ชาวดิน ออนเน็ต

***อนิจา วาสนา ไพร่***

เรียกร้องเถอะ ร่ำหา กันให้ตาย
เคยบ้างไหม เคยได้ สิ่งที่หวัง
กราบแทบเท้า ติดดิน ร้องเสียงดัง
มีสักครั้ง บ้างไหม ใครเมตตา

สิ่งที่ขอ รอมา กี่ชาติแล้ว
ไร้วี่แวว สิทธิ ที่ใฝ่หา
เป็นแค่ไพร่ เขาชี้ เป็นอีกา
อย่าได้มา ร่วมหงส์ ดงผู้ดี
ร้องขอมา กี่ปี กี่ชาติแล้ว
ก็ไม่แคล้ว โดนด่า ฆ่าทุบตี
จากปู่ย่า มาถึง ทุกวันนี้
ถูกย่ำยี ไล่บี้ ให้จำนน
ตายแล้วสิบ เกิดใหม่ ได้เป็นแสน
แต่ขาแขน ถูกตรึง ด้วยเล่ห์กล
แล้วเมื่อไหร่ สิ่งนี้ จะหลุดพ้น
รับกฏโจร กฏหมาย ไร้ปราณี
อนิจา วาสนา ชะตาไพร่
ถูกใส่ร้าย กล่าวหา ว่าบัดสี
ทั้งหมอบกราบ ก้มไหว้ อย่างภักดี
แพ้วจี คนโฉด โป้ปดลวง
คงถึงครา แล้วหนา บรรดาไพร่
แม้ร่ำไห้ ร้องขอ ก็ช้ำทรวง
เขาไม่แล พวกเรา ไพร่ทั้งปวง
ต้องวัดดวง ทวงค่า ความเป็นคน


โดย ยรรยง ลูกชาวดิน

7 / มีนาคม / 2553
........


วันอาทิตย์, มิถุนายน 28, 2552

สำเนียงส่อภาษา....?

หลังจากผมได้อ่านบทความนี้ ทำให้ผมคิดถึงคนๆหนึ่งที่ชื่อ กษิต ภิรมย์ หลังจากที่ได้ยินคำพูดและกิริยา ที่ชอบพูดให้ร้ายท้าทายท้าตีท้าต่อย หลายต่อหลายครั้ง

..สำเนียงส่อภาษา....?












ที่มาบทความ hหน้าแรก MSNttp://news.impaqmsn.com/articles_hn.aspx?id=270144&ch=hn


เห็นต่างชาติเขายกยอปอปั้นคนไทยแล้ว ผมก็อดอยากร่วมภูมิใจด้วยไม่ได้ (ก็เป็นคนไทยเหมือนกันนี่ครับ) แต่เสียดายคนที่มีความรู้ความสามารถ กลับต้องไปทำงานสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรระดับโลก ทั้งที่ด้วยศักยภาพและความสามารถน่าจะอยู่ช่วยพัฒนาบ้านเมืองของเราได้อย่างสบาย ๆ

แต่บุคคลที่ผมจะเขียนถึงวันนี้ไม่ได้ชื่อ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” นะครับ เพราะแม้ว่าท่านจะเคยดำรงตำแหน่งเป็นถึงนายกรัฐมนตรีมา 2 สมัย แต่ด้วยรูปแบบหรือวิธีการที่ใช้บริหารประเทศในช่วงที่ผ่านมาจนนำมาสู่ข้อสงสัยหรือปัญหาหลายประการ แถมท่าน ยังตกเป็นผู้ต้องหาหนีคดี ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผมคิดว่าท่านยังไม่คู่ควรกับการให้คนไทยส่วนใหญ่ยกย่องหรือชื่นชม

แต่หลายคนก็อยากให้อดีตนายกฯ 2 สมัยเดินทางกลับมาบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อมารับโทษตามความผิดที่ตนเองได้ก่อไว้ หลังจากนั้นจะมารับใช้บ้านเมืองในสถานะอะไรคงไม่มีใครว่าท่านหรอกครับ

เอาล่ะครับมาว่ากันต่อถึงคนไทยซึ่งต่างชาติให้การยกย่อง ไม่ใช่ใครอื่น ท่านชื่อ “ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์” อดีตรองนายกรัฐมนตรี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ทางโฆษกของ นายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ออกมาบอกกับสื่อมวลชนว่า “ท่านเลขาธิการทั่วไป ได้แจ้งกับสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ถึงความประสงค์ของเขาที่จะยืนยันให้ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติ ว่าด้วยการค้าและการพัฒนาหรืออังค์ถัด ต่อไปอีกสมัย ที่มีระยะเวลา 4 ปี โดยจะเริ่มในวันที่ 1 ก.ย. 52 นี้”

วาระการดำรงตำแหน่งเลขาธิการอังค์ถัดของนายศุภชัยจะหมดลงในวันที่ 31 ส.ค. ปีนี้ครับ

ผมเชื่อได้เลยว่า ทุกหน่วยงานทั้งระดับโลกหรือไม่ก็ระดับประเทศ (ยกเว้นตำแหน่ง รมต.ในบ้านเรา) ถ้าหากมีการประเมินการทำงานของบุคลากรในหน่วยงานโดยไม่มีแรงกดดัน ยึดตามข้อเท็จจริงหรือผลงานที่ปรากฏ ถ้ามีบทสรุปว่าทำงานไม่ดี รับรองได้ว่าไม่มีทางได้ต่ออายุหรือสามารถทำงานต่อไปได้หรอกครับ ยิ่งตำแหน่งสำคัญระดับ “เลขาธิการอังค์ถัด” ดังนั้นการที่คนไทยได้รับการสนับสนุนให้ทำงานต่อไปอีก 4 ปี แสดงว่าต้องมีฝีมือและได้รับการยอมรับ

แวบหนึ่งผมเสียใจ เพราะแทนที่บ้านเราน่าจะได้คนดีมีความรู้เข้ามาช่วยบริหารประเทศ แต่อีกมุมหนึ่งก็อดคิดไม่ได้ว่า คงมีข้อจำกัดหลายอย่าง หรืออาจมีปัจจัยบางอย่างมีส่วน ทำลายคน ดีมีความรู้ความสามารถ คนไทยบางคนจึงไม่อยากทำงานรับใช้ประเทศชาติ แต่ไม่ใช่ทำผิดกฎหมายแล้วไม่ยอมรับผิดนะครับ อย่างนั้นเรียกว่าเป็นพวกเอาเปรียบคนอื่น

เขียนถึงเรื่องคนดีมีความสามารถ บังเอิญผมได้รับข้อมูลให้ช่วยส่งผ่านไปถึงนายกรัฐมนตรี ผู้ร้องเขาระบุว่า มีข้าราชการระดับสูงของหน่วยงานรัฐท่านหนึ่ง เวลาทำงานกับผู้ใต้บังคับบัญชาแสดงอากัปกิริยาขัดกับคุณสมบัติผู้ดี ไม่ว่าจะเป็นคำพูดถึงขั้นเรียก “มึง-กู” หรือถ้าหากใครทำงานไม่ถูกใจใครก็ใช้แฟ้มเก็บงานไล่ขว้างไล่ปา

จนข้าราชการทยอยลาออกไปหลายคน หรือไม่ก็ต้องขอย้ายไปทำงานในหน่วยงานอื่น ทนรองรับอารมณ์ของเจ้านายไม่ไหว เล่ามาถึงตรงนี้ผมก็เลยถามว่า แล้วทำไมรัฐมนตรีถึงไม่ยอมจัดการหรือว่ากล่าวตักเตือน

ได้รับคำตอบง่าย ๆ สั้น ๆ ไม่ต้องแปลความหมายว่า “บิ๊กท่านนี้ช่วยผันงบประมาณลงในพื้นที่ของผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองบางคน” ผมจึงถึงบางอ้อ และไม่แปลกใจว่า ทำไมถึงกล้าแสดงพฤติกรรมที่คนส่วนใหญ่ยอมรับไม่ได้.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก