร.วรพล พรหมมิกบุตร อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่สอบถามประชาชนหลากหลายอาชีพทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เกี่ยวกับทัศนคติที่มีต่อรัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พบว่ามีประชาชนจำนวนมากตั้งแต่คนรากหญ้าและคนชั้นกลางได้สรุปบุคลิกลักษณะของผู้นำรัฐบาล รวมทั้งพวกตุลาการภิวัฒน์ กองทัพ นักวิชาการ นักสื่อสารมวลชน เอ็นจีโอ และนักธุรกิจระดับสูง ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายรัฐบาลว่าคนพวกนี้เป็น “ผู้ดีหน้าด้าน”


ประชาชนทั่วไปคิดคล้ายกัน

“การที่ประชาชนจำนวนมากมีความคิดที่คล้ายๆกันสะท้อนให้เห็นรูปธรรมของข้อเท็จจริงบางอย่างที่บิดเบือนไม่ได้ และพูดตรงกันว่าประเทศไทยปกครองโดยผู้ดีหน้าด้าน ผมฟังดูก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ซึ่งคำว่าผู้ดีหน้าด้านเป็นคำที่เข้าถึงสภาพความคิดของคนไทยและไม่ถือเป็นคำหยาบ เพียงแต่คนที่พาดพิงถึงอาจจะไม่ชอบที่ถูกกล่าวถึง” รศ.ดร.วรพลกล่าวและว่า สิ่งที่ประชาชนออกมาปฏิเสธรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลขนาดนี้ อาจจะช่วยทำให้รัฐบาลและกลุ่มผู้สนับสนุนลดราวาศอกลงบ้าง

จะต่อต้านรัฐบาลกันมากขึ้น

รศ.ดร.วรพลกล่าวว่า สิ่งที่จะติดตามมาคือประชาชนที่มีแนวคิดเช่นนี้จะไม่ยอมรับและให้ความร่วมมือกับพวกผู้ดีหน้าด้านทุกรูปแบบ ทั้งนี้ ความไม่ร่วมมือ เช่น ถ้ารัฐบาลสั่งปิดวิทยุชุมชนชาวบ้านก็จะโต้แย้ง หรือถ้าใช้อำนาจจับเขาดำเนินคดีก็จะฟ้องกลับ ขณะนี้กำลังขยายวงกว้างไปทั่วประเทศแล้ว และยืนยันว่าผู้คนจะออกมาต่อต้านและต่อสู้โดยที่ไม่ผิดกฎหมายและมีประสิทธิภาพ ถ้าเทียบกับนักศึกษาปริญญาตรีที่สอนในคณะสังคมศาสตร์จะพบว่านักศึกษาปริญญาตรียังมีความรู้เกี่ยวกับสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ น้อยกว่าคนที่มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงหลายกลุ่มทีเดียว

การชุมนุมแสดงถึงการต่อต้าน

รศ.ดร.วรพลยังกล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าว่า การชุมนุมใหญ่ครั้งนี้เป็นความต้องการของประชาชนที่สนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดงที่ต้องการแสดงเจตนารมณ์ว่าไม่ร่วมมือกับรัฐบาลชุดนี้ในการบริหารประเทศ และสร้างปัญหา สร้างภาระระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการกู้เงินจากต่างประเทศหรือกู้จากสถาบันการเงินในประเทศก็ตาม ตรงนี้เป็นเรื่องของประชาชนที่ไม่ยินยอม ดังนั้น ประชาชนจึงให้การสนับสนุนการชุมนุมตามกรอบรัฐธรรมนูญ

ไม่ชู “ทักษิณ” ไม่ทำให้เสื้อแดงอ่อน

ส่วนกรณีที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่ชู พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นแกนนำเคลื่อนไหวนั้น รศ.ดร.วรพลกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการประชาธิปไตย จะชู พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ก็ลบความคิดอันนี้ออกจากใจประชาชนไม่ได้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นแนวร่วม ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่ผู้บงการที่มาชี้นิ้วให้กลุ่มคนเสื้อแดงทำอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นแค่แนวร่วมที่สนับสนุนคนเสื้อแดงและประชาธิปไตย รวมทั้งต่อต้านการรัฐประหาร


ติงสื่อกระแสหลักเอียงข้าง

รศ.ดร.วรพลกล่าวสนับสนุนข้อเรียกร้องกลุ่มคนเสื้อแดงที่ให้รัฐบาลคืนอุปกรณ์สถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่นว่า เพราะเห็นว่าจำเป็นต้องมีสื่อและช่องทางสื่อสารที่ถ่วงดุลข้อมูลกัน ที่ผ่านมาวงการสื่อมวลชนระหว่างประเทศมองเห็นชัดเจนแล้วว่าระบบสื่อของไทยที่เป็นสื่อกระแสหลักมันบิดเบี้ยว ลำเอียง โดยที่รัฐบาลไม่ต้องบังคับ แต่สื่อกระแสหลักพวกนี้ได้ร่วมมือปกปิดข่าวของกระบวนการเสื้อแดง และอันไหนที่เป็นข่าวออกมาจะเป็นลักษณะที่ว่ามีการเพิ่มเติมความเห็นในทิศทางที่ตำหนิติเตียนเป็นโทษ

ไม่คืนดีสเตชั่นยิ่งขัดแย้ง

“ผมคิดว่าถ้ารัฐบาลไม่คืนสถานีดีสเตชั่นให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง เชื่อว่าจะเกิดปมขัดแย้งและเป็นเชื้อปะทุสำคัญอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เกิดความรุนแรงได้” รศ.ดร.วรพลกล่าวพร้อมระบุถึงการเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลว่า การดำเนินการของรัฐบาลไม่ใช่ทางออกของปัญหาวิกฤตการเมือง เป็นเพียงการยืดเวลาหาทางที่จะครองอำนาจต่อโดยพยายามประคองตัวไปเรื่อยๆ อาจคิดว่าคนจะเหนื่อยและลืม และใช้วิธีตลบหลังแบบเดิมที่เคยทำสมัยแก้วิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ที่ได้ผลักดันหนี้สินของเอกชนให้มาเป็นหนี้สินสาธารณะหลายแสนล้านบาท






ที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 28 เมษายน นายวีระ มุสิกพงษ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้จัดการแถลงข่าวพบปะสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ภายหลังที่ได้รับการประกันตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

2009-04-28 เวลา 17:12:46

มติชนออนไลน์
"วีระ-ณัฐวุฒิ-จตุพร"นัดชุมนุมใหญ่สัปดาห์หน้า จี้เร่งเปิดดี-สเตชั่น


ที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 28 เมษายน นายวีระ มุสิกพงษ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้จัดการแถลงข่าวพบปะสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ภายหลังที่ได้รับการประกันตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ


นายวีระ กล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะมีการชำระเหตุการณ์การชุมนุมในช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหาสถานที่เพื่อชุมนุมกันอย่างสงบและปราศจากอาวุธ เพื่อสรุปสถานการณ์ที่ผ่านมาให้ชัดเจนภายใน 2 - 3 นี้ จากนั้นจะนัดหมายคนเสื้อแดงทั่วประเทศภายในสัปดาห์หน้า ขอยืนยันว่าการชุมนุมครั้งนี้ จะไม่ออกนอกแนวทางที่รัฐธรรมนูญได้ให้สิทธิไว้อย่างแน่นอน


นายวีระ กล่าวถึงการออกอากาศของสถานดีสเตชั่นว่า ดีสเตชั่นไม่ใช่สถานีของพวกตน เพราะพวกตนเป็นแค่นักจัดรายการเท่านั้น ซึ่งขณะนี้เจ้าของสถานีกำลังดำเนินการเรื่องนี้ไปตามกฎหมาย มั่นใจว่าภายในสัปดาห์จะรู้ว่า จะสามารถออกอากาศให้ชมได้อีกเมื่อใด


นายวีระ กล่าวถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นว่า เป็นเหตุวิกฤตของบ้านเมือง นับเป็นประวัติศาสตร์ จึงควรตั้งกรรมการมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนการที่สื่อมวลชนกล่าวหาว่า คนเสื้อแดงเป็นคนก่อจลาจลนั้น ถือเป็นการใช้ศัพท์ที่ไม่เป็นธรรม จำเป็นต้องมีการสะสางเพื่อความเป็นธรรม ส่วนการใช้กำลังทหารสลายการชุมนุมโดยใช้อาวุธนั้น ไม่เป็นไปตามขั้นตอนตามที่ศาลปกครองเคยวินิจฉัยไว้

นายจตุพร กล่าวว่า สำหรับกรณี ดี-สเตชั่น และการปิดวิทยุชุมชน ที่นายกฯบอกว่า ปิดตามพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งวันนี้รัฐบาลได้ยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ไปแล้ว คิดว่า สถานีจะเปิดได้ แต่โยนให้นายสาทิตย์และกลับอ้างกฎหมายอื่นปิดสถานีดังกล่าวต่อไป ตนคิดว่า คนเป็นนายกฯไม่ควรมีพฤติกรรมกะล่อนอย่างนี้ หากใช้กฎหมายอื่นๆทุกสถานีดาวเทียมรวมถึงเอเอสทีวีก็ต้องถูกปิดหมด แต่นี่กลับปิดเฉพาะ ดี-สเตชั่น


"ฝ่ายรัฐอย่าใช้กฎหมายไล่ล่าหรือบีบเราจนจนตรอก เพราะหากเราไม่ใส่เสื้อแดงจะยิ่งน่าวิตก เพราะจะแยกไม่ได้เลย รัฐบาลลงพื้นที่เจอแบบนี้แล้วจะทำอย่างไร ขอเตือนว่า ไม่ใส่เสื้อแดงมาต่อต้านน่ากลัวกว่าใส่เสียอีก จะกำหนดมาตรการการต่อไปซึ่งแกนนำรุ่น 2 ก็พร้อมแล้ว"นายจตุพรกล่าวและว่าคุยกับพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.สูงสุดแล้ว ภายในสัปดาห์นี้จะแจ้งความฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวหาหมิ่นประมาทกรณีใส่ร้ายว่าสั่งการนำรถแก๊สไปที่หน้าแฟลตดินแดงและบริษัทคิงพาวเวอร์ เพราะเป็นประธานบริษัทสยามแก๊ส

................................




......ผู้ดีหน้าด้าน กับ หมอหน้าไม่อาย เข้าแจ้งส่งข้อมูลในสภา ลองคิดเอาว่า มันเตี้ยมกันเห็นๆ
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เดินทางมาเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมให้ข้อมูลผลพิสูจน์การเสียชีวิตของทหารอภินพ เครือสุข ที่ด้านหลังห้องประชุมสภาเพื่อใช้ในตอบการอภิปราย






กระทู้พลทหาร : ในการประชุมสภาผู้แทนราษฏร์ เมื่อวันที่ 30 เมษายน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กระทู้ถามสดเรื่อง การเสียชีวิตของพลทหารในบ้านพักแม่ทัพภาคที่ 1 ต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยนายกฯได้ตอบเพียงเบื้องต้น โดยให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดถึงการสอบสวนของตำรวจ

2009-04-30 เวลา 16:46:27

มติชนออนไลน์ http://www.matichon.co.th/mtc-flv-window.php?newsid=1241085155
ส.ส.เพื่อไทยถามกระทู้สดนายกฯ ข้องใจพลทหารตายผิดธรรมชาติ

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฏร์ เมื่อวันที่ 30 เมษายน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กระทู้ถามสดเรื่อง การเสียชีวิตของพลทหารในบ้านพักแม่ทัพภาคที่ 1 ต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยนายกฯได้ตอบเพียงเบื้องต้น โดยให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดถึงการสอบสวนของตำรวจ


ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 30 เมษายน มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดเรื่อง การเสียชีวิตของพลทหารในบ้านพักแม่ทัพภาคที่ 1 ในภาวะบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ของนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ถามต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี


นพ.ชลน่าน กล่าวว่า รัฐบาลต้องรีบทำให้กระจ่าง โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน ที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นวันที่สาม ปรากฏว่า พลทหารอภิณพ เครือสุข เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ใบมรณบัตรระบุเวลาเสียชีวิต 09.00 น. มีพ.ท.สุกิจ เพ็งเจริญ เป็นผู้นำส่งและแจ้งการตายที่สน.พญาไท มีพล.อ.ต.นพ.วิชาญ เบี้ยวนิ่ม รับรองการเสียชีวิต หลังจากที่เรื่องนี้ออกสู่สาธารณะ มีการพูดกันหลายกระแส เช่น มีบางพรรคหรือนักการเมืองหากินกับศพ หรือเป็นการสร้างสถานการณ์ป้ายสีนายกฯ เรื่องนี้มีข้อสังเกตคือ ความเชื่อมโยงของการประกาศภาวะฉุกเฉิน และการที่พลทาหารคนนี้เป็นทหารรับใช้บ้านแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งเป็นที่ที่นายกฯ พักอยู่ในช่วงเกิดเหตุตอนสงกรานต์ จึงอยากทราบผลการชันสูตร

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในหนังสือรับรองการตาย ระบุว่ากระดูกสันหลังส่วนคอถูกกระทบ มีเลือดออกบนเยื้อหุ้มสมองชั้นบนสุด พฤติกรรมการตายโดนของแข็งกระแทก แต่ใบมรณบัตรบอกกระดูกต้นคอหัก ส่วนพฤติกรรมการตายบอกลื่นล้มในห้องน้ำ ทั้งนี้พลทหารคนนี้โทรศัพท์คุยกับแฟนบอกปวดหัวเวลา 22.30 น.นอกจากนี้ ตอนโดนกระแทก สลบ ก็น่าไปส่งโรงพยาบาล ถ้าโดนสองทุ่ม เลือดออกสองชั่วโมง บาดแผลฉกรรจ์ก็เป็นไปได้ที่จะส่งผลถึงชีวิต


ด้านนายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า หลังเกิดเหตุที่กระทรวมหาดไทย ที่ตนประกาศภาวะฉุกเฉินร้ายแรง ก็เข้าไปหน่วยงานทหารเพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์ ประชุมถึงประมาณ ตีสองตีสามทุกคืนในช่วงนั้น ตอนเช้าก็จะเริ่มทำงาน 6-7 โมงเช้า พักที่บ้านแม่ทัพ ซึ่งพลทหารคนนี้ก็ทำงานดูแลบ้านรับรอง ทั้งนี้ตนพักคืนวันที่ 12 และ 13 เมษายน ส่วนเย็นวันที่ 14 เมษายน เหตุสงบลงแล้ว ก็ไม่ได้พักที่นั่น ส่วนการตรวจสอบ ได้รับรายงานมาว่า พลทหารส่งข้อความถึงแฟนเวลา 9 โมงวันที่ 13 จากนั้น วันที่ 14 เมษายน มาเกิดเหตุตอนสองถึงสามทุ่ม ก็มีการรายงานมาว่า ลื่นล้มในห้องน้ำ ได้รับแรงกระแทก คงเป็นที่คอหรือศรีษะ ซึ่งได้รับรายงานว่า ไม่ได้หมดสติไปเลย คงหมดสติไปพักหนึ่ง ผู้ถามเป็นแพทย์ก็คงทราบ และทราบจากรายงานว่า คืนสติขึ้นมา ก็โทรหาแฟนสาวและเพื่อน จากนั้นไปซื้อยาแล้วนอน ต่อมาทุกคนพบความผิดปกติช่วงเช้าวันถัดมา ซึ่งก็ไม่ทันการ ส่วนการตรวจก็ทราบว่า ไปที่โรงพยาบาลพระมงกุฏฯ และรามาฯ สาเหตุมาจากกระดูกต้นคอหักและมีเลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง จากการกระแทกบริเวณคอ หลังจากนั้นมีข้อสงสัยว่า ลื่นล้มจริงหรือไม่ จึงต้องการให้หน่วยงานอื่นๆเข้ามา ซี่งสุดท้ายผลการชันศูตรของโรงพยาบาลศิริราชก็เป็นไปตามผลตอนแรก ดังนั้นถ้ามีการกระทำอย่างที่สมาชิกตั้งข้อสังเกต ก็ต้องดำเนินการ ซึ่งต้องมีการพิสูจน์ ส่วนที่อ้างว่า ล้มแล้วก็น่าส่งโรงพยาบาล เรื่องนี้เพื่อนของพลทหารก็จะส่งโรงพยาบาล แต่พลทหารที่เสียชีวิตบอกไม่ต้อง และปวดหัว จึงมีการไปซื้อยาแก้ปวดมาให้ ส่วนการเยียวยาทราบว่าจะได้รับเงิน 2 แสนบาท ซึ่งเป็นการเสียชีวิตจากการทำงานฝ่ายธุรการ โดยให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานกำกับดูแลกระทรวงกลาโหม ดูแลต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก