ชาวดิน ออนเน็ต

***อนิจา วาสนา ไพร่***

เรียกร้องเถอะ ร่ำหา กันให้ตาย
เคยบ้างไหม เคยได้ สิ่งที่หวัง
กราบแทบเท้า ติดดิน ร้องเสียงดัง
มีสักครั้ง บ้างไหม ใครเมตตา

สิ่งที่ขอ รอมา กี่ชาติแล้ว
ไร้วี่แวว สิทธิ ที่ใฝ่หา
เป็นแค่ไพร่ เขาชี้ เป็นอีกา
อย่าได้มา ร่วมหงส์ ดงผู้ดี
ร้องขอมา กี่ปี กี่ชาติแล้ว
ก็ไม่แคล้ว โดนด่า ฆ่าทุบตี
จากปู่ย่า มาถึง ทุกวันนี้
ถูกย่ำยี ไล่บี้ ให้จำนน
ตายแล้วสิบ เกิดใหม่ ได้เป็นแสน
แต่ขาแขน ถูกตรึง ด้วยเล่ห์กล
แล้วเมื่อไหร่ สิ่งนี้ จะหลุดพ้น
รับกฏโจร กฏหมาย ไร้ปราณี
อนิจา วาสนา ชะตาไพร่
ถูกใส่ร้าย กล่าวหา ว่าบัดสี
ทั้งหมอบกราบ ก้มไหว้ อย่างภักดี
แพ้วจี คนโฉด โป้ปดลวง
คงถึงครา แล้วหนา บรรดาไพร่
แม้ร่ำไห้ ร้องขอ ก็ช้ำทรวง
เขาไม่แล พวกเรา ไพร่ทั้งปวง
ต้องวัดดวง ทวงค่า ความเป็นคน


โดย ยรรยง ลูกชาวดิน

7 / มีนาคม / 2553
........


วันจันทร์, เมษายน 13, 2552

โฉมหน้าเจ้าของกองกำลังทหารที่ฆ่าประชาชนบริเวณแยกดินแดง




พลตรี วลิต โรจนภัคดี
ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ ๒ รักษาพระองค

จ.ปราจีนบุรี

ทหารเลวที่รับคำสั่งมาจากรัฐโจร ของ ไอ้มาร์ค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้ยิงประชาชน ในเช้าวันที่ 13 เมษายน 2552


ภาพประกอบจากซีเอ็นเอ็น ชี้ทหารใช้ปืนเล็งประชาชน



ทหารที่ปฏิบัติการที่ด่านดินแดง นำโดย พลตรีวลิตร โรจนภักดี และทหารจาก พล .ร3 รอ. จากปราจีนบุรี ชุดเดียวกับที่รับคำสั่งนายเนวิน ชิดชอบ ที่พัทยา มีพี่น้องเสื้อแดงได้รับบาดเจ็บจำนวนมากกว่า 30 ราย เข้ารับการรักษาที่ รพ.รามาฯ

เวลา 04.00 น.กำลังทหารเริ่มยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงกว่า 1 พันคน ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมแตกฮือพากันวิ่งหลบหนี ก่อนที่จะถอยล่นไปถึงแยกดินแดง ขณะที่ยังมีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ ๆ โดยมีรถพยาบาลทยอยวิ่งเข้าไปรับผู้บาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง

ข่าวล่าสุด แจ้งว่ามี ผู้ถูกยิงไม่น้อยกว่า 5-6 คน บาดเจ็บ 30-40 คน แต่ทางผู้ชุมพยายามเข้าแย่งศพจากทหาร แต่ไม่สำเร็จ แต่สื่อในไทย ไม่นำเสนอภาพการเข้าโจมตีของทหาร และพยายามบิดเบือนข่าว แต่มีผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งได้ เก็บหลักฐาน เป็นลูกปืน เอชเค และ ระเบิดแก๊สน้ำตา ไว้ และผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งที่เข้าแย่งศพ แต่แย่งมาได้แค่ กางเกง



นี่คือคำสั่งฆ่าประชาชนของ พวกเผด็จการรัฐโจรก่อการร้ายของ ไอ้มาร์ค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ ไอ้ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่มี อำมายต์ชั่วหนุนหลัง

................................................

เหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2552

นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ที่การด์รปภ.ของนายอภิสิทธิ์ ยิงคนเสียชีวิตจำนวน 2 ศพ ซึ่งขณะนี้ยังตามหาไม่เจอ แต่คนที่บาดเจ็บมีสองคน เพราะ จนท.ของรัฐโจรได้นำไปซ่อนไว้และปิดข่าวว่า ไม่มีคนตาย แต่มีพยานหลายคนยืนยัน

..........................................................................
พี่น้องคนไทยที่รักประชาธิปไตยโปรดจำไว้
ตลกทหารไทย ยิงขึ้นฟ้าประชาชนตาย ไอ้ สรรเสริญ แก้วกำเนิด มึงพูดโกหกตอแหลแบบนี้ได้ไง

ภาพที่เห็นจากข่าวในทีวีหลายคนเห็นทหารยิงใส่ประชาชน

สื่อทีวีไทย ทุกช่องมันร่วมกันเสนอข่าวใส่ร้ายประชาชน และบิดเบือนข้อเท็จจริง นี่คือความต่ำทรามของสื่อมวลชนไทย ที่ไม่สนใจต่อชีวิตของประชาชนคนไทย

ข้อมูลจากการ ออก เนชั่นของแพทย์หญิง
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี ระบุแล้วเสื้อแดงถูกยิงเจ็บ 6 ราย
มี 1 ราย บาดเจ็บสาหัส
................................................

ประชาไท: พบเจ็บ รามาฯ 24 ราย สาหัส 2 ถูกยิง และสะเก็ดระเบิด

6.45 น ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้แถลงข้อมูลผู้บาดเจ็บที่เข้ารักษาตัวทั้งสิ้น ณ เวลา 6.30 น. ทั้งสิ้น 24 ราย เป็นชาย 22 ราย หญิง 2 ราย โดยมีอาการสาหัสที่โรงพยาบาลจำเป็นต้องรับเป็นผู้ป่วยใน 2 ราย เกิดจากบาดแผลที่ข้อเข่า 1 ราย โดยยังระชุชัดเจนไม่ได้ว่ามาจากกระสุนปืนหรือไม่ ส่วนอีกหนึ่งราย เป็นบาดแผลที่คอ แขน และขา ซึ่งเกิดจากสะเก็ดระเบิด นอกนั้น 22 ราย เป็นบาดเจ็บที่แขนขา 8 ราย อีก 14 รายบาดเจ็บจากการระคายเคืองตา ซึ่งคาดว่าเกิดจากแก๊สน้ำตา

ขณะที่ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. ได้รุดไปที่โรงพยาบาลรามาเพื่อตรวจสอบ และได้เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บรายหนึ่งก่อนจะให้สัมภาษณ์เป็นข้อมูลขัดแย้งกับทางโรงพยาบาลว่า ผู้บาดเจ็บสาหัส 2 รายนั้น รายหนึ่ง ถูกกระสุนยิงเจาะลำคอ สะโพก และอีกนัดเฉี่ยวศีรษะ

ด้านกลุ่ม 'ฟาเรด' หน่วยพยาบาลอาสาของกลุ่มคนเสื้อแดง รายงานยอดผู้บาดเจ็บว่า มีจำนวนถึง 70 รายแล้ว กระจายส่งโรงพยาบาลมิชชั่น ราชวิถี รามาฯ เปาโล และพระมงกุฏฯ



พยานในเหตุการณ์เปิดเผยบนเวทีที่ทำเนียบ เล่าเหตุการณ์การสังหาร

นายประกอบ นายวรวุฒิ นายสุขสันต์ ผู้ที่ไปที่สามเหลี่ยนดินแดง ได้เปิดเผยผ่านเวทีคนเสื้อแดงหน้าทำเนียบดังนี้
ผมเป็นมุสลิมคนหนึ่ง สิ่งที่ผมจะพูดจากนี้ต่อไป ผมขอสัญญากับพระเจ้าว่าเป็นจริง เมือคืนประมาณตี 4 กว่า พวกเราได้เสบียงข้าวต้ม ซึ่งพวกเราอยู่กันประมาณ 300 คน มีผู้หญิง เด็กเล็ก คนเฒ่าคนแก่ ตีสี่เราได้ข้ามต้มใส่เครื่อง ตีสี่สิบห้านาที มีทหารเคลื่อนเข้ามาทางสุทธิสาร มุ่งตรงมาทางสามเหลี่ยมดินแดง หลังจากนั้นเมื่อเราทราบ ในพื้นที่มีรถบัสเป็นเครื่องป้องกัน สิ่งแรกที่เราได้รับคือ มีแก๊สน้ำตายิงเข้ามาหาเรา โดยไม่มีการประกาศเตือนใดๆกับพวกเรา ผู้หญิงบางคนยังถือข้ามต้มกันอยู่

พวกเราได้ใช้เครื่องเสียง แจ้งว่าอย่าแตกกลุ่ม หลังจากนั้นมีเสียงปืนยิงขึ้นฟ้า ด้านหลังมีตำรวจ 200 นาย ตอนนั้นอยู่ในภาวะนิ่งไปหมด ตอนนั้นเราเชื่อว่าตำรวจเป็นพวกเรา แต่หลังตำรวจก็มีทหารอีก ตอนนั้นจึงได้ไปเจรจากับตำรวจ แจ้งว่าพวกตนไม่มีอาวุธใดๆ ทางตำรวจก็บอกว่าอย่าทำลายป้อมตำรวจ

ช่วงที่มีควันปกคลุมทั้งหมด และมืดด้วย ทหารก็เคลื่อนเข้ามาตลอด หลังจากนั้นเสียงกระสุนเริ่มเปลี่ยน เพราะไม่ได้ยิงขึ้นฟ้า หลังจากนั้นก็มีเสียงคนโอดครวญร้องด้วยความบาดเจ็บ ผมจึงได้โทรเรียกความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นมีคนเจ็บแล้ว โดยเสียงปืนมีตลอด คาดไม่ถึงก็มีหลวงพ่อที่ใส่ผ้าเหลืองก็ต้องหลบขึ้นแท็กซี่ แต่ทหารก็ไม่หยุด ทั้งๆที่แกนนำประกาศว่าอย่าทำร้ายประชาชน (พร้อมกับชูปลอกกระสุนจำนวน 2 ปลอกขึ้นมา)

พยานอีกท่าน - ทหารได้ยิงขึ้นฟ้าในช่วงแรก ต่อมาต้องตนเองก็ต้องล่าถอย น้องผู้หญิงได้ดึงขากางเกงเปื้อนเลือด แต่ศพนั้นได้หายไป หลังจากนั้นเมื่อเห็นพวกเราบาดเจ็บและล้มตาย ก็ได้ประสานงานหารถพยาบาล แต่ก็ได้ปฐมพยาบาลในเบื้องต้น หลังจากนั้นก็ได้เห็นว่าทางทหารได้ยิงหนาตา เป็นดังเช่นสมรภูมิสงคราม

หลายท่านถามว่าทำไมไม่พบศพ เพราะขณะที่ยิงมวลชนต้องก้มลงและล่าถอย พวกทหารก็สามารถเก็บศพไปได้ แต่ก็ได้แต่เกงเกงเปื้อนเลือดที่ถูกดึงออกมาจากศพ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก