ชาวดิน ออนเน็ต

***อนิจา วาสนา ไพร่***

เรียกร้องเถอะ ร่ำหา กันให้ตาย
เคยบ้างไหม เคยได้ สิ่งที่หวัง
กราบแทบเท้า ติดดิน ร้องเสียงดัง
มีสักครั้ง บ้างไหม ใครเมตตา

สิ่งที่ขอ รอมา กี่ชาติแล้ว
ไร้วี่แวว สิทธิ ที่ใฝ่หา
เป็นแค่ไพร่ เขาชี้ เป็นอีกา
อย่าได้มา ร่วมหงส์ ดงผู้ดี
ร้องขอมา กี่ปี กี่ชาติแล้ว
ก็ไม่แคล้ว โดนด่า ฆ่าทุบตี
จากปู่ย่า มาถึง ทุกวันนี้
ถูกย่ำยี ไล่บี้ ให้จำนน
ตายแล้วสิบ เกิดใหม่ ได้เป็นแสน
แต่ขาแขน ถูกตรึง ด้วยเล่ห์กล
แล้วเมื่อไหร่ สิ่งนี้ จะหลุดพ้น
รับกฏโจร กฏหมาย ไร้ปราณี
อนิจา วาสนา ชะตาไพร่
ถูกใส่ร้าย กล่าวหา ว่าบัดสี
ทั้งหมอบกราบ ก้มไหว้ อย่างภักดี
แพ้วจี คนโฉด โป้ปดลวง
คงถึงครา แล้วหนา บรรดาไพร่
แม้ร่ำไห้ ร้องขอ ก็ช้ำทรวง
เขาไม่แล พวกเรา ไพร่ทั้งปวง
ต้องวัดดวง ทวงค่า ความเป็นคน


โดย ยรรยง ลูกชาวดิน

7 / มีนาคม / 2553
........


วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 14, 2552

บทความจากไทยอีนิวส์


ทักษิณ

อดีตนายกคนนึง ถูกบางคนมองว่า แพ้ระหกระเหิน เร่ร่อน กลับบ้านเกิดไม่ได้ มีจำนวนคนเกลียดชังมากมายมโหฬาร แต่ก็มีจำนวนคนยังรักคลั่งไคล้ศรัทธามหาศาล

อุแม่เจ้า่..1 พฤศจิกา..แดง..เถือก..ทั้งราชมังคลาฯ ...


แล้วเหล่าอำนาจใหม่ในตอนนี้ ที่กำลังครองอำนาจ ที่บางคนมองว่า คือเหล่าผู้ชนะล่ะ อยู่ในแผ่นดินเกิดได้ ไม่ต้องระหกระเหินเร่ร่อน แต่ต้องอยู่อย่างหวาดกลัว ภายใต้เกราะกันกระสุน ซ้ำร้ายยังเดินทางในประเทศบ้านเกิดตนเอง ยังไม่ได้ทั่วผืนแผ่นดินอีก ยังต้องคอยระแวดระวัง เดินเร็วหลบเร็ว เข้าเร็วออกเร็ว หัวซุกหัวซุน กับการโห่ปาขว้างไล่ ต้องคอยเอาเวลามาต้านกับเสียงก่นด่า ให้ร้ายทั่วสารทิศ


เคยฝันใฝ่อยากเป็นรัฐบาล อยากมีภาพปวงประชาฟีเวอร์ แห่แหนต้อนรับทั่วแดน คล้องมาลัยสวมกอดเช่นอดีตนายกฯ หรือเช่นนายกฯประเทศอื่นๆ ที่เขาได้รับ




วันนี้ได้เป็นรัฐบาลแล้ว แต่ทำเช่นนั้นได้หรือยัง?

แค่ทำให้คนเลิกเกลียดนี่ ก็ยากแล้ว

ไหนเลยจะทำให้คนรัก คนนิยมคลั่งไคล้

สิ่งที่ทำมาเรี่ยราดไว้ในอดีต ไหนเลยจะเอาปัจจุบันและอนาคตเข้ากลบ



อยากจะเชิญให้มีการเปิดดูเทปแววตานักการเมืองผู้นึง ที่เคยออกทีวีในอดีต อยากถามพี่น้องชาวไทยว่า คนๆ นั้น ยามออกทีวี มักจะเผลอเก็บอาการไม่อยู่ แสดงแววตา อาฆาตริษยา แบบเห็นแล้วขนลุก น่ารังเกียจจับใจ ใช่หรือไม่ใช่ ลองไปหาเทปเก่าๆ เปิดดูเอง แล้วพิจารณาเอาเอง เชิญรับชมกันเอาเอง ประจักษ์ได้ด้วยสายตา

.....................................................................................................................................................


.........................................................................................................................................................


ท่านเคยเห็นไหม ภาพผู้นำต่างชาติที่เช๊คแฮนด์ กับผู้นำไทย แลดูให้ดี นั่นไม่ใช่แค่มิตรสัมพันธ์ตามธรรมเนียม แต่แววตาผู้นำต่างชาตินั้นๆ กลับทอประกาย บุคลิกท่าที นิยมชมชอบ ชื่นชมผู้นำไทย แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดกันทั่วทีวี



เคยเห็นหรือไม่ ภาพแบบนั้น เกิดกับรัฐบาลใหม่หรือยัง?

อดีตนายกฯทักษิณ ผู้แพ้ มีคนเกลียดมากโข แต่ก็ยังมีคนรักมากล้น

แล้วผู้นำรัฐบาลใหม่เล่า มีคนเกลียดมากโขเช่นกัน แต่ไหนกัน มหาชนที่รักมากล้น? มีไหม

นายกฯทักษิณ คือนักโทษชาย ใครๆ เขาก็เกลียดชัง จริงหรือ?

วันนี้ ใครบ้าง มากน้อยเพียงใด กล้าด่าว่าชื่อทักษิณตามท้องตลาด ...มันไม่ปลอดภัยใช่ไหม เพราะรู้แก่ใจว่า คนนิยม มีมากมหาศาลอยู่ใช่ไหม?

คนที่พูดว่า ทักษิณเลวโกงกินชาติ ทักษิณสร้างความแตกแยก ทักษิณหลอกใช้ ทักษิณคือต้นเหตุทำร้ายประเทศ ... พูดกันเข้าไป ปวงประชาเชื่อคุณกันทั้งประเทศหรือยัง....

ทำไมทุกวันนี้ เดินออกนอกบ้าน ถามหาคนที่ยังชอบทักษิณ กลับไม่ใช่เรื่องหายากเลย?

คนชอบทักษิณ ยังปะปนอยู่ทุกหนแห่ง พบพานได้ง่ายทั่วไป

ใครตอบได้ตอบทีว่า ทำไมมันยังเป็นแบบนี้?

ทักษิณถูกยึดทรัพย์ ถูกขับไล่ ถูกตั้งข้อหามากมาย เสียหายไม่น้อย แต่ก็เป็นเพียงบุคคลคนนึง ที่ต้องพังไป


แต่สถาบันศาล สถาบันอำมาตย์ สถาบันนึง เคยงดงามน่าเชื่อถือของปวงชน สถาบันนึงเคยอยู่สูงในสังคมไทยวันนี้ เละไม่มีชิ้นดี เละอยู่ในขี้ปากของชาวบ้าน เละเพราะมาสู้กับทักษิณ เละเพราะถูกขุดถูกคุ้ย เละเพราะการกระทำอันเผยธาตุแท้



สิ้นแล้วภาพพจน์ประดุจเทพ จากนี้ กลายเป็นสิ่งสามัญปุถุชนที่ปวงประชาไม่มองเกินจริงอีก

บางท่านกำลังจะสิ้นวัยลาโลกไปกับคำสรรเสริญ กลับกลายเป็นเละในบั้นปลาย ถูกประนามสาบแช่ง


(นี่หรือชุดขององคมนตรี ถามใจคนไทยทุกคนว่าคุณรู้สึกอย่างไร)

ถ้าคิดไม่ออกให้รูปนึกถึง

ภาพลำดับรวมของพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 9

แต่คนๆนี้ทำภาพแบบนี้ขึ้นมาหมายความว่าอย่างไร เขาเป็นใครถึงบังอาจเพียงนี้

........................................................................................................


ศึกนี้ ใครคุ้ม ใครได้ ใครเสียแค่ไหน ผู้ชนะหรือผู้แพ้เจ็บหนัก ตรองกันเอาเอง

มองกันให้ดี รวมทั้งทหารและสื่อ หน่วยงานนึงเคยเป็นที่สง่างาม ฮีโร่ ความฝันของเด็กๆ พูดจาขึงขังทะมัดทะแมง สีหน้าสายตายามแถลงการณ์ใด ดูองอาจ รักเกรียติศักดิ์ศรียิ่งชีพ

มาบัดนี้ ภาพพจน์เสื่อมสิ้น ตีสีหน้าอันใด ผู้คนขำ เยาะล้อว่า นักละครปั้นแสร้งชั้นเอก น้ำเน่ายิ่งกว่าละครหลังข่าว ฮีโร่ของเด็กๆ ยุคนี้ กลับกลายเป็นพวก ลงพุง ตีกอล์ฟ จิบไวน์ คุมหุ้น พูดโกหกไปมาออกทีวี ไปเสียแล้ว

ต่อไปจะมีลูกผู้ชายที่ไหน อยากมายืนตะเบ๊ะ ก้มหัวให้เจ้านายเช่นนี้ ตายเพื่อชาติได้ ไม่หวั่นเหล่าร้ายอันใดรักศักดิ์ศรียิ่งชีพ แต่ทำไมต้อง มาก้มหัวเหงื่อแตก ให้เหล่าท่านผู้ชำนาญกอล์ฟ ชำนาญไวน์ ใฝ่การเมืองและพูดจา เล่นคำไปมาอยู่แบบนี้
...................................................................................

"ผมยึดถือแนวทางประชาธิปไตย"

"ศัตรูทางการเมือง"
(มีท่านคนเดียวที่พูดชัดเจน ออกทีวี ต่างวาระ ต่างบริบท ไม่รู้ว่าหมายถึงประชาชนกลุ่มไหนหรือเปล่า)

"ผมฟังเสียงทุกฝ่าย และดูแลเกษตรกรทั่วประเทศ และกำลังทำมากขึ้น หรือมากกว่ารัฐบาลก่อนๆ ด้วยซ้ำ"

สรุปว่า "ทารกเท่านั้นจึงเชื่อถือท่านผู้สร้างภาพ
"

...................................................................................

ตราบใดที่เจ้านายยังเป็นเช่นนี้ กาลอวสาน ความสง่างามของวงการ คงมาเยือน

มาบัดนี้ ต้องออกแถลงปรับความเข้าใจกันยกใหญ่ เพราะเริ่มรู้ซึ้งแล้ว ของความไม่มีสุข ที่ต้องอยู่อย่างอดสู ภายใต้สังคมที่ไม่เชื่อน้ำหน้า

ส่วนอีกหน่วยงาน คือสื่อ เคยเป็นกระบอกเสียงพอฟังได้ พอรับได้ เพื่อนคู่เคียงชาวบ้าน แต่นับจาก ลำเอียงเลือกข้าง บิดเบือนก้มหัว ครอบงำชักจูง ออกความเห็น ใส่ความรู้สึกส่วนตัว

มาบัดนี้ ชาวบ้านล้วนเหม็นขี้หน้า บางช่องต้องเอาเท้ากดหนี ผลกรรมกลายไปตกถ้วนทั่วกันหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้ประกาศข่าว ผู้จัดรายการ กลายเป็นบุคคลไม่อาจเดินเปลี่ยวตามที่สาธารณะได้อีก บางบุคคลถึงขั้นไม่อาจเที่ยวทั่วไทย หาเรื่องให้กับความสุขชีวิตของตนกันโดยแท้

ศึกครั้งนี้ แต่ละฝ่ายต่างรับเคราะห์กรรม ทั้งแดงทั้งเหลือง และรับกรรมไม่เว้น แม้แต่คนกลาง ตัดสินสิ่งใดไม่ได้สักที จะเลือกฝ่ายไหนก็ว่าไม่ดี จะทำอย่างเป็นกลางด้วยตนเอง ก็ไม่ทำอะไร ตินั่นติงนี่ แต่ตนเองก็ไม่มีวิธีอันใด แม้มีวิธี แต่ก็ไม่มีพลัง แม้มีพลัง แต่ก็ไม่อยากเสียเวลามาทุ่มเท เหมือนโฆษณา รถเมล์ดิ่งลงเหว ที่เคยเห็นในทีวีไม่มีผิด ลังเล โต้เถียง ติติง กล่าวโทษกันไป ในขณะที่รถเมล์ ก็ถอยลงเหวไปเรื่อยๆ นั่นแล

สุดท้าย กติกา กลไกบ้านเมืองพัง จากคนเมินเฉย และจากคนที่ออกปากแต่ไม่ออกแรงห้าม ต่อนี้ไป ก็อยู่กันไปอย่างนี้ กับประเทศที่กลไกระบบพังไปแล้ว

ม๊อบใดม๊อบไหน ม๊อบเกษตรหรือม๊อบอะไร เดี๋ยวนี้มีค่านิยมใหม่ ไม่พอใจอะไรยึดมัน ปิดมัน ล้อมมัน เอาเยี่ยงอย่างเหลืองแดงกันไป คงมีให้เห็นกันอีกเรื่อยๆ

ต่อไปนี้ เวลาตนถูกคนร้ายหรือถูกโกงกิน หรือถูกเรื่องใด อย่าได้ถามหากติกากฏหมาย มาคุ้มหัวตน เพราะขนาดเรื่องใหญ่ ยังเห็นกันจะๆ ถึงระบบกฏหมายไทย นับประสาอะไรกับเรื่องเล็กของประชาชนตัวประติ๋วคนนึง

ถึงวันนั้น ที่ได้ซึ้ง ก็จงย้อนมองวันที่เคยปล่อยผ่านไปทั้งหมด

นี้คือเรื่องราวความได้เสียของทุกฝ่าย จากเหตุการณ์ในรอบที่ผ่านมา ใครได้ใครเสียแค่ไหน อย่างไร ใครกันแน่ ผู้แพ้ ผู้ชนะ เพียงใด พิจราณากันเอาเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก