ชาวดิน ออนเน็ต

***อนิจา วาสนา ไพร่***

เรียกร้องเถอะ ร่ำหา กันให้ตาย
เคยบ้างไหม เคยได้ สิ่งที่หวัง
กราบแทบเท้า ติดดิน ร้องเสียงดัง
มีสักครั้ง บ้างไหม ใครเมตตา

สิ่งที่ขอ รอมา กี่ชาติแล้ว
ไร้วี่แวว สิทธิ ที่ใฝ่หา
เป็นแค่ไพร่ เขาชี้ เป็นอีกา
อย่าได้มา ร่วมหงส์ ดงผู้ดี
ร้องขอมา กี่ปี กี่ชาติแล้ว
ก็ไม่แคล้ว โดนด่า ฆ่าทุบตี
จากปู่ย่า มาถึง ทุกวันนี้
ถูกย่ำยี ไล่บี้ ให้จำนน
ตายแล้วสิบ เกิดใหม่ ได้เป็นแสน
แต่ขาแขน ถูกตรึง ด้วยเล่ห์กล
แล้วเมื่อไหร่ สิ่งนี้ จะหลุดพ้น
รับกฏโจร กฏหมาย ไร้ปราณี
อนิจา วาสนา ชะตาไพร่
ถูกใส่ร้าย กล่าวหา ว่าบัดสี
ทั้งหมอบกราบ ก้มไหว้ อย่างภักดี
แพ้วจี คนโฉด โป้ปดลวง
คงถึงครา แล้วหนา บรรดาไพร่
แม้ร่ำไห้ ร้องขอ ก็ช้ำทรวง
เขาไม่แล พวกเรา ไพร่ทั้งปวง
ต้องวัดดวง ทวงค่า ความเป็นคน


โดย ยรรยง ลูกชาวดิน

7 / มีนาคม / 2553
........


วันอังคาร, เมษายน 21, 2552

ผู้นำมุสลิมชี้ ปชป อย่าทำเลว

-ที่มา สำนักข่าวมุสลิมไทย

โดย ComHang


นายมุข สุไลมาน กรรมาธิการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐสภา สมาชิกพรรคมาตุภูมิ (ราษฎร์) อดีต ส.ส.ปัตตานี หลายสมัย

ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวมุสลิมไทยว่า... “ผมว่าเรื่องนี้มันมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง เพราะเท่าที่รู้มาก็คือมุสลิมที่ใส่เสื้อสีแดงโดนตีหัวก่อน แล้วก็ไปเอาพวกมา มันก็เลยเกิดการรุมสะกรัมกัน แล้วมาลากให้เป็นเรื่องของศาสนา

ผมว่าในระยะยาว มุสลิมเรานี่แหละจะเดือดร้อน ถ้าต่อไปเกิดมือที่สามไปสร้างสถานการณ์อย่างนี้กับวัดที่ไหนสักแห่ง แล้วเกิดเป็นกรณีระหว่างพุทธกับมุสลิม ถามว่าใครจะเดือดร้อน มุสลิมเรานี่แหละจะเดือดร้อน เราเป็นชนกลุ่มน้อยเราจะทำกันยังไง วันนี้ยังต้องหลบๆ หลีกๆ เพราะคนที่ไม่ใช่มุสลิมเขาก็มองมุสลิมไม่ดีอยู่แล้วกับเหตุการณ์ในจังหวัดชายแดนปักษ์ใต้ เพราะฉะนั้นเมื่อมุสลิมกรุงเทพฯไปลากเอาสถานการณ์ทางการเมืองมาเชื่อมโยงกับศาสนาเพิ่มไปอีกนี่

ในที่สุดเรามุสลิมเองนี่แหละจะเดือดร้อน ผมไม่สบายใจเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้” และว่า“แล้วก็ ที่ว่าคุณสมัย เจริญช่างก็ดี คุณนาตยาก็ดี ฝ่ายประชาธิปัตย์ไปนั่งประชุมกันทำหนังสือไปถึงสถานทูตอาหรับเอมิเรตต์ทำนองนี้ แล้วไปกล่าวหาอย่างนั้น
ผมว่ามันน่าจะเป็นลักษณะที่ว่า สร้างเงื่อนไขอะไร เพื่อที่จะให้โลกอาหรับอื่นต่อต้านทักษิณนี่ ผมดูแล้วมันไม่เข้าท่า ถ้าจริงก็ว่ากันไปถ้าไม่จริงนี่เป็นฟิตนะห์หรือว่าใส่ร้ายนี่ ในความเป็นมุสลิมนี่ผมว่ามันไม่ควรทำอย่างนั้น ก็เพราะทำอย่างนี้สิ สังคมมันถึงได้มีปัญหา เพราะคนเราชอบใส่ร้ายใส่ความกัน ซึ่งมันไม่ถูกต้อง โดยส่วนตัวผมไม่ชอบไอ้การกระทำอย่างนี้ พอผมรู้ตื้นลึกหนาบางในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี่ผมรู้สึกไม่พอใจ ไม่สบายใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มาก” นายมุข กล่าว

นายมุข ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า... “เรื่องนี้ผมจะอยู่เฉยๆ ไม่ได้ เพราะได้มีการลากเอาศาสนามาเชื่อมโยงกับการเมือง ผมไปกรุงเทพฯก็ต้องไปชี้แจงกับสถานทูตมุสลิมต่างๆ ไม่รู้ว่าท่านวันนอร์จะเห็นด้วยหรือไม่ แต่ผมคิดว่าผมต้องทำครับ ขณะนี้ผมกำลังกำลังเดินทางไปปัตตานี กลับไปกรุงเทพฯเมื่อไหร่คงต้องไปดำเนินการเรื่องนี้ครับ ปล่อยไว้ไม่ได้ ขืนปล่อยไว้สังคมมุสลิมต้องแตกแยกแน่ครับ” นายมุขกล่าว

นายศิริศักดิ์ บินตรี สัปบุรุษ มัสยิดบ้านครัวเหนือ กรุงเทพฯ

ได้แสดงความเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า... “คุณสมัย เจริญช่าง และคุณนาตยา เบญจศิริกุล ตลอดจนคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพฯ ด่วนสรุปเกินไปไหม...กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์เกิดขึ้นแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็สามารถร่างคำแถลงการณ์เป็นภาษาอาหรับ แปลเป็นภาษาไทย และมีการจัดแจกการแถลงข่าว กล่าวหา...พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลัง ประณามว่าเป็นหัวหน้าขบวนการก่อการร้าย และทำลายศาสนาอิสลาม ไม่ทราบว่าในการกระทำนี้มีวาระอะไรซ่อนเร้นบ้างหรือเปล่า

ตอนนี้มีคนหลายคนกำลังท้าทายนายสมัย ว่ากล้าเอาอัล-กุรอ่านมาสาบานไหมว่าทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้หวังผลทางการเมือง”และว่า
“ผมไม่สบายใจเลยหลังจากที่มีการแถลงข่าวลากเอาศาสนามาเชื่อมโยงกับการเมือง ตอนนี้สังคมมุสลิมกำลังแตกแยกกันแล้วเพราะมีการกล่าวหาว่ากลุ่มเสื้อแดงไปทำลายบ้านของพระผู้เป็นเจ้า ทั้งที่เรื่องจริง ซอยกิ่งเพชรนี่ เราที่ทำงานชุมชนเราก็รู้ดีว่าเป็นซอยของกลุ่มเสื้อเหลืองกลุ่มพันธมิตร เป็นเขตอิทธิพลของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ของนางนาตยา เบญจศิริวรรณ

ทีนี้พอเสื้อแดงไปละหมาดที่นั่นก็โดนพวกเสื้อเหลืองในซอยตีหัว มันเป็นเรื่องของการทะเลาะระหว่างสี ระหว่างกลุ่มมุสลิมสีแดง กับกลุ่มมุสลิมสีเหลือง แล้วทำไมต้องเอาศาสนามาเกี่ยวข้องด้วย การที่พวกคุณตีหัวพี่น้องมุสลิมสีแดงที่ไปละหมาดที่สุเหร่า ทำไมคุณไม่พูดถึง อิสลามนี่มันมี 2 มาตรฐานด้วยหรือ” นายศิริศักดิ์ กล่าว

นายศิริศักดิ์ กล่าวต่อ...“อยากจะถามนายสมัย เจริญช่าง ว่าคุณรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำอะไร คุณกำลังสร้างความเสียหายบนหน้าแผ่นดิน คุณได้สร้างการเผชิญหน้าระหว่างมุสลิมกับมุสลิม คุณกล้าสาบานโดยยกเอาอัล-กุรอานมาทูนขึ้นบนหัวเปล่า ว่าสิ่งที่คุณทำนี่ มันทำขึ้นมาโดยความบริสุทธิ์ใจ
คุณจะเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ชอบประชาธิปัตย์ หลงใหลพรรคประชาธิปัตย์ มันก็เป็นสิทธิของคุณ แต่ขอเพียงอย่างเดียวอย่าได้ลาก เอามวลมุสลิมและศาสนาอิสลามไปเป็นเครื่องมือของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมันจะสร้างความแตกแยกให้กับสังคมมุสลิม ตอนนี้สังคมมุสลิมกำลังแตกแยกแบ่งเป็นสองฝ่ายแล้ว คุณจะรับผิดชอบอย่างไร ในสิ่งที่คุณกระทำลงไป นายศิริศักดิ์กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก