นักวิชาการม.ธรรมศาสตร์เผยลงพื้นที่พูดคุยกับประชาชนพบกระแสการไม่ยอมรับรัฐบาล “อภิสิทธิ์” ขยายตัวในวงกว้าง เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับกลุ่มบุคคลที่อยู่ในอำนาจขณะนี้ ทั้งตัวนายกฯ ขบวนการตุลาการภิวัฒน์ ทหาร นักวิชาการ และสื่อที่เอียงข้าง ร่วมกันตั้งฉายาให้เป็น “ผู้ดีหน้าด้าน” ระบุหากไม่อยากถูกต่อต้านมากขึ้นรัฐบาลและผู้สนับสนุนต้องปรับเปลี่ยนท่าที เชื่อแม้คนเสื้อแดงเลิกชู “ทักษิณ” เป็นแกนนำแต่ไม่มีผลกระทบต่อแนวร่วม อดีตรัฐมนตรียุบปฏิวัติยอมรับกระแสเรียกร้องประชาธิปไตยขยายวงกว้างและคนเข้าร่วมหลากหลายมากขึ้น แกนนำเสื้อแดงรุ่น 2 นัดชุมนุม 17 พ.ค. “มาร์ค” โยนประธานรัฐสภาแก้ปมตั้งกรรมการแก้ปัญหาการเมืองที่ฝ่ายค้านอาจไม่เข้าร่วม
รศ.ดร.วรพล พรหมมิกบุตร อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่สอบถามประชาชนหลากหลายอาชีพทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เกี่ยวกับทัศนคติที่มีต่อรัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พบว่ามีประชาชนจำนวนมากตั้งแต่คนรากหญ้าและคนชั้นกลางได้สรุปบุคลิกลักษณะของผู้นำรัฐบาล รวมทั้งพวกตุลาการภิวัฒน์ กองทัพ นักวิชาการ นักสื่อสารมวลชน เอ็นจีโอ และนักธุรกิจระดับสูง ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายรัฐบาลว่าคนพวกนี้เป็น “ผู้ดีหน้าด้าน”
ประชาชนทั่วไปคิดคล้ายกัน
“การที่ประชาชนจำนวนมากมีความคิดที่คล้ายๆกันสะท้อนให้เห็นรูปธรรมของข้อเท็จจริงบางอย่างที่บิดเบือนไม่ได้ และพูดตรงกันว่าประเทศไทยปกครองโดยผู้ดีหน้าด้าน ผมฟังดูก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ซึ่งคำว่าผู้ดีหน้าด้านเป็นคำที่เข้าถึงสภาพความคิดของคนไทยและไม่ถือเป็นคำหยาบ เพียงแต่คนที่พาดพิงถึงอาจจะไม่ชอบที่ถูกกล่าวถึง” รศ.ดร.วรพลกล่าวและว่า สิ่งที่ประชาชนออกมาปฏิเสธรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลขนาดนี้ อาจจะช่วยทำให้รัฐบาลและกลุ่มผู้สนับสนุนลดราวาศอกลงบ้าง
จะต่อต้านรัฐบาลกันมากขึ้น
รศ.ดร.วรพลกล่าวว่า สิ่งที่จะติดตามมาคือประชาชนที่มีแนวคิดเช่นนี้จะไม่ยอมรับและให้ความร่วมมือกับพวกผู้ดีหน้าด้านทุกรูปแบบ ทั้งนี้ ความไม่ร่วมมือ เช่น ถ้ารัฐบาลสั่งปิดวิทยุชุมชนชาวบ้านก็จะโต้แย้ง หรือถ้าใช้อำนาจจับเขาดำเนินคดีก็จะฟ้องกลับ ขณะนี้กำลังขยายวงกว้างไปทั่วประเทศแล้ว และยืนยันว่าผู้คนจะออกมาต่อต้านและต่อสู้โดยที่ไม่ผิดกฎหมายและมีประสิทธิภาพ ถ้าเทียบกับนักศึกษาปริญญาตรีที่สอนในคณะสังคมศาสตร์จะพบว่านักศึกษาปริญญาตรียังมีความรู้เกี่ยวกับสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ น้อยกว่าคนที่มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงหลายกลุ่มทีเดียว
การชุมนุมแสดงถึงการต่อต้าน
รศ.ดร.วรพลยังกล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าว่า การชุมนุมใหญ่ครั้งนี้เป็นความต้องการของประชาชนที่สนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดงที่ต้องการแสดงเจตนารมณ์ว่าไม่ร่วมมือกับรัฐบาลชุดนี้ในการบริหารประเทศ และสร้างปัญหา สร้างภาระระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการกู้เงินจากต่างประเทศหรือกู้จากสถาบันการเงินในประเทศก็ตาม ตรงนี้เป็นเรื่องของประชาชนที่ไม่ยินยอม ดังนั้น ประชาชนจึงให้การสนับสนุนการชุมนุมตามกรอบรัฐธรรมนูญ
ไม่ชู “ทักษิณ” ไม่ทำให้เสื้อแดงอ่อน
ส่วนกรณีที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่ชู พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นแกนนำเคลื่อนไหวนั้น รศ.ดร.วรพลกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการประชาธิปไตย จะชู พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ก็ลบความคิดอันนี้ออกจากใจประชาชนไม่ได้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นแนวร่วม ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่ผู้บงการที่มาชี้นิ้วให้กลุ่มคนเสื้อแดงทำอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นแค่แนวร่วมที่สนับสนุนคนเสื้อแดงและประชาธิปไตย รวมทั้งต่อต้านการรัฐประหาร
ติงสื่อกระแสหลักเอียงข้าง
รศ.ดร.วรพลกล่าวสนับสนุนข้อเรียกร้องกลุ่มคนเสื้อแดงที่ให้รัฐบาลคืนอุปกรณ์สถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่นว่า เพราะเห็นว่าจำเป็นต้องมีสื่อและช่องทางสื่อสารที่ถ่วงดุลข้อมูลกัน ที่ผ่านมาวงการสื่อมวลชนระหว่างประเทศมองเห็นชัดเจนแล้วว่าระบบสื่อของไทยที่เป็นสื่อกระแสหลักมันบิดเบี้ยว ลำเอียง โดยที่รัฐบาลไม่ต้องบังคับ แต่สื่อกระแสหลักพวกนี้ได้ร่วมมือปกปิดข่าวของกระบวนการเสื้อแดง และอันไหนที่เป็นข่าวออกมาจะเป็นลักษณะที่ว่ามีการเพิ่มเติมความเห็นในทิศทางที่ตำหนิติเตียนเป็นโทษ
ไม่คืนดีสเตชั่นยิ่งขัดแย้ง
“ผมคิดว่าถ้ารัฐบาลไม่คืนสถานีดีสเตชั่นให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง เชื่อว่าจะเกิดปมขัดแย้งและเป็นเชื้อปะทุสำคัญอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เกิดความรุนแรงได้” รศ.ดร.วรพลกล่าวพร้อมระบุถึงการเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลว่า การดำเนินการของรัฐบาลไม่ใช่ทางออกของปัญหาวิกฤตการเมือง เป็นเพียงการยืดเวลาหาทางที่จะครองอำนาจต่อโดยพยายามประคองตัวไปเรื่อยๆ อาจคิดว่าคนจะเหนื่อยและลืม และใช้วิธีตลบหลังแบบเดิมที่เคยทำสมัยแก้วิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ที่ได้ผลักดันหนี้สินของเอกชนให้มาเป็นหนี้สินสาธารณะหลายแสนล้านบาท
|
......ผู้ดีหน้าด้าน กับ หมอหน้าไม่อาย เข้าแจ้งส่งข้อมูลในสภา ลองคิดเอาว่า มันเตี้ยมกันเห็นๆ
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เดินทางมาเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมให้ข้อมูลผลพิสูจน์การเสียชีวิตของทหารอภินพ เครือสุข ที่ด้านหลังห้องประชุมสภาเพื่อใช้ในตอบการอภิปราย
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น