ชาวดิน ออนเน็ต

***อนิจา วาสนา ไพร่***

เรียกร้องเถอะ ร่ำหา กันให้ตาย
เคยบ้างไหม เคยได้ สิ่งที่หวัง
กราบแทบเท้า ติดดิน ร้องเสียงดัง
มีสักครั้ง บ้างไหม ใครเมตตา

สิ่งที่ขอ รอมา กี่ชาติแล้ว
ไร้วี่แวว สิทธิ ที่ใฝ่หา
เป็นแค่ไพร่ เขาชี้ เป็นอีกา
อย่าได้มา ร่วมหงส์ ดงผู้ดี
ร้องขอมา กี่ปี กี่ชาติแล้ว
ก็ไม่แคล้ว โดนด่า ฆ่าทุบตี
จากปู่ย่า มาถึง ทุกวันนี้
ถูกย่ำยี ไล่บี้ ให้จำนน
ตายแล้วสิบ เกิดใหม่ ได้เป็นแสน
แต่ขาแขน ถูกตรึง ด้วยเล่ห์กล
แล้วเมื่อไหร่ สิ่งนี้ จะหลุดพ้น
รับกฏโจร กฏหมาย ไร้ปราณี
อนิจา วาสนา ชะตาไพร่
ถูกใส่ร้าย กล่าวหา ว่าบัดสี
ทั้งหมอบกราบ ก้มไหว้ อย่างภักดี
แพ้วจี คนโฉด โป้ปดลวง
คงถึงครา แล้วหนา บรรดาไพร่
แม้ร่ำไห้ ร้องขอ ก็ช้ำทรวง
เขาไม่แล พวกเรา ไพร่ทั้งปวง
ต้องวัดดวง ทวงค่า ความเป็นคน


โดย ยรรยง ลูกชาวดิน

7 / มีนาคม / 2553
........


วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 07, 2552

อำนาจถ่อย นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐโจร ปชป.ชุดเฉพาะกิจก.พาณิชย์ตีด้วยด้ามปืนผู้ค้าพัฒน์พงษ์ ก่อนถูกจับใส่กุญแจมือนำขึ้นรถตู้

ที่มา

"รองผบช.น."ชี้ชุดจับทำผิดขั้นตอน

พ่อค้าพัฒน์พงศ์ นายสรกฤต เพียรวัจนธรรม อายุ 36 ปี พ่อค้าขายเสื้อในตลาดพัฒน์พงศ์ ได้รับบาดเจ็บถูกตีด้วยของแข็ง ปากแตกเย็บ 14 เข็ม หลังปะทะกับเจ้าหน้าที่คณะทำงานป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ที่บุกเข้าไปจับกุมเมื่อกลางดึกวันที่ 6 พฤษภาคม



ด้าน พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก สน.บางรัก เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 6 พฤษภาคม ว่า พ.อ.นรินทร์นำกำลังประมาณ 50 นาย มาที่ตลาดพัฒน์พงษ์และจับกุมสินค้าตามร้านต่างๆ โดยใช้วิธีนำถุงดำมารวบทุกอย่างใส่ถุงทำให้พ่อค้าแม่ค้าได้รับความเสียหาย สมมุติว่าหากสินค้ามีอยู่ 100 ชิ้น ต้องเอาผู้เสียหายทางลิขสิทธิ์มาดูว่าอะไรละเมิดบ้าง หากละเมิดใส่ถุงลงไปและดำเนินคดี ที่รวบมาบางอันไม่ใช่สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เมื่อถามว่า ทางนายอลงกรณ์บอกว่าดำเนินการตามขั้นตอนและมีตำรวจไปร่วมจับกุมด้วย พล.ต.ต.วิบูลย์กล่าวว่า แต่ที่ดูจากรายงานมามี พ.อ.นรินทร์ พ.อ.รุจน์ พ.ท.ภูวดิษฐ์ (ไม่ทราบนามสกุล) จาก กอ.รมน.มาร่วมอำนวยการจับ แต่ไม่ได้แจ้งท้องที่ หรือกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปศท.) ร่วมดำเนินการด้วย

"ในหลักการหากผมจะไปจับในท้องที่ ผู้เสียหายต้องไปที่ สน.ก่อนเพื่อลงบันทึกประจำวันว่าร้านค้าที่นี่ ละเมิดลิขสิทธิ์อะไร จำหน่ายที่ใด เมื่อลงบันทึกประจำวันเสร็จ จะพาตำรวจไปจับกุมและยึดสินค้า โดยจะดูว่ามีสินค้าที่ละเมิดจำนวนเท่าใด ซึ่งปกติที่ดำเนินการมีจับ 2 อย่าง คือจับละเมิดลิขสิทธิ์และจับเครื่องหมายการค้า" รอง ผบช.น.กล่าว

เมื่อถามว่า หากประสานจับกุมตำรวจพื้นที่ก่อนจะไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น พล.ต.ต.วิบูลย์กล่าวว่า ถูกต้อง ส่วนการดำเนินคดีรับไว้ 2 คดี คือคดีแรกชุดจับกุมมากล่าวหาว่า จำหน่ายสินค้าเครื่องหมายการค้าปลอมโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ของกลางบอกว่าโดนแย่งไป ส่วนฝ่ายผู้ค้ามาแจ้งกล่าวหาผู้จับกุมว่า ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน ร่วมกันทำร้ายร่างกายและอีกหลายข้อหา ซึ่งตำรวจรับคดีไว้ทั้ง 2 คดี เมื่อถามว่า ทุก 2 วัน นายอลงกรณ์จะส่งชุดปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินลงพื้นปราบปราม รวมทั้งพัฒน์พงษ์ พล.ต.ต.วิบูลย์กล่าวว่า ดีมากที่มาช่วยดำเนินการ ความจริงควรแจ้งพื้นที่ และหน่วยของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) มาตรวจสอบ หากผิดก็ยึดไป ไม่ผิดก็คืนเขาไป หากรวบไปทั้งหมดต้องถูกต่อต้าน เศรษฐกิจก็แย่อยู่แล้ว ในส่วนของตำรวจก็จับกุมตามนโยบายอยู่แล้ว แต่เน้นจับกุมแหล่งผลิต โกดังเก็บของ ส่วนท้องที่จะจับกุมผู้จำหน่ายก็ให้เลิกไปหากไม่เลิกต้องจับกุม




ผู้ค้าพัฒนพงษ์ร้องตร.ถูกด้ามปืนตบ แจ้งความจับชุดจับกุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สน.บางรัก นายอิทธิพล พรหมจรรย์ อายุ 30 ปี เดินทางพบ ร.ต.ท.โชคชัย สารคุณ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางรัก เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ กระทรวงพาณิชย์ ในข้อหาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บและลักทรัพย์ โดยนำเอกสารใบรับรองแพทย์โรงพยาบาลเลิดสินไว้เป็นหลักฐาน
นายอิทธิพล กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์เข้าจับกุมสินค้า ย่านพัฒนพงษ์ กระทั่งเกิดเหตุชุลมุนกันและมีเสียงปืนดังขึ้น ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 3-4 คน มาสอบถามตนว่าใครเป็นคนยิงปืน และตนบอกว่าไม่ทราบ กระทั่งมีปากเสียงกัน จากนั้นตนถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายร่างกาย ถูกตีด้วยด้ามปืน ก่อนถูกจับใส่กุญแจมือนำขึ้นรถตู้ไปพร้อมกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารวม 4 คน จากนั้นได้ขับรถพาตนไปตามเส้นทางต่างๆ ตั้งแต่ช่วงเวลา 02.00 น. จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.30 น ได้นำตนมาส่งที่ สน.บางรัก ทั้งนี้ ระหว่างอยู่ในรถกลุ่มชายฉกรรจ์ยังพูดจาข่มขู่ และยึดเอาโทรศัพท์ตนไป 2 เครื่อง จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม



พ่อค้าพัฒน์พงศ์ นายสรกฤต เพียรวัจนธรรม อายุ 36 ปี พ่อค้าขายเสื้อในตลาดพัฒน์พงศ์ ได้รับบาดเจ็บถูกตีด้วยของแข็ง ปากแตกเย็บ 14 เข็ม หลังปะทะกับเจ้าหน้าที่คณะทำงานป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ที่บุกเข้าไปจับกุมเมื่อกลางดึกวันที่ 6 พฤษภาคม


นายสรกฤต เทียนวัจนธรรม อายุ 36 ปี พาร่างเต็มไปด้วยคราบเลือดเข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.ชลิก สุขวรรณ สารวัตรเวร สน.บางรักว่า ตนมีอาชีขายเสื้อยืดไทยแลนด์ ขณะกำลังขายเสื้ออยู่นั้นได้เห็นเหตุการณ์ชุลมุนจึงรีบวิ่งไปตามแฟนก็ถูกกลุ่มคนที่อ้างตัวว่ามาจากระทรวงพาณิชย์รุมทำร้ายด้วยการใช้เหล็ก เก้าอี้ รุมตีจนได้รับบาดเจ็บจมูกฉีก รักษาตัวที่รพ.จุฬาฯ,นายปิยะวัฒน์ พรหมจรวย อายุ 33 ปี แจ้งว่า นายอิทธิพล พรหมจรวย อายุ 31 ปี น้องชายมีอาชีพขายเสื้อถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 10 คน ทำร้ายและใช้อาวุธปืนขู่บังคับจับตัวขึ้นรถตู้หายไป


น.ส.บุษบา ขันโท อายุ 30 ปี แจ้งว่า นางพรทวี การุณ อายุ 34 ปี พี่สาวมีอาชีพขายผ้าไหม ย่านพัฒน์พงษ์ถูกจับกุมตัวหายไป ไม่สามารถติดต่อได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ประชาชนไม่ได้ผิดกฏหมาย ทำไมต้องขนสินค้าไปด้วย ตนไม่ได้รับความเป็นธรรม ขายสินค้าโอทอปก็ไม่เกี่ยวกับสินค้าหนีภาษี นายอาทิตย์ ศรีมหาพรหม อายุ 24 ปี แจ้งความว่า มีอาชีพขายนาฬิกา ขณะเกิดเหตุ ตนมีเงินจำนวน 8,000 บาท อยู่ในปกระเป๋าคาดเอวแขวนไว้ที่แผงสินค้าได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ปล้นไป


นายรัตนศักดิ์ ตุ้มทอง อายุ 27 ปี าชีพขายนาฬิกา นำร่างเต็มไปด้วยคราบเลือดเนื่องจากมีบาดแผลถูกแทงด้วยเหล็กเข้าที่หน้าอกและศรีษะถูกตี กล่าวว่า ขณะขายนาฬิกาได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์เข้าทำการจับกุม ตนก็ยอมให้จับกุม แต่ขณะรอขึ้นรถตู้ที่เจ้าหน้าที่กระทรวงาพาณิชย์นำมาอยู่นั้นได้มีเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชนย์รุมทำร้าย ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำร้ายตนด้วยทั้งที่ยอมให้จับกุม

วันที่ 7 พฤษภาคม กลุ่มผู้ค้าย่านพัฒน์พงษ์กว่า 300 คนยกขบวนมายัง สน.บางรักเพื่อแจ้งความดำเนินกับชุดจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์กระทรวงพาณิชย์ โดยมีการถือป้ายระบุข้อความว่า ประชาชนถูกทำร้าย ถูกปล้นทรัพย์สิน ไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมกับโห่ร้องเมื่อแกนนำกล่าวโจมตีนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์และรัฐบาล กลุ่มผู้ค้าแผงลอยนำโดยนายรัตนศักดิ์ ตุ้มทอง กับพวก 8 คนเข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ชลิก สุขวรรณ พนักงานสอบสวน สน.บางรัก ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มชายไม่ทราบชื่อประมาณ 50 คน ในข้อหาปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน พกพาอาวุธปืนไปในเมือง ยิงปืนในที่สาธารณะ โดยพฤติการณ์คือขณะกลุ่มผู้ค้าแผงลอยได้จำหน่ายสินค้าในที่เกิดเหตุ มีคนร้ายเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์เดินทางเข้าหยิบฉวยกวาดเอาทรัพย์สินและสินค้าต่างๆ ไป โดยไม่ได้แสดงตัวว่ามาจากหน่วยงานใด กลุ่มผู้ค้าเข้าขัดขวาง เกิดการปะทะกันจนกลุ่มผู้ค้าบาดเจ็บ 5 คน จากนั้นได้ยินเสียงปืนดัง 3-4 นัด กลุ่มผู้ค้าจึงล่าถอย กลุ่มชายดังกล่าวฉวยทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 400,000 บาท หลบหนีไป
...........................................................................................................................

ความเหมือน ที่ช่างบังเอิญน่าสงสัย(1)

คลิปภาพเหตุการณ์ที่สีลมซอยพัฒพงษ์
http://www.matichon.co.th/mtc-flv-window.php?newsid=1241672195



หลังจากที่ผู้ค้าออกมาให้สัมภาษณ์ ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ และได้นำหลักฐานบัตรชั่วคราวของ จนท.ชุดเฉพาะกิจ และลูกปลอกกระสุนปืน มาเล่าประกอบเหตุกาณณืในคลิป ถึงการกระทำของกลุ่ม จนท.ที่มีทั้งชายเสื้อดำ เสื้อขาวที่เข้ามาทำร้ายและยึดสินค้า ผมก็อดคิดไม่ได้ว่าคนพวกนี้ใช้บีตรชั่วคราวกระทรวงพานิชย์ แต่ไม่ทราบแน่ว่าแท้จริงเป็น ใครมาจากไหน เพราะการกระทำมันช่างต่างกับ จนท.เหลือเกิน แต่มันคล้ายกับคนกลุ่มหนึ่ง คือ พวกเสื้อน้ำเงิน ที่ออกมาทำร้ายคนเสื้อแดงที่พัทยา หรือท่านที่อ่านแล้วจะหาว่าผมโยงมั่ว ก็ลอง ติดตามดูสิครับ ทั้งภาพหรือคลิปที่มีตามสื่อต่าง แต่ได้ยินคำพูดของ นาย อลงกรณ์ พลบุตร แล้วช่างสามหาวและกล่าวหาเหลือเกิน แต่พอเล่าเหตุการณ์แล้วขัดกับประชาชน และยังมีประชาชนที่ไม่ใช่ผู้ค้าแต่เป็นคนมาเที่ยวซื้อของโดน จนท.ทำร้ายอีกทั้งที่ไม่รู้เรื่องด้วย และยืนยันว่า จนท.เป็นฝ่ายยิงปืนใส่ประชาชน แต่ นาย อลงกรณ์ ไม่ให้ความสำคัญเลย กับกล่าวในเชิงขู่ว่าไม่ยอมและอีกสองวันจะเข้าไปตรวจจับอีก น่าจะลองไปด้วยตัวเองนะ ลองคูวิธิการ ของ จนท.ชุดเฉพาะกิจ กับ พวกเสื้อน้ำเงินแล้ว มันคล้ายๆกันนะครับ น่าสงสัย เหลือเกินว่า เป็นขบวนการเดียวกันไหม






?
_________________________________________________________

ความเหมือน ที่ช่างบังเอิญน่าสงสัย (2)

คดีคนร้ายลอบยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่กรณีที่คนร้ายยิงวัตถุระเบิดถล่มศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 13 เม.ย. และประเด็นอื่นอีก 6 - 7 เรื่อง รวมทั้งกรณียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมีรายละเอียดค่อนข้างมาก

คดีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วยอาวุธสงคราม ปืนเอ็ม 16(กระสุนปืนยิงนายสนธิมีสัญลักษณ์ "RTA")ปืน อาก้า และ เอ็ม 79 เมื่อวันที่ 6 พ.ค. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีมีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีนี้ว่า ทุกประเด็นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพ เราพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง เพื่อให้กระบวนการทางกฎ หมายดำเนินการได้ หากตำรวจขอความร่วมมือใดมา กองทัพพร้อมให้ความร่วมมือ หากไปถึงบุคคลใดก็ต้องถูกดำเนินคดี

...หลายฝ่ายมองว่าเป็นคนกลุ่มเดียวกันและเป็นคนมีสีร่วมขบวนการ..

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า

กระสุรยิงสนธิ

ปลอกกระสุนเอ็ม 16 จำนวน 3 นัดที่พบในที่เกิดเหตุนั้นเป็นกระสุนที่มาจากกองพลทหารราบที่ 9 ซึ่งอยู่ในสายงานการบังคับบัญชาของกองทัพภาคที่ 1 แต่เป็นกระสุนที่ใช้ในการฝึกยิงและได้มีการรั่วไหลออกมา ซึ่งเป็นเรื่องยากในการตรวจสอบว่าเป็นกระสุนมาจากหน่วยใด ทั้งนี้หากตรวจสอบพบที่มา ก็จะต้องมีดำเนินการสอบสวนผู้รับผิดชอบตามกฎระเบียบของกองทัพต่อไป

ส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายยิงนายสนธิ แจ้งว่า จากการตรวจสอบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ขนาด 5.56 มม.จำนวน 3 ปลอก ที่พบในที่เกิดเหตุพบว่า ซึ่ง 2ใน 3เป็นกระสุนที่ผลิตโดยกรมสรรพาวุธทหารบกมีการตีตราสัญลักษณ์ RTA ย่อมาจาก ROYAL THAI ARMY ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ส่งให้เฉพาะหน่วยทหารในกองทัพภาคที่ 1ใช้เท่านั้น

ด้าน พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยกับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นถึงเรื่องปลอกกระสุนดังกล่าวว่า เป็นกระสุนที่ใช้ในหน่วยงานทางทหาร ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ แต่จะมีการเล็ดรอดนำออกไปภายนอกหรือไม่นั้น คงตอบได้ยาก



คดีคนร้ายใช้อาวุธสงคราม บุกปล้นร้านทองกลางเมืองพัทยา ตำรวจยังเร่งไล่ล่าคนร้ายอีก 2 คน หลังจับกุมได้แล้ว 3 คน พร้อมอาวุธสงครามจำนวนมาก


http://news.mcot.net/local/inside.php?value=bmlkPTI5OTMwJm50eXBlPWNsaXA=

ตำรวจภูธรภาค 2 นำตัวนายเกษม กลิ่นดี นายกมล แสงเพิ่ม และนายสุรชาติ ยอดทอง มาแถลงข่าว พร้อมอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 อาวุธปืนอาก้า เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ระเบิดแบบขว้าง เครื่องกระสุนหลายรายการ กว่า 7,000 นัด และรถยนต์กระบะ ทะเบียน นข - 1090 นครนายก ที่ใช้หลบหนี พร้อมยึดคืนทองรูปพรรณน้ำหนัก รวม 40 บาท ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 รับสารภาพ โดย นายกมล 1 ในผู้ต้องหา บอกว่า เป็นคนชอบอาวุธปืนสงครามและสะสมมานานเป็นปี โดยจะหาซื้อแล้วนำไปฝากไว้กับ นายเกษม ในวันปล้นร้านทอง เป็นคนยิงคุ้มกันเพราะเคยฝึกจากการเรียน รด. มาก่อน ขณะที่ นายสุรชาติ ผู้ต้องหาอีกคน ทำหน้าที่ขับรถยนต์ที่ใช้ในปล้นครั้งนี้ส่วนอาวุธปืนสงครามติดต่อซื้อมาจากเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นทหารอยู่ ร.21 ค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี ปืน 7 กระบอก ประกอบด้วย ปืนเอ็ม 16, อาก้า, คาร์บิน, ปืน.38, เอ็ม 79, เอ็ม 60, ปืน .22 ซูเปอร์ และกระสุนปืนขนาดต่างๆ อีก 7,467 นัด

ล่าสุดมีทหารจากหน่วยนี้ไปขอตรวจดูอาวุธแล้ว

**หมายเหตุ ::เป็นหน่วยทหารที่อยู่ในจังหวัดทหารบกชลบุรี เช่นเดียวกับ หน่วย กองพันทหารราบที่ ๒ กรมทหารราบที่ ๑๒ รักษาพระองค์ ที่ใช้กำลังปราบประชาชนคนเสื้อแดง (ประคือ มีการพยามชี้นำว่า อาวุธของหน่วยทหารที่เป็นข่าวนั้นหลุดลอดออกไปจากหน่วย.. ข้อสงสัย เพื่ออะไร....)

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น





ปล้นทอง - บช.ภ.2 แถลงข่าวจับกุม 3 ผู้ต้องหา คดียิงถล่มปล้นทอง ในพัทยา ยึดอาวุธสงคราม กระสุน 7 พันนัด ระเบิดเอ็ม 79 อีก 22 ลูก ของกลางทองคำหนัก 40 บาท เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ยังตามล่าอีก 2

__________________________________________________________________________________________

ความเหมือน ที่ช่างบังเอิญน่าสงสัย (3)

จตุพรชี้ชุมนุมเสื้อแดง10 พ.ค.แฉหลักฐานทหารทำร้ายประชาชน

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการนัดชุมนุมกลุ่มนปช.ในวันที่ 10 พ.ค.เวลา 16.00 น.เป็นต้นไปว่า การชุมนุมครั้งนี้แกนนำกลุ่มจะนำข้อมูลในเชิงลึกซึ่งมีทั้งภาพ พยานที่เป็นหลักฐานชัดเจนว่ารัฐบาล ทหารใช้กำลังความรุนแรงกับประชาชน ทั้งกรณีที่สลายการชุมนุมของมกลุ่มเสื้อแดงที่บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง ข้อมูลการปล้นรถเมล์

ภาพที่นายอภิสิทธิ์โกหก ประชาชนในกรณีที่อ้างว่านั่งอยู่ในรถกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง แต่จากการตรวจสอบของกลุ่มคนเสื้อแดงพบว่ารถคันที่ถูกทุบไม่มีใครนั่งในนั้นมีเพียงคนขับรถ

อีกทั้งจากการตรวจสอบรูปภาพกลุ่มบุคคลที่ไปรุมทุบรถนายกฯเป็นทหารที่สวมเสื้อแดงเกินกว่าครึ่งซึ่งเหล่านี้เป็นการสร้างสถานการณ์และบิดเบือนข้อมูลของรัฐ ซึ่งในวันที่ 10 พ.ค.นี้แกนนำจะมีการเปิดโปงให้หมดเปลือก ส่วนการจะมีการวิโอลิงค์ขณะนี้ยังไม่มีการประสานกับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่เบื้องต้นจะเน้นการเปิดโปงข้อมูลจากเหตุการณ์การชุมนุมครั้งที่ผ่านมา

การที่รัฐบาลสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาคนเสื้อแดงและสั่งให้มีการจับกุม หลายกรณีมีการแจ้งข้อหาเป็นเท็จทั้งในเหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทยที่มีการบุกทุบรถนายกฯ ...ทั้งที่นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพอยู่ในรถอีกคันที่ไม่ถูกทุบ ขณะเดียวกันเมื่อไปดูหน้าตาที่ถูกออกหมายจับที่กล่าวหาว่าถูกทุบรถเป็นทหารเกินกว่าครึ่ง ซึ่งเป็นการโกหกคำโตตบตาประชาชน สร้างสถานการณ์ให้เกิดความเห็นใจแล้วให้ทหารสวมรอยเป็นคนเสื้อแดงมาทุบรถเอง

ภาพเหล่านี้ในวันที่ 10 พ.ค.จะนำไปเปิดเผยให้หมดว่าแท้จริงแล้วรถคันนั้นไม่มีใครนั่ง ขณะเดียวกันกลุ่มเสื้อแดงจะร้องพนักงานสอบสวนว่ามีพฤติกรรมแจ้งข้อกล่าวหาเท็จโดยเฉพาะพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และจะทำให้สังคมเห็นว่านายอภิสิทธิ์ โกหกบิดเบือนข้อมูลซึ่งไม่สมควรอยู่ต่อไป ต่อให้ตั้งเป็น 1,000 ข้อหาก็เท่ากับว่าแร่งให้ประชาชนออกมาต่อสู้และจะถูกตอบโต้อย่างสาสม วันนี้ถ้ารังแกประชาชนมากๆพวกเราจะเดินออกมาให้ฆ่าอีกรอบ

นายจตุพร กล่าวว่า ล่าสุดทราบมาว่าบชน.จะออกหมายจับผู้ที่ไปขึ้นเวทีนปช.เพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงพ.ต.ท.ทักษิณ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายจตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการพรรคไทยรักไทย รวมทั้งจะมีการตั้งข้อหาตนและนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช.เพิ่มด้วย ซึ่งตนมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)บางส่วนยังรับใช้นักการเมืองอย่างน่าเกลียด มีการเลือกปฏิบัติสองมาตรฐานชัดเจน เช่น กรณีที่นายสุเทพและพล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ. 1 ระบุว่าจะดำเนินการสั่งฟ้องกรณีที่แกนนำพันธมิตรบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิภายใน 2 สัปดาห์แต่ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าทั้งที่ผ่านมาเป็นเวลานาน

ผบ.ทบ."ส่งจนท.ฝ่ายกฎหมายดำเนินการฟ้องคนนำชื่อไปโยงลอบสังหาร"สนธิ" รอสัปดาหืหน้าตัดสินใจอย่างไร ไฟเขียวกรมสรรพาวุธร่วมมือตร.หาหลักฐาน อ้อมแอ้มมีช่องโหว่ "กระสุนฝึก" หลุดจากหน่วย

ตร.ขอรายละเอียดกระสุน
เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานขอข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของกระสุนหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้ากรมสรรพาวุธทหารบกว่า มีหนังสือฉบับหนึ่งของผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐาน ขอรายละเอียดเกี่ยวกับเลขงานกระสุน 06 กับ 07 ของกระสุน 5.56 มม. ซึ่งเป็นกระสุนของปืนเอ็ม 16 มา 1 ฉบับ เพื่อขอรายละเอียดว่ากระสุนล็อตนี้มีเลขงานอะไรบ้าง ซึ่งขณะนี้กรมสรรพาวุธกำลังเตรียมหลักฐานข้อมูลว่า กระสุนเลขงาน 06 กับ 07 มีเลขงานย่อยทั้ง 2 ล็อตนี้อะไรบ้าง ทั้งนี้ กองพิสูจน์หลักฐานของตำรวจได้ร้องขอตรงไปยังกรมสรรพาวุธทหารบก ตนได้ให้กรมสรรพาวุธตอบให้ความร่วมมือไป


อ้อมแอ้มมีช่องโหว่ "กระสุนฝึก" หลุดจากหน่วย


เมื่อถามถึงกรณีที่คนร้ายก่อเหตุปล้นร้านทองที่ จ.ชลบุรี โดยคนร้ายอ้างว่ากระสุนที่ใช้ซื้อมาจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องดี แต่ถ้าเอามาจากหน่วย ความยากที่จะตรวจสอบคือกระสุนที่จ่ายออกไปแต่ละล็อตผลิตเป็นหมื่นนัด บางทีจ่ายไปในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 หรือกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) จ.กาญจนบุรี ถือว่าเป็นหน่วยกว้าง แต่เรายินดีที่ให้ตำรวจไปสอบสวนว่า จ่ายไปที่ใครบ้าง ถือเป็นเรื่องยากที่จะไประบุว่ารั่วมาจากจุดใด หากกล่าวอ้างว่าซื้อมาจากใคร เราจะสามารถดำเนินการได้ ดังนั้นต้องถามคนร้ายว่าซื้อมาจากใคร คนพวกนี้จะมีความผิดทางกฎหมายและอาญา

เมื่อถามว่า การซื้อขายอาวุธของกองทัพให้คนร้ายง่ายเกินไปหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า กระสุนที่สามารถรั่วไหลได้มี 2 ส่วน คือ กระสุนจากการฝึก และ กระสุนที่นำไปปฏิบัติภารกิจตามแนวชายแดน ซึ่งทั้งสองส่วนมีจุดที่จะรั่วไหลได้คือ ในการฝึกบางฝึกเมื่อฝึกเสร็จแล้วอาจมีการสอบสวนในเรื่องไม่สามารถส่งคืนปลอกกระสุนได้ ซึ่งจะต้องมีการสอบสวน หากผลการสอบสวนออกมาว่า ขอจำหน่ายกระสุน 100 นัด และไม่สามารถส่งคืนปลอกได้ ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่จะทำให้กระสุนรั่วไหลได้ซึ่งตนได้เรียกเจ้ากรมสรรพาวุธ และเจ้ากรมยุทธการมากำชับแล้วว่าเราต้องเด็ดขาด และไม่มีการจำหน่ายกระสุนใดเลย


“สมมุติเอากระสุนไปฝึกยิง 100 นัด ก็ต้องส่งปลอกคืน 100 นัด ขาดไม่ได้เลยแม้แต่นัดเดียว หน่วยก็จะไม่น่าทำได้เลยในส่วนนี้ ส่วนการนำกระสุนไปปฏิบัติตามแนวชายแดน เช่น จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากเราบอกว่า ยิงกระสุนทุกนัดต้องคืนปลอก นัดเดียวก็ขาดไม่ได้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการได้หรือไม่ ผมไม่แน่ใจ เพราะไม่ใช่ว่าสักแต่จะสั่ง เพราะเขาอาจจะทำไม่ได้ หากทำได้ อาจจะมีจุดรั่วได้ แม้ว่ากระสุนที่เล็ดรอดไป ทำให้หน่วยงานนั้นๆ เสียหายก็ไม่เป็นไร เพราะไม่มีทางเลี่ยงอย่างอื่น หากเกิดขึ้นแล้วรู้ที่มาจะยิ่งง่าย ซื้อจากใครต้องรู้ และตำรวจต้องสืบและสอบสวนไป หากบอกว่า ซื้อจากข้าราชการ ก. ข. ค. ง.ก็ดำเนินคดี คนพวกนี้ก็จะหมดไป ซึ่งคนทำเช่นนี้มีไม่มาก และเรื่องกระสุนเล็ดรอดไม่ได้เพิ่งเกิด แต่เกิดมานานแล้ว บางครั้ง 5 นัด 10 นัด แต่เขาไม่ได้ขนไปเป็นขบวนการ ” พล.อ.อนุพงษ์ ระบุ

....................................................................................................................

เอาเถอะจะพูดอะไรก็พูดกัน ไปแต่อย่าบอกนะว่ากระสุนที่ยิงประชาชนคนเสื้อแดงเมื่อ 13 เมษายน 2552เป็นกระสุนส่วนหนึ่งที่หลุดลอดออกมาแล้วมีคนนำมาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ รับรองถ้าอ้างแบบนี้ พวกเอ็งจะเป็นสุดยอดพวก โกหกสร้างภาพ อย่าพยายามหาวิธีมากลบเกลื่อนเลย ปิดไม่มิดหรอก

ก็ลองดูกันต่อไปว่าพวกเผด็จการ ทรราช ปชป.และ อำมาตย์ ทหารชั่ว กลุ่มนี้จะ ใช้วิธีการสกปรกแบบไหนอีก ในการ ยัดเยีอดข้อกล่าวหาให้คนเสื้อแดง แต่ที่ผ่านมา อย่าคิดว่าสำเร็จ ขนาด ส่ง กอ.รมน.ลงไป แก้ต่างยังโดนชาวบ้าน ตอกหน้าหงาย แค่คำถามสั้นว่า คนเสื้อแดงไม่ใช่คนไทยหรือไง ก็ ใบ้กินเป็นแถว แต่แน่นอน บางพื้นที่คนเสื้อแดงอาจจะ แกล้งอ่อนตามเล่นตามไปก่อน เพื่อ ตัดปัญหา แต่ความจริงที่เจ็บปวดและเกลียดชังต่อ รัฐบาลทรราช ของ นาย อภิสิทธ์ เวชชาชัวะ มันยัง เต็มแน่นอยู่ในใจ รอวันสะสาง มองอย่างไรก็ไม่มีทางเลยที่จะเอาชนะใจชาวบ้านได้ เพียงแต่ประชาชนไม่อยากแสดงออกเพราะเสียเวลาเปล่าเมื่อ สื่อเลวที่ทำหน้าที่หลักนั้น ไม่เคยนำเสนอออกไป

......................................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก