ชาวดิน ออนเน็ต

***อนิจา วาสนา ไพร่***

เรียกร้องเถอะ ร่ำหา กันให้ตาย
เคยบ้างไหม เคยได้ สิ่งที่หวัง
กราบแทบเท้า ติดดิน ร้องเสียงดัง
มีสักครั้ง บ้างไหม ใครเมตตา

สิ่งที่ขอ รอมา กี่ชาติแล้ว
ไร้วี่แวว สิทธิ ที่ใฝ่หา
เป็นแค่ไพร่ เขาชี้ เป็นอีกา
อย่าได้มา ร่วมหงส์ ดงผู้ดี
ร้องขอมา กี่ปี กี่ชาติแล้ว
ก็ไม่แคล้ว โดนด่า ฆ่าทุบตี
จากปู่ย่า มาถึง ทุกวันนี้
ถูกย่ำยี ไล่บี้ ให้จำนน
ตายแล้วสิบ เกิดใหม่ ได้เป็นแสน
แต่ขาแขน ถูกตรึง ด้วยเล่ห์กล
แล้วเมื่อไหร่ สิ่งนี้ จะหลุดพ้น
รับกฏโจร กฏหมาย ไร้ปราณี
อนิจา วาสนา ชะตาไพร่
ถูกใส่ร้าย กล่าวหา ว่าบัดสี
ทั้งหมอบกราบ ก้มไหว้ อย่างภักดี
แพ้วจี คนโฉด โป้ปดลวง
คงถึงครา แล้วหนา บรรดาไพร่
แม้ร่ำไห้ ร้องขอ ก็ช้ำทรวง
เขาไม่แล พวกเรา ไพร่ทั้งปวง
ต้องวัดดวง ทวงค่า ความเป็นคน


โดย ยรรยง ลูกชาวดิน

7 / มีนาคม / 2553
........


วันอาทิตย์, มกราคม 11, 2552

คดีปิดสนามบินอืดเป็นเรือเกลือตำรวจเผยคืบหน้า70% แต่ยังจับใครไม่ได้ เพราะมัน มีเส้นรึ เปล่า

ข้อมูลข่าวจาก ไทยอีนิวส์



คดีปิดสนามบินอืดเป็นเรือเกลือตำรวจเผยคืบหน้า70%

พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรคนเสื้อเหลืองที่ยึดทำเนียบรัฐบาล รวมกระทั่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - ดอนเมืองว่า ตำรวจไม่ได้ละเลย และได้สอบสวนมาตั้งแต่หลังเกิดเหตุใหม่ๆ ซึ่งขณะนี้ได้ตรวจสอบพยานบุคคลไปแล้วกว่า 200 ปาก และมีความคืบหน้าไปแล้วร้อยละ 70 โดยมีการประชุมมาโดยตลอด ซึ่งในวันอังคารนี้(13ต.ค.)จะมีการประชุมกันอีก

เหตุที่ต้องใช้ระยะเวลาเพราะเป็นการกล่าวหาว่าได้กระทำความผิดเกี่ยวกับการมั่วสุม ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง บุกรุก ทำให้เสียทรัพย์และความผิดฐานอื่นๆ ซึ่งถือเป็นความผิดสำคัญ มีอัตราโทษสูง ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะฉะนั้น ตนขอยืนยันว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มิได้ละเว้นการดำเนินการใดๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเสื้อเหลืองและเสื้อแดง

*มาร์คไม่ขีดเส้นตาย โต้ปากสั่นดองคดี อ้างพธม.หัวหมอเลยทำตามขั้นตอน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอบคำถามผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลเร่งดำเนินการเฉพาะการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่กลับไม่ยอมดำเนินการกรณีพันธมิตรปิดสนามบิน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "แล้วทราบได้อย่างไรว่าไม่ได้รีบดำเนินการ เพราะความจริงแล้วผมก็คุยกับฝ่ายความมั่นคง ก็ได้ย้ำไปแล้วว่าต้องเร่งสะสางในทุกกรณี รวมถึงกรณีการปิดสนามบินและเรื่องต่างๆ ซึ่งก็เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ไปแจ้งความเรื่องของทรัพย์สินแล้ว ทุกอย่างก็เดินหน้าไป เพราะเรื่องที่ดำเนินการกันอยู่ก็ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร"

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุที่การดำเนินการล่าช้า เพราะแกนนำพันธมิตรสังกัดพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะล่าช้า เพราะได้บอกกับ ผบ.ตร.ไปแล้วว่าต้องเดินหน้าโดยไม่คำนึงว่าเป็นใคร เมื่อถามย้ำว่า ได้กำหนดกรอบเวลาหรือไม่ว่าคดีปิดสนามบินควรเห็นผลเมื่อไร นายกฯกล่าวว่า อยู่ที่การทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งหลายเรื่องได้สอบถามไปเพราะเห็นว่าไม่น่าจะซับซ้อน แต่ก็ได้รับคำชี้แจงว่ามีคณะกรรมการพิจารณา รวมถึงฝ่ายที่ถูกกล่าวหาก็มีวิธีการทางกฎหมาย ทำให้ขั้นตอนต่างๆ เพิ่มขึ้น

"ไทยอีนิวส์"จะเกาะติดการดำเนินคดีต่อพันธมิตรแบบวันต่อวันนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยขอเริ่มต้นด้วยการประมวลภาพเหตุการณ์ที่เป็นไฮไลต์ซึ่งโจรพันธมิตรกระหายเลือดก่อขึ้นตั้งแต่ต้นจนถึงขณะนี้ และยังลอยนวล เพื่อเร่งรัดให้มีการดำเนินคดีเอาผิดกับโจรก่อการร้ายทั้งหัวโจก และสมุนบริวารให้จงได้ แม้ว่าพวกเขาจะได้ชื่อว่า"ม็อบมีเส้น"ก็ตาม


*รุกรานทำร้ายชาวบ้านใกล้เขาพระวิหาร

พันธมิตรเปิดฉากนองเลือดด้วยการยกกองกำลังจะไปยึดเขาพระวิหารตามคำชี้นำของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้นำสูงสุดที่ประกาศให้รบกับกัมพูชาเพื่อยึดเขาพระวิหารคืน แต่ถูกชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เขาพระวิหารทัดทานไว้ว่าอยากอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านแบบสันติภาพมากกว่า ทำให้กองกำลังบ้าคลั่งของพันธมิตรรุกรานโจมตีเกิดเหตุจลาจลขึ้น ฝ่ายชาวบ้านที่รักสันติต้องอาบเลือดไปตามๆกัน

เหตุการณ์ผ่านไป และกลายเป็นคลื่นกระทบฝั่ง ไม่มีพันธมิตรรายใดถูกดำเนินคดี



สังหารณรงค์ศักดิ์ กรอบไธสง เสื้อแดงรายแรกที่สังเวยพวกกระหายเลือด

ดึกคืนวันที่1ต่อเนื่องวันที่2กันยายน2551 นชป.ที่จัดชุมนุมย่อยสนามหลวงได้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้พันธมิตรยุติการยึดทำเนียบ แต่พันธมิตรกระหายเลือดใช้อาวุธปืนยิงกระหน่ำใส่ และอาวุธหลายอย่างมีผู้ชุมนุมเสื้อแดงบาดเจ็บและถูกกระทืบซ้ำหลายราย และณรงค์ศักดิ์ กรอบไธสง เป็นศพแรกที่สังเวยความกระหายเลือดของพันธมิตร

งานศพของณรงค์ศักดิ์ผ่านไปแบบเงียบๆ ไร้เกียรติยศใดๆ แต่น่าประหลาดคือรูปหน้าศพเกิดติดไฟไหม้ขึ้นอย่างพิศวง ราวกับว่าทวงความเป็นธรรม จนบัดนี้ยังไม่มีการจับฆาตกรที่สังหารเขาได้แต่อย่างใด ขณะที่พี่สาวของณรงค์ศักดิ์ปฏิเสธจะรับความช่วยเหลือค่าทำศพจากพันธมิตร หรือกลุ่มสว.40คน




*ผู้ก่อการร้ายพันธมิตรพยายามสังหารตำรวจอย่างโหดเหี้ยม

ผู้ชุมนุมพันธมิตรแปรเปลี่ยนเป็นผู้ก่อการร้ายอย่างสมบูรณ์แบบในวันที่7ตุลาคม2551 เมื่อเข้าปิดล้อมรัฐสภา และจะบุกยึดบชน. โดยภาพที่พันธมิตรเสนอมีแต่เรื่องที่ตำรวจปราบปรามรุนแรง และความเสียหายของฝ่ายตน กระทั่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติก็มีข้อสรุปเสนอให้ลงโทษตำรวจ ในขณะที่นักข่าวสนามของไทยรัฐรายงานจากสถานที่เกิดเหตุไว้ในบันทึกนักข่าว7ตุลาฯความดังต่อไปนี้


เวลา 11.00 น. การ์ดอาสาพันธมิตรฯ ได้เริ่มโจมตีแนวสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยการขว้างก้อนหิน ขวดน้ำ และใช้ท่อนเหล็ก กับด้ามธงดัดแปลงเป็นปลายหอก ไล่ตีผลักดันออกจากถนนราชวิถี ทำให้ตำรวจที่มีอยู่ประมาณ 2 กองร้อยต้องถอยร่น ตำรวจที่หนีไม่ทันได้แต่นั่งยกมือไหว้อ้อนวอนร้องขอชีวิตอย่างน่าสงสาร

พฤติกรรมที่ไร้มนุษยธรรมของกลุ่ม ผู้ชุมนุมที่มีป้ายการ์ดอาสาฯ คล้องคอหลายคนปิดกั้นไม่ยอมให้รถพยาบาลฉุกเฉินของ ร.พ. ตำรวจ นำ จ.ส.ต.ทวีป กลั่นเทียม ผบ. หมู่งานบังคับและปราบปราม สภ.อ. กำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ที่ถูกกลุ่มพันธมิตรฯ แทงด้วยด้ามธงได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างการปะทะที่แยกอู่ทองในออกจากพื้นที่


พันธมิตรยังได้ใช้รถกระบะพุ่งชนตำรวจ และถอยกลับมาทับหวังฆ่าให้ตายด้วย มีการออกหมายจับ แต่คดียังเงียบจนบัดนี้


กองกำลังติดอาวุธใช้อาวุธสังหารอย่างโจ่งแจ้งราวบ้านเมืองไร้ขื่อแป

พันธมิตรเริ่มใช้อาวุธปืนมาตั้งแค่คืนวันที่1กันยายน2551 ต่อมาผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างประเทศบันทึกภาพได้ว่ามีการใช้อาวุธปืนยิงตำรวจที่รัฐสภาเมื่อวันที่7ตุลาคม2551 แต่ที่เปิดเผนโจ่งแจ้งก็คือการที่TPBSบันทึกภาพพันธมิตรลั่นกระสุนปืนใส่คนขับTAXIที่มาป้องกันการบุกรุกสถานีวิทยุแท็กซี่ที่วิภาวดีซอย3มีผลให้มีผู้บาดเจ็บ12คนในวันที่25พฤศจิกายน2551





ไม่มีความคืบหน้าใดๆในคดีนี้ ผู้ถูกยิงคนหนึ่งบอกว่าเขาไม่คิดว่า"ม็อบเส้นใหญ่"นี้จะโดนดำเนินคดี ขณะที่กลุ่มมือปืนหลังจากลั่นไกสังหารและเผาจักรยายนต์ไปหลายคันก็มุ่งหน้าไปยึดสนามบินสุวรรณภูมิต่อไป และไม่มีใครทำอะไร เพราะทั้งตำรวจและทหารแทนที่จะจับโจรตามกฎหมายและประกาศฉุกเฉิน กลับไปกดดันให้นายกรัฐมนตรีขณะนั้นลาออก และในภายหลังก็พานักการเมืองขั้วตรงข้ามกับกลุ่มเพื่อนเนวินไปจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร โดยอ้างว่าทำไปตามที่"บุคคลที่ไม่อาจปฏิเสธได้"ต้องการ


*ก่อการร้ายสากลยึดสนามบินนานาชาติเกือบเดือนยังลอยนวล

พันธมิตรปฏิบัติการม้วนเดียวจบ ยึดสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิและดอนเมืองนานกว่า1สัปดาห์ โดยทหาร-ตำรวจเพิกเฉยที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ต้องจบลงที่ให้ศาลยุบ3พรรคการเมือง และผู้มีอำนาจแทรกแซงการเมืองเปลี่ยนขั้วหนุนนายอภิสิทธิ์ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีผู้โดยสารตกค้าง350,000คน มูลค่าเสียหายมากกว่า1แสนล้านบาท และส่งผลกระทบต่อการส่งออก เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ของประเทศ



ล่าสุดเมื่อวันที่10มกราคม2552พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การดำเนินคดีกับกลุ่มคนเสื้อเหลืองที่ยึดทำเนียบรัฐบาล รวมกระทั่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - ดอนเมือง ตำรวจไม่ได้ละเลยและได้สอบสวนมาตั้งแต่หลังเกิดเหตุใหม่ๆ ซึ่งขณะนี้ได้ตรวจสอบพยานบุคคลไปแล้วกว่า 200 ปาก และมีความคืบหน้าไปแล้วร้อยละ 70 โดยมีการประชุมมาโดยตลอด ซึ่งในวันอังคารนี้จะมีการประชุมกันอีก แต่เหตุที่ต้องใช้ระยะเวลาเพราะเป็นการกล่าวหาว่าได้กระทำความผิดเกี่ยวกับการมั่วสุม ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง บุกรุก ทำให้เสียทรัพย์และความผิดฐานอื่นๆ ซึ่งถือเป็นความผิดสำคัญ มีอัตราโทษสูง ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะฉะนั้น ตนขอยืนยันว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มิได้ละเว้นการดำเนินการใดๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเสื้อเหลืองและเสื้อแดง


*NO JUSTICE,NO PEACE

ผิดกับกลุ่มเสื้อแดงที่แม้เพียงการปาไข่ใส่นักการเมืองรัฐบาลที่ปล้นชิงอำนาจประชาชนมาอย่างขาดความชอบธรรมก็โดนข้อหาหนักทันใจ หรือเพียงแต่นั่งแท็กซี่ผ่านพรรคประชาธิปัตย์แล้วบีบแตรด่าก็โดนจับสับใส่กุญแจมือ และทหารออกมาพรึบพรับทั้งที่เสื้อแดงมือเปล่าไม่เคยใช้อาวุธหรือความรุนแรง นี่จึงเป็นที่มาของถ้อยประท้วง"ไม่มีความยุติธรรม,ก็ไม่มีสันติภาพ"



อ่านเพิ่มเติมที่ ไทยอีนิวส์.

.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก