ชาวดิน ออนเน็ต

***อนิจา วาสนา ไพร่***

เรียกร้องเถอะ ร่ำหา กันให้ตาย
เคยบ้างไหม เคยได้ สิ่งที่หวัง
กราบแทบเท้า ติดดิน ร้องเสียงดัง
มีสักครั้ง บ้างไหม ใครเมตตา

สิ่งที่ขอ รอมา กี่ชาติแล้ว
ไร้วี่แวว สิทธิ ที่ใฝ่หา
เป็นแค่ไพร่ เขาชี้ เป็นอีกา
อย่าได้มา ร่วมหงส์ ดงผู้ดี
ร้องขอมา กี่ปี กี่ชาติแล้ว
ก็ไม่แคล้ว โดนด่า ฆ่าทุบตี
จากปู่ย่า มาถึง ทุกวันนี้
ถูกย่ำยี ไล่บี้ ให้จำนน
ตายแล้วสิบ เกิดใหม่ ได้เป็นแสน
แต่ขาแขน ถูกตรึง ด้วยเล่ห์กล
แล้วเมื่อไหร่ สิ่งนี้ จะหลุดพ้น
รับกฏโจร กฏหมาย ไร้ปราณี
อนิจา วาสนา ชะตาไพร่
ถูกใส่ร้าย กล่าวหา ว่าบัดสี
ทั้งหมอบกราบ ก้มไหว้ อย่างภักดี
แพ้วจี คนโฉด โป้ปดลวง
คงถึงครา แล้วหนา บรรดาไพร่
แม้ร่ำไห้ ร้องขอ ก็ช้ำทรวง
เขาไม่แล พวกเรา ไพร่ทั้งปวง
ต้องวัดดวง ทวงค่า ความเป็นคน


โดย ยรรยง ลูกชาวดิน

7 / มีนาคม / 2553
........


วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 05, 2552

เพื่อไทยหวาน ส.ส.จุลพันธ์ หมั้นน้องยิ้ม ส.ส.วิสาระดี

ข่าวโดย : thairath.co.th



เพื่อไทยหวานยามศึก สองทายาทแกนนำประกาศหมั้น หลังบ่มรักสุขงอม ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่ยังไม่คลี่คลาย ...

กำลังอบอวลไปด้วยความรักจริง ๆ สองทายาท ส.ส.เพื่อไทย "วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์" และ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เพราะหลังจากบ่มความรักมาสองปี ก็ได้ฤกษ์หมั้นหมายกันที่ โรงแรมคอนราด โดยจะมี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในเวลา 09.00 น. วันนี้ เพราะจะไม่หวานได้อย่างไร เมื่อลองโทรศัพท์ไปขอสัมภาษณ์ด้านของฝ่ายชาย พบว่าใช้เสียงรอสายเป็นเพลง " หยุด " ของ วงกรู๊ฟไรเดอร์ ที่มีท่อนฮุค ที่แสดงถึงความรู้สึกภายในหัวใจในขณะนี้ได้เป็นอย่างดีว่า " หยุด หยุด ความรัก หยุดอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าใครจะดีสักแค่ไหน หยุด หยุด ความรักทั้งหัวใจ " ด้านฝ่ายหญิง ก็ไม่ได้น้อยหน้าเลือกใช้เพลง สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าหัวใจของวง ETC. " ก็มันเป็นรัก ที่เกิดจากความใกล้ชิด จากสิ่งที่มีชีวิตที่เรียกว่าหัวใจ " ที่บ่งบอกถึงที่ไปที่มาของความรักที่สุกงอมของทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี

โดย วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์" หรือ "ยิ้ม" สาวเชียงราย ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนซึ่งเป็นทายาทคนเดียวของ "วิสาร เตชะธีราวัฒน์" อดีต ส.ส.เชียงราย 9 สมัย ที่ถูกตัดสิทธิ์การเมือง และเข้าสังกัดบ้านเลขที่ 111 ไปพร้อมๆ กับคำพิพากษายุบพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับไทยรัฐออนไลน์ ถึงที่ไปที่มาของความรักร่วมค่ายในครั้งนี้ว่า ปฐมบทแห่งความรักในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงที่ " ยิ้ม " กำลังจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ในสังกัดพรรคพลังประชาชน เมื่อปี 2550 ซึ่งในช่วงนั้นจะต้องบินไปเมืองแมนเชสเตอร์ ใน ประเทศอังกฤษร่วมกับบรรดาผู้สมัครคนอื่น ๆ เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดูตัวในขั้นสุดท้าย ว่าจะมีความเหมาะสมในการลงสู้ศึกเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชาชนหรือไม่ ซึ่งทริปการเดินทางนี้เอง ที่ทำให้ว่าที่เจ้าสาว ได้มีโอกาสรู้จักกับว่าที่เจ้าบ่าวสุดหล่อนักเรียนนอก นามว่า จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ บุตรชายคนเล็กของ "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และกระทรวงการต่างประเทศ

ซึ่งความน่ารักขี้เล่นบวกทะเล้นนิดหน่อย สมชื่อ " ยิ้ม " ของสาวน้อยนี่เอง ได้ทำให้ชายหนุ่ม เกิดความสนใจ โดยที่ทางเจ้าตัวไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อนเลย เพราะด้วยความที่ ทายาทคนเล็กของตระกูลอมรวิวัฒน์ เป็นคนไม่ค่อยพูด และในการสนทนาแต่ละครั้งมักจะเต็มไปด้วยความจริงจังหนักแน่น และหนักไปในทางแนะนำเรื่องงานโดยเฉพาะการแนะแนวทางในการหาเสียง ที่ทั้งสองคนลงสู้ศึกในนามพรรคพลังประชาชน ในคราวนั้น เป็นส่วนใหญ่ ทำให้สาวน้อยของเรา ไม่ได้รู้สึกเอะใจเลยว่า ชายหนุ่มที่มักจะใช้โทรศัพท์เป็นสื่อรักเพียรโทรมาถามถึงสารทุกข์สุกดิบและให้คำแนะนำในฐานะรุ่นพี่ เช่น " เป็นอย่างไรบ้าง" " หาเสียงตื่นเต้นไหม" " ไหวไหม " " มีอะไรให้ช่วยไหม"" พูดปราศัยเป็นอย่างไร " นั้น จะคิดอะไรเกินไปกว่าความรู้สึกพี่น้อง โดย " ยิ้ม " ยอมรับว่าในครั้งแรก ๆ นั้น ตนเองไม่ได้คิดเลยว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการเริ่มต้นของการเริ่มขอผูกสัมพันธ์ เพราะด้วยความที่ อายุห่างกันถึง 6 ปี ถึงขั้นที่ตอนบิดาแนะนำให้รู้จักหนุ่มจุลพันธ์ ในครั้งแรกที่รู้จักกันนั้น ตนเองเกือบจะหลุดเรียกคุณอา ซะด้วยซ้ำ เพราะในเวลานั้น ว่าที่เจ้าบ่าวของเรา เป็น ส.ส.มาแล้วถึงสามสมัย อีกทั้งบุคคลิกที่เป็นผู้ใหญ่เกินตัวและจริงจังในการทำงานตลอดเวลา นั่นเอง

แล้วรู้ได้อย่างไรว่าชายหนุ่มของเรา เริ่มมีใจ ?

นางเอก ของเรา กล่าวว่า ตนเองเริ่มจะเก็ต ก็ตอนที่ หนุ่มรูปหล่อ มอบดอกไม้แทนใจแสดงความยินดีหลังจากได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้ง ซึ่งในวันนั้นหนุ่มจุลพันธ์ ถึงกับขับรถจาก จ.เชียงใหม่ ด้วยตนเอง เพื่อมาร่วมลุ้นนับคะแนนและฉลองชัยชนะกับตนเองที่บ้านใน จ.เชียงราย แต่ในครั้งนั้นตนเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ จนเมื่อถูกคุณพ่อแซวว่า " พี่เค้าก็นิสัยดีนะ แล้วที่สำคัญยังไม่มีแฟนนะ " รวมทั้งการทำตัวเป็นสารถีขับรถจากบ้านแถวพระราม 3 มารับตนเองที่บ้านที่ดอนเมือง เพื่อไปทำงานที่รัฐสภา รวมทั้งเริ่มออกปากชวนไปดูหนังทานอาหารด้วยกันทุกวัน นั่นแหล่ะจึงค่อย ๆ เริ่มซึมซับความรู้สึกดี ๆ ที่ฝ่ายชายมีให้ ที่ไม่ใช่แค่ความรู้สึกในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องในที่สุด

และประทับใจในส่วนไหนของ ทายาทตระกูลอมรวิวัฒน์ มากที่สุด ?

ประทับใจตรงความสม่ำเสมอจริงใจ เข้าตามตรอกออกตามประตู ไปมาหาสู่เข้าหาครอบครัว และที่สำคัญสามารถเป็นที่ปรึกษาได้ในทุก ๆ เรื่อง และที่สำคัญคือความเสมอต้นเสมอปลาย ที่ทุกวันนี้ หนุ่มจุลพันธ์ ยังคงทำตัวเหมือนในวันแรกที่รู้จักกันไม่เคยเปลี่ยนแปลง

และอีกเรื่องที่ขำ ๆ ในเชิงของความประทับใจก็คือ การที่พระเอกของเรา มีใบหน้าคล้ายคุณพ่อ วิสาร เตชะธีราวัฒน์ เอามาก ๆ จนใคร มักจะแซวเอาว่า เลือกแฟนมาดีเน้อหน้าเหมือนพ่อเลย

อ้าวแล้วพระเอกของเรา เคร่งขรึม เอาจริงเอาจังซะขนาดนั้น ตอนมาจีบครั้งแรกทำอย่างไร ?

ก็ใช้วิธีการแบบตรงไปตรงมา ตามสไตล์ของพี่เค้า (มาถึงตอนนี้ ว่าที่เจ้าสาวของเราก็อดหัวเราะไม่ได้) ก็บอกตรง ๆ อย่างเป็นทางการเลยว่า มาถึงตอนนี้ก็รู้แล้วใช่ไหม ว่าเค้ามาทำไม เค้ามาหาทำไม จะรู้บ้างไหม มานี่ก็มีเป้าหมายนะ (สมเป็นนักการเมืองจริง ๆ มีเป้าหมายด้วย)

แต่ดูเหมือนเป็นคนไม่ค่อยโรแมนติกแบบนี้ พอถึงคราวที่พระเอกของเราจะทำอะไรให้กับคนที่รัก ในช่วงที่สำคัญที่สุดที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำให้ได้เพื่อคนที่รัก โดยเฉพาะตอนขอแต่งงานนั้น ก็เล่นเอาสาว " ยิ้ม " ถึงกับอึ้งชนิดคาดไม่ถึงทีเดียว เพราะหลังจากที่เพียรพยายามพาหนุ่มจุลพันธ์ ไปทัวร์ดูหนังโรแมนติก ไม่ว่าจะเป็นทั้งไทย ฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่น มาหลายเรื่อง ( โดยมีเป้าหมายชี้นำให้ฝ่ายชายศึกษาวิธีการโรแมนติกที่ชายหนุ่มทำให้กับหญิงสาว ) ในที่สุดเมื่อวันวาเลนไทน์ ปีที่ผ่านมา ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังนั่งทานอาหารตามปรกติ ที่ร้าน fifty five ที่ห้างเซ็นทรัล เวิร์ด จู่ ๆ ก็มีบริกรเข็นเค้ก ที่เขียนหน้าด้วยข้อความ will you marry me โดยมีแหวนแต่งงานซ่อนอยู่ในเค้ก เข็นมาถึงที่โต๊ะ พอหันไปก็เห็นรอยยิ้มกรุ่มกริ่มของฝ่ายชายหันมาพอดี ซึ่ง " คุณยิ้ม " ของเรา ยอมรับว่า เป็นเซอร์ไพรซ์ที่ตัวเองไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า หนุ่มจุลพันธ์ จะทำได้ ซึ่งตนเองจะขอเก็บความทรงจำดี ๆ นี้ไว้ เล่าให้กับ ทายาทได้ฟังต่อไปในอนาคต แน่นอน

และอีกเรื่องที่ตนเองรู้สึกประทับใจในความโรแมนติกของฝ่ายชายก็คือ การที่มักจะเพียรซื้อดอกไม้มามอบให้ เพื่อแสดงถึงความรักที่อยู่ในจิตใจเพื่อแทนคำพูดว่ารักและคิดถึง มามอบให้เสมอ โดยไม่จำเป็นต้องไปยึดติดกับเทศกาลต่าง ๆ ที่ชายหญิงมักจะมอบให้กันแต่อย่างใด

แล้วมีของชิ้นไหนที่ว่าที่เจ้าบ่าวซื้อให้แล้วประทับใจมากที่สุด ?

เจ้าของม็อตโต้ "ขออาสาฮับใจ้แตนป้อ" (ขออาสารับใช้แทนพ่อ) หัวเราะก่อนตอบว่า พี่เค้าจะห่วงเรื่องสุขภาพของยิ้มมาก เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจซื้ออะไร ก็มักจะเน้นไปในเรื่องสุขภาพของยิ้มเป็นอันดับแรก ดูได้จากตอนที่ไปเมืองจีน คนอื่น เค้าจะซื้อของฝากจำพวกน้ำหอม เครื่องประดับกัน ปรากฎ คุณจุลพันธ์ กลับซื้อบัวหิมะ 6 ชุด ให้เป็นของฝากทั้งตนเอง และ คนในครอบครัว แทน

แล้วส่วนไหนในตัว หนุ่มจุลพันธ์ ที่ประทับใจมากที่สุด ?

"สาวยิ้ม"กล่าวว่า ประทับใจตรงที่เป็นคนเก่ง สามารถให้คำปรึกษาได้หลาย ๆ ด้าน และแม้การพูดจาแม้แต่กระทั่งจะพูดเล่นกันธรรมดาก็มักจะออกแนววิชาการที่เต็มไปด้วยสาระ แต่ก็เป็นสาระที่พร้อมที่จะมอบให้กับตนเองเพื่อคอยเตือนสติในเรื่อง ต่าง ๆ อยู่เสมอ ๆ ซึ่งในจุดนี้ กลับกลายเป็นการแชร์ข้อมูล ระหว่างกันสำหรับนำไปใช้ในการทำงานด้านการเมืองของทั้งคู่ไปโดยไม่รู้ตัว เพราะมุมมองในฐานะคนรุ่นใหม่ของตนเองเมื่อนำไปแลกเปลี่ยนกับความเห็นที่เป็นผู้ใหญ่กว่ากลับกลายเป็น มุมมองที่เมื่อแชร์กันแล้ว ลงตัวมาก

ส่วนการวางแผนครอบครัว หลังการแต่งงาน ที่น่าจะเกิดขึ้นหลังงานหมั้นในเร็ว ๆ นี้ นั้น

ส.ส.วิสาระดี กล่าวว่า สำหรับตนเอง คงอยากจะมีทายาทเลย เพราะตนเองเป็นลูกคนเดียว จึงอยากจะมีหลานให้ทั้งคุณปู่คุณย่า ได้ชื่นชมเพราะทั้งสองท่านต่างก็รักเด็กและอยากอุ้มหลานตัวน้อยมาก

........................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก