วันที่ 12 ม.ค. 2552 เวลา 13.30 น. ที่โรงแรมมิโด้ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จาก 15 จังหวัด ได้แก่ จ.ปทุมธานี นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี พัทลุง ตราด พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ พิษณุโลก เชียงราย ลำปางและกรุงเทพฯ จำนวนกว่า 30 คนร่วมแถลงท่าทีและความเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช.ต่อสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลเข้าติดตามทำข่าวและบันทึกภาพการแถลงความเคลื่อนไหวครั้งนี้หลายนายด้วยกัน ทั้งนี้กลุ่มนปช.ได้แจกจ่ายใบสมัคร “สถาบันเสื้อแดง” โดยให้มีการสอบถามรายะเอียดความสามารถพิเศษเพื่อช่วยกิจกรรมตามความสมัครใจ อาทิ นักกฎหมาย เพื่อติดตามยื่นฟ้อง ช่วยเหลือเรื่องคดีความ, อาชีพอิสระ อย่างแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์ สามล้อ เพื่อเป็นฝ่ายจรยุทธ์, ทหาร ตำรวจ ดูแลความปลอดภัยและยุทธวิธี เป็นต้น รวมถึงสอบถามความสามารถในการจัดตั้งกลุ่มเสื้อแดงในหมู่บ้าน โดยต้องใช้สำเนาบัตรประชาชนประกอบใบสมัครด้วย
โดยนายวิภูมิแถลง พัฒนภูมิไทย แกนนำนปช.กรุงเทพฯ กล่าวว่า จากการหารือของแกนนำ นปช.ทั่วประเทศมีมติรณรงค์เรียกร้องใน 3 ประเด็น คือ
1.ทันทีที่มีการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติวันที่ 21 ม.ค.นี้ตัวแทนนปช.จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ให้นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ฉบับที่เสนอโดย คปพร.ที่ค้างการพิจารณาในสภาเข้าสู่ที่ประชุมสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 โดยเร็วที่สุดเพราะเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งมวล
2.เรียกร้องให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เร่งดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หากยังเพิกเฉยก็อาจจะเกิดการชุมนุมใหญ่และเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลขึ้น
3.เรียกร้องให้นายกษิต ภิรมย์ ลาออกจากตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ หรือไม่นายอภิสิทธิ์จะต้องปลดนายกษิตก่อนที่จะมีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เพราะนปช.ไม่ยอมรับอาชญากรก่อการร้ายสากลยึดสนามบินเป็นตัวแทนของประเทศ
สำหรับยุทธวิธีจะแบ่งเป็น 2 ระยะคือ ภารกิจเฉพาะหน้าจะเป็นการชุมนุมยืดเยื้อกระจายในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงการเคลื่อนไหวชุมนุมขนาดใหญ่ ส่วนระยะยาวคือการจัดตั้งให้ความรู้มวลชน ยกระดับความคิดต่อต้านเผด็จการและปกป้องประชาธิปไตย
นายวิภูมิแถลง ยังกล่าวปฏิเสธว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.ว่า ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีการพิจารณาถอดยศตำรวจของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ตนก็ขอตั้งคำถามถึงความเสมอภาคในการบังคับใช้กฎหมายว่าเป็นไปอย่างเท่าเทียมกันหรือไม่ เพราะหลายกรณีที่เจ้าหน้าตำรวจมีความผิด เช่นกรณีพล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ที่ถูกจำคุกแล้วแต่ก็ยังไม่มีการถอดยศ หรือแม้แต่จอมพลถนอม กิตติขจร พ ล.อ.ประภาส จารุเสถียร ก็ไม่ได้ถูกถอดยศ แต่กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ทำไมถึงเลือกปฏิบัติ พวกตนไม่ได้ต้องการปกป้องพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ต้องการเห็นกฎหมายถูกบังคับใช้อย่างเท่าเทียมกันทุกคน
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำ นปช.กรุงเทพฯ กล่าวว่า กลุ่มนปช.ไม่ประสงค์จะขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน แต่ไม่ยอมรับที่จะให้นายกษิตและรัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งมีส่วนสนับสนุนให้เกิดการรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 และส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เข้ายึดสนามบินดอนเมืองและสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิสร้างความเสียหายให้ประเทศไทยและประเทศอาเซียนเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม โดยต้นเดือนก.พ.นี้ นปช.จะทำหนังสือซึ่งเนื้อหาระบุถึงที่มาและสาระดังกล่าว ถึงสถานทูต 10 ประเทศที่เป็นสมาชิกอาเซียนเพื่อให้ได้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมประชุมหรือไม่ อีกทั้งในวันประชุม จะมีสมาชิก นปช.บางส่วนใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญไปยืนถือป้ายข้อความต้อนรับผู้นำประเทศอาเซียนที่สนามบิน แต่กลุ่ม นปช.จะไม่ชุมนุมยึดสนามบินและสร้างความรุนแรงแน่นอน พร้อมเชื่อว่าจะสามารถควบคุมมวลชนไม่ให้เกิดความวุ่นวายได้เพราะเป็นเพียงการเดินทางไปของคนกลุ่มเล็กๆ
นายสมยศ กล่าวว่า นอกจากนี้ นปช.จะจัดเวที คู่ขนานตลอดระยะเวลาการประชุม ซึ่งจะแจ้งสถานที่ให้ทราบภายหลัง อาจจะเป็นที่ กทม. แต่จะไม่จัดที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพราะไม่ต้องการตกหลุมพรางพรรคประชาธิปัตย์ที่เลือกอ.หัวหิน เป็นสถานที่จัดประชุม แต่หากรัฐบาลรับข้อเสนอปลดนายกษิต ก็อาจจะยุติการชุมนุม ส่วนการปาไข่นั้นถือเป็นการสื่อความหมายของประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลและจะทำจนกว่ารัฐบาลจะเอาผิดกับกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งนปช.จะให้ความช่วยเหลือกับชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดีต่อไป เพราะเมื่อเทียบกับไม้กอล์ฟ ไม้เบสบอล ที่กลุ่มพันธมิตรฯใช้แล้ว ไม่ถือเป็นอาวุธ
ด้านนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดร กล่าวว่า การต่อสู้วันนี้ก้าวพ้นคำว่าพ.ต.ท.ทักษิณ มาแล้ว
พวกตนจะต่อสู้ในนามภาคประชาชน
จะยืนบนลำแข้งตัวเอง ไม่พึ่งพานักการเมืองอีกต่อไป ซึ่งขณะที่เฉพาะที่จ.อุดรธานี มีคนสมัครเป็นสมาชิกแล้วถึง 2 แสนคน และมีกองทุนที่ได้จากการลงขันของสมาชิกจำนวน 320,000 บาท ซึ่งจะนำไปใช้เป็นทุนในการเริ่มขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนนับจากนี้ไปเพื่อปกป้องประชาธิปไตยและประเทศชาติและการผนึกกำลังกันครั้งนี้จะทำให้การ เคลื่อนไหวมีพลังมากขึ้น อย่างไรก็ตามปฏิเสธว่าการออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทุกกรณีเช่นการถอดยศตำรวจ แต่ที่ผ่านมาพวกตนถูกทำให้เป็นผู้ร้ายผ่านการเสนอข่าวของสื่อมวลชน
ขณะที่นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช.กรุงเทพฯ กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเอาผิดกับกลุ่มพันธมิตรฯ ภายใน 1 เดือน ไม่ควรเตะถ่วงด้วยการตั้งคณะกรรมการใดๆ ขึ้นมาสอบสวนอีก เพราะความผิดปรากฎหลักฐาน พยานชัดเจน ซึ่งหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินการได้ทันทีอยู่แล้ว นอกจากนี้ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ ออกมาแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ด้วยการตอบคำถามว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ถูกต้องหรือไม่ ถ้าเห็นว่าเป็นความผิดก็ต้องถูกลงโทษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าว กลุ่มนปช.ได้ให้คนเสื้อแดงที่มาร่วมรับฟังการแถลง เป็นตัวแทนสาธิตการปาไข่ โดยนำไข่ที่แปะรูปใบหน้านายอภิสิทธิ์ และสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาขว้างปาใส่รูปภาพใบหน้าของนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ที่ติดไว้บนบอร์ด โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงตะโกนโห่แสดงความสะใจเสียงดังลั่นห้องแถลงข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น