ชาวดิน ออนเน็ต

***อนิจา วาสนา ไพร่***

เรียกร้องเถอะ ร่ำหา กันให้ตาย
เคยบ้างไหม เคยได้ สิ่งที่หวัง
กราบแทบเท้า ติดดิน ร้องเสียงดัง
มีสักครั้ง บ้างไหม ใครเมตตา

สิ่งที่ขอ รอมา กี่ชาติแล้ว
ไร้วี่แวว สิทธิ ที่ใฝ่หา
เป็นแค่ไพร่ เขาชี้ เป็นอีกา
อย่าได้มา ร่วมหงส์ ดงผู้ดี
ร้องขอมา กี่ปี กี่ชาติแล้ว
ก็ไม่แคล้ว โดนด่า ฆ่าทุบตี
จากปู่ย่า มาถึง ทุกวันนี้
ถูกย่ำยี ไล่บี้ ให้จำนน
ตายแล้วสิบ เกิดใหม่ ได้เป็นแสน
แต่ขาแขน ถูกตรึง ด้วยเล่ห์กล
แล้วเมื่อไหร่ สิ่งนี้ จะหลุดพ้น
รับกฏโจร กฏหมาย ไร้ปราณี
อนิจา วาสนา ชะตาไพร่
ถูกใส่ร้าย กล่าวหา ว่าบัดสี
ทั้งหมอบกราบ ก้มไหว้ อย่างภักดี
แพ้วจี คนโฉด โป้ปดลวง
คงถึงครา แล้วหนา บรรดาไพร่
แม้ร่ำไห้ ร้องขอ ก็ช้ำทรวง
เขาไม่แล พวกเรา ไพร่ทั้งปวง
ต้องวัดดวง ทวงค่า ความเป็นคน


โดย ยรรยง ลูกชาวดิน

7 / มีนาคม / 2553
........


วันศุกร์, มกราคม 09, 2552

หนังสือพิมพ์ในเครืองสหภาพยุโรปแฉ!!!!!!!

ข่าวในประเทศไทยตอนนี้ได้ทะลักออกสู่ต่างประเทศเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลใหม่ในข่าวได้กล่าวว่ารัฐบาลใหม่ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีได้รับผู้คนให้เข้าร่วมทำงานกับรัฐบาลใหม่โดยการซื้อคนของพรรคพลังประชาชนเก่า อีกทั้งแจกจ่ายตำแหน่งผู้ก่อการร้ายม๊อบพันธมิตรเสื้อเหลืองที่พาผู้คนไปปิดล้อมสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิและดอนเมือง การกระทำของรัฐบาลอภิสิทธิ์ทางต่างประเทศยอม

รับไม่ได้เพราะเนื่องจากไม่โปร่งใสมีเลสนัยในการจัดตั้งรัฐบาลโดยการซื้อคนของพรรคพลังประชาชนเข้าร่วมด้วยเงินตามข่าวที่แฉมาว่าซื้อนักการเมืองหัวละ 40 ล้านบาท และการไม่โปร่งใสของการตัดสินยุบพรรค
พลังประชาชนโดยเร่งด่วนทั้งที่ไม่จำเป็นต้องเร่งด่วนทำข่าวได้เขียนอีกว่ามันมีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนในกรณีเร่งด่วนยุคพรรคเนื่องจากหาหนทางให้พันธมิตรก่อการร้ายสลายอย่างรวดเร็วเพราะได้

สร้างความเสียหายให้ประเทศทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศที่ม๊อบได้กักขังหน่วงเหนี่ยวคนต่างชาติเป็น
ตัวประกันให้อยู่ในสนามบินพร้อมกักเครื่องบินไม่ให้บินจำนวน 88 ลำความผิดระดับสากล ฉะนั้นการเร่ง
ด่วนยุบพรรคพลังประชาชนคือทางออกที่จะช่วยโจรพันธมิตรได้แล้วก็ทำสำเร็จโดยร่วมด้วยกันหลายฝ่ายทั้ง
ทหาร-ตำรวจซึ่งม๊อบที่ปิดสนามบินมีทั้งทหารยศนายพลและทหารลูกน้อง อีกทั้งนักการเมืองของพรรค

ประชาธิปัตย์เข้าร่วมขึ้นเวทีปราศัยภาพในกล้องของนักท่องเที่ยวได้ถ่ายใว้เป็นจำนวนมาก นั่นคือนายกะษิต อภิรมย์ ที่นายอภิสิธิ์ให้ตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ข่าวยังเขียนแฉอีกว่านายอภิสิทธิ์ยังได้แจกจ่ายตำแหน่ง
สำคัญๆให้ผู้ร่วมม๊อบพันธมิตรเป็นการตอบแทนที่ได้หนุนให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลสมความต้อง
การ การช่วงชิงอำนาจเป็นผลสำเร็จของประชาธิปัตย์นั้นมาจากคนที่อยู่เบื้องหลังสนับสนุนม๊อบพันธมิตรทั้ง

สิ้น ดังนั้นสรุปแล้วว่าการขึ้นมาเป็นรัฐบาลได้ของประชาธิปัตย์ถูกอุ้มให้ขึ้นไม่ได้ขึ้นมาอย่างสง่างามเหมือนชนะการเลือกตั้งทั่วๆไป อีกทั้งซื้อนักการเมืองเพื่อให้ได้เสียงข้างมากเข้าข้างตนโดยใช้วิธีสกปรกข่มขู่โดยยกข้ออ้างจากบุคคลหนึ่งหากไม่ทำตามคนในครอบครัวจะเดือดร้อนนักการเมืองหัวออ่นจึงต้องยอมก้มหัวให้และเข้าไปร่วมดังที่ได้รู้กันทุกคนในประเทศไทย แต่รัฐบาลใหม่นี้ยังไม่มีนโยบายที่เป็นหลักเป็นของตัวเอง

จึงต้องยืมเอานโยบายนายทักษิณ ชินวัตร ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยถล่มนโยบายนี้ตอนเป็นฝ่ายค้านของไทยรักไทย แล้วเหตุใดเวลานี้จึงนำเอานโยบายของนายทักษิณมาใช้? หรือว่าคิดการณ์ไม่ทันจึงต้องยืมของคนอื่นใช้ไปก่อนเพื่อความเชื่อถือ การนำคนเข้ามาร่วมทำงานกับรัฐบาลซึ่งเป็นลูกคนละพ่อลูกคนละแม่แถมลูกขอเขามาเลี้ยงรวมทั้งลูกที่เก็บตกมาจากข้างถังขยะมันเป็นการรวมมิตรซึ่งจะไม่สามารถควบคุมได้แน่นอน

เพราะแต่ละคนไม่เคยผ่านงานระดับประเทศมาก่อน อย่างเช่นคนที่ก่อม๊อบหากินด้วยการรับจ้างแล้วมารับ
ตำแหน่งในรัฐบาล คนที่จะทำงานให้รัฐบาลได้ต้องคนที่ได้เล่าเรียนมาด้านการเมืองโดยตรง หรือนักธุระกิจ
หัวไวที่สามารถแก้ไขเศรษฐกิจให้พ้นวิกฤติได้ถึงจะบริหารประเทศอย่างเช่นนักธุระกิจเยี่ยงนายทักษิณ ที่เคย
กู้วิกฤติให้ประเทศไทยมาแล้ว ดังนั้นในสถานการณ์โลกขณะนี้ทั่วโลกมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจกันทั้งนั้น

ประเทศใหญ่ๆเช่น อเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมัน ออสเตรียเลีย แคนาดา แม้แต่ประเทศที่ว่ารวยที่สุดคือ ดูไบ ก็ยัง
มีปัญหาแล้วประเทศไทยที่มีแต่ปัญหาระหว่างพรรคการเมืองจ้องแต่จะล้มอำนาจทำรัฐประหาร ประเทศไม่มี
ทางก้าวหน้าเศรษฐกิจไม่มีทางฟื้นฟูขึ้นมาแน่นอน นักลงทุนขาดความเชื่อถือแล้วเมืองไทยจะอยู่รอดไปได้อย่างไรในเมื่อคนไทยเองทุบหม้อข้าวตัวเองให้ต่างชาติเห็นแล้วใครจะกล้ามาทำธุระกิจร่วมด้วย แม้แต่

นักท่องเที่ยวยังบอก โน ไม่มาประเทศไทยกลัวโดนปิดสนามบินอีกยิ่งรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์เอาพันธมิตรร่วมทำงานกับรัฐบาลยิ่งเจริญเร็วปิดต่างประเทศไม่ได้ถึงจะพยายามฟอกตัวขนาดใหน แต่คนต่างประเทศ
ก็ยังเห็นความสกปรกอยู่ดี นี่ข่าวในต่างประเทศออกมาว่าประเทศกัมพูชาจะไม่เข้าร่วมประชุมกลุ่มเอเซียที่เมืองไทยและอาจจะประเทศจีนด้วยเพราะเสถียรภาพของไทยไม่แน่นอนยกเลิกการประชุมอยู่ตลอดเวลา

และก็ย้ายสถานที่ประชุมเหมือนกับการหนีโจรประชุมซึ่งเป็นบุคลิคของการขโมยเขากินกลัวเขามาถวงคืน
จะอายขายหน้าต่างประเทศจึงย้ายไปย้ายมาเพื่อความปลอดภัยหน้าตาของรัฐบาลตน แต่ต่างประเทศก็ดูวิธี
การออกการลุกลี้ลุกรนแบบนี้เป็นเพราะสาเหตุใด????????????



.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก