กระแสเสื้อสีแดงแห่งประชาธิปไตยอะไรก็เกิดขึ้นได้ !! ใครจะรู้

คลิ๊กดูThai E-News: รักสาวเสื้อแดง

โดย : ยรรยง โชคชนแดน
คอลัมน์ ชาวดิน ออนเน็ต


กระแสพลังเสื้อสีแดงแห่งประชาธิปไตย อะไรก็เกิดขึ้นได้ !! ใครจะรู้ได้.... หลังจากที่ผมได้เห็นพลังเสื้องแดงของคนที่รักประชาธิปไตย ที่ออกมาแสดงพลังในวันที่ 1 พ.ย.2551 ที่สนามราชมังคลาฯแล้ว บอกได้เลยว่าสุดยอดและประทับใจมาก และต่อมาก็มีข่าวเกี่ยวกับ ท่าน พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชิณวัตร ติดตามมาเรื่อยๆ หลังจากที่ได้โฟนอินเข้ามาร่วมในรายการความจริงวันนี้ที่ สนามราชมังคลาฯ โดยมี หลายประเทศ อ้าแขนรับและยื่นตำแหน่งหน้าที่อันทรงเกียรติให้มากมาก ล่าสุดไม่เว้นแม้แต่ สหรัฐอเมริกา ประเทศมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลก ที่พึ่งได้ว่าที่ผู้นำคนใหม่อย่าง โอบามา ที่มีข่าวว่าจะเชิญไปร่วมทีมเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ


ดังนั้นวันนี้ ผมขอมองข้ามกลุ่มกบฏพันธมิตรไปเลย แต่ อยากถามผ่าน "คอลัมน์ ชาวดิน ออนเน็ต" นี้ไปยัง นักวิชาการ วิชาเกิน ทั้งหลายที่ออกมาแสดงจุดยืนที่เอนเอียงบ้าง ตรงไปตรงมาบ้าง แสดงความคิดเห็นกันประหนึ่งว่าเป็นผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน หรือเหมือนว่า รู้ว่าประชาชนส่วนใหญ่คิดอะไร หรือจะทำอะไร ซึ่งผมเอง ก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่คนเหล่านั้นออกมาแสดงความคิดเห็น หรือ ชี้นำให้คนปฏิบัติ โดยเฉพาะบรรดานักวิชาการ วิชาเกิน ที่มีแนวคิดฝักใฝ่เผด็จการและให้ท้าย กลุ่ม กบฏพันธมิตร คนเหล่านี้ทำตัวประหนึ่งว่าเป็นผู้ที่คอยบอกบท ให้กลุ่มพันธมิตร


แต่กับข่าวคราวที่ นานาประเทศ ได้เชื้อเชิญให้ ท่าน พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชิณวัตร เข้าไปเป็นที่ปรึกษาแก้ไขปัญหาความยากจนหรือพัฒนาด้านเศรษฐกิจ นั้น ผมไม่รู้ว่ากลุ่ม นักวิชาการที่เอ่ยถึงไปข้างต้นนั้น เขาคิดเหมือนผมหรือเปล่า ว่า นั่นเป็นการบอกใบ้ อะไรบางอย่างกับ กลุ่มคนที่ออกมาต่อต้านรัฐบาล และมีแนวคิดการเปลี่ยน การเมืองใหม่ ที่ถอยหลังห่างออกไปจากคำว่า ประชาธิปไตย รวมถึงทหารที่จะออกมายึดอำนาจ หรือ กลุ่มบุคคลระดับอำมาตยา ชั้นสูงบางกลุ่ม ว่า นานาประเทศเหล่านั้นเขาคิดอะไรอยู่ และมีความเป็นไปได้ไหม ที่เขาพร้อมที่จะ แบนประเทศไทยทันที หากยังขืนดันทุรัง ปล่อยให้ มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง หรือ อาจจะหมายถึง พรรค ปชป.ที่แสดงความชัดเจนว่าเป็นเนื้อเดียวกับกลุ่มพันธมิตร


จะเห็นได้จาก สมัยรัฐบาลขิงแก่ ที่ไม่ประสพความสำเร็จ ในการสงทีมวอร์รู่ม ไปเจรจากับ ประเทศทางยุโรป และการขอกู้เงินจากยี่ปุ่น ก็ไม่ได้รับการตกลงให้กู้ มิหนำซ้ำยัง กล่าวเชิญ ท่าน พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชิณวัตร ไปเป็นอาจารย์สอนที่ มหาวิทยาลัยในยี่ปุ่น ทั้งที่ ท่าน พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชิณวัตร โดน ยึดอำนาจ ด้วยข้อ กล่าวหา ที่ทุกวันนี้ หลายประเทศเริ่มเห็นชัดแล้วว่า เป็นข้อกล่าวหาที่เกินจริง (หรือเขาอาจจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่ามีขบาวนการใดบ้างที่จ้องโค่นล้ม)



หากเป็นจริงดังที่ผมคิดตามข่าวที่ออกมา ผมคิดว่า ประเทศ ทั้งหลายเหล่านั้น ได้ออกมาเตือนทางอ้อม กับ กลุ่มคนที่สนับสนุนพันธมิตรอยู่เบื้องหลังแล้ว แม้ว่าจะมีคนมีหน้ามีตา ฐานะใหญ่โตแค่ไหน หรือ ห้างร้านกิจการใดๆ ถ้ายังไม่เลิกการกระทำ ที่สนับสนุนกลุ่มพันธมิตร และไม่สนับสนุนการทำงานของรัฐบาลที่ออกมาจากการเลือกตั้ง พวกคนเหล่านี้อาจจะโดนตัดสัมพันธ์ทางการค้าไปก็ได้ เพราะการที่ นานาประเทศเหล่านั้นเชิญ ท่าน พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชิณวัตร ไปเป็นที่ปรึกษานั้น เขาได้กำลังบอกใบ้ให้คนไทยและบริษัทห้างร้านต่างๆที่สนับสนุน กลุ่มกบฏพันธมิตร ว่า เขาหมดความอดทนแล้วนะ


แล้วผลกระทบที่จะตามมา ท่านก็ลองเดาดูเถอะครับว่า อนาคตประเทศไทย จะเป็นอย่างไร และการที่ กลุ่มคนอีกฝ่าย ที่ออกมารวมตัวกันต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผมคิดว่า แม้ จะมีคำสั่งยุบ พรรค พลังประชาชน ชาติไทย มัชฉิมาฯ แล้วมีการตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้นมา โดยให้ นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ประเทศไทยอาจจะถูกตัดสัมพันธ์จากประเทศเหล่านั้นก็เป็นได้ แม้แต่ สหรัฐอมเริกา ที่ พึ่งผ่านการเรื่องตั้งแบบประชาธิปไตยผ่านไปอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ ขอเขาต่างออกมาแสดงเจตนาที่จะสนับสนุนกันอย่างเต็มที่ เป็นภาพที่ หาดูไม่ได้ในประเทศไทยเลย

ปล.นี่ลองคิดเล่นๆนะครับ