ชาวดิน ออนเน็ต

***อนิจา วาสนา ไพร่***

เรียกร้องเถอะ ร่ำหา กันให้ตาย
เคยบ้างไหม เคยได้ สิ่งที่หวัง
กราบแทบเท้า ติดดิน ร้องเสียงดัง
มีสักครั้ง บ้างไหม ใครเมตตา

สิ่งที่ขอ รอมา กี่ชาติแล้ว
ไร้วี่แวว สิทธิ ที่ใฝ่หา
เป็นแค่ไพร่ เขาชี้ เป็นอีกา
อย่าได้มา ร่วมหงส์ ดงผู้ดี
ร้องขอมา กี่ปี กี่ชาติแล้ว
ก็ไม่แคล้ว โดนด่า ฆ่าทุบตี
จากปู่ย่า มาถึง ทุกวันนี้
ถูกย่ำยี ไล่บี้ ให้จำนน
ตายแล้วสิบ เกิดใหม่ ได้เป็นแสน
แต่ขาแขน ถูกตรึง ด้วยเล่ห์กล
แล้วเมื่อไหร่ สิ่งนี้ จะหลุดพ้น
รับกฏโจร กฏหมาย ไร้ปราณี
อนิจา วาสนา ชะตาไพร่
ถูกใส่ร้าย กล่าวหา ว่าบัดสี
ทั้งหมอบกราบ ก้มไหว้ อย่างภักดี
แพ้วจี คนโฉด โป้ปดลวง
คงถึงครา แล้วหนา บรรดาไพร่
แม้ร่ำไห้ ร้องขอ ก็ช้ำทรวง
เขาไม่แล พวกเรา ไพร่ทั้งปวง
ต้องวัดดวง ทวงค่า ความเป็นคน


โดย ยรรยง ลูกชาวดิน

7 / มีนาคม / 2553
........


วันเสาร์, กันยายน 05, 2552

คลิปเสียงมาร์ค..กองพิศูจน์หลักฐานยืนยันว่าตัดต่อแค่ไม่ถึง 10 จุด




พท.อ้างอนุฯสอบเชื่อมาร์คสั่งการ


นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พท. คณะกรรมการตรวจสอบการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 เมษายน แถลงภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการรวบรวมเหตุการณ์ที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ที่มีนายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธาน กรณีผลการตรวจสอบคลิปเสียงของนายกฯ ที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจสอบด้วยเครื่องระบบออร่าซิตี้พบว่า มีการตัดต่อคลิปเสียงและพบจุดตัดต่อถึง 62 จุด แต่ทางคณะกรรมการได้รับการชี้แจงข้อมูลจาก พ.ต.ท.วิวัฒน์ สิทธิสรเดช นักวิทยาศาสตร์ (สบ 3) กลุ่มงานตรวจสอบทางเคมี ฟิสิกส์ และชีววิทยา กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบพบว่ามีจุดตัดต่อ 3 จุด และยังมีจุดที่ยังไม่แน่ชัดอีก 7 จุด โดยรวมแล้วไม่เกิน 10 จุด โดยจุดที่มีการตัดต่อบางช่วงนั้นไม่ได้ทำให้สาระสำคัญผิดไป และเมื่อนำคลื่นเสียงของนายกฯที่พูดในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ เมื่อวันที่ 26 เมษายน ตามที่นายกรัฐมนตรีชี้แจงในสภามาเปรียบเทียบกับคลื่นเสียงของคลิปเสียงดังกล่าวเห็นได้ชัดว่าคลื่นเสียงมีขนาดไม่เท่ากัน หมายความว่าคลิปเสียงดังกล่าวไม่ได้มีการตัดต่อมาจากรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯ ทางคณะกรรมการการตรวจสอบเชื่อว่านายอภิสิทธิ์มีการสั่งการจริงตามคลิปเสียงดังกล่าว โดยทางคณะกรรมการจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 10 กันยายนนี้เพื่อเชิญนายกฯเข้าชี้แจง

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1252075959&grpid=00&catid=00

ป ล า ห ม อ ต า ย เ พ ร า ะ ป า ก ม า ร์ ค ต า ย เ พ ร า ะ เ สี ย ง

อภิสิทธิ์ฉาวที่ประชาชนได้ฟังแล้วมีความตื่นตระหนกแต่ก็มีความกระจ่างชัดถึงเหตุการณ์สงกรานต์เลือด 12 – 14 เมษายน 2552 ถ้าใครได้ฟังคลิปนั้นก็จะรู้ชัดว่า


1. เป็นเสียงนายกฯ อภิสิทธิ์จริงไม่ใช่เสียงปลอม ส่วนใครจะแก้ตัวแทนว่าเป็นเสียงปลอม ส่วนใครจะแก้ตัวแทนว่าเป็นเสียงปลอม ต่อให้อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อและจะไม่มีใครมาบังคับให้คนที่มีสมองต้องเชื่อตามได้

2. คลิปเสียงนี้มีการตัดต่อจริงแต่เป็นการตัดต่อเป็นประโยค เพราะจากการเข้าเครื่องตรวจสอบซึ่งเป็นเครื่องที่วัดระดับโทนเสียงก็จะพบว่ามีหลายประโยคที่มีความสมบูรณ์แบบจนเข้าข่ายความผิดอาญาแล้ว โดยไม่ได้มีการตัดต่อโดยเฉพาะประโยคตอนท้ายซึ่งก็เข้าข่ายความผิดแล้ว

3. คลิปเสียงทุกอันถ้าต้องการให้ผู้ฟังฟังเฉพาะใจความสำคัญก็จำเป็นต้องมีการตัดต่อทั้งสิ้น ผู้เขียนวิเคราะห์ว่าการตัดต่อดังกล่าวมีเบื้องหลัง แล้วแต่ว่าฝ่ายใดจะคิด ถ้าเป็นฝ่ายที่สนับสนุนนายกฯ อภิสิทธิ์ก็จะคิดไปว่าเป็นฝีมือของกลุ่มเสื้อแดง ถ้าเป็นฝ่ายกลุ่มเสื้อแดงก็วิเคราะห์ว่าคลิปเสียงนี้ออกมาโดยผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้าย มุ่งทำลายนายกฯ อภิสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว โดยตัดเสียงผู้อื่นที่รวมประชุมด้วยออก ซึ่งน่าสังเกตว่าจะต้องมีคนในกลุ่มนั้นทะเลาะกันจนแตกหัก จึงนำคลิปเสียงนั้นออกมาเผยแพร่ ขอเตือนนายกฯ อภิสิทธิ์ให้ท่านเป็นนายกฯ และท่านกลับฟัดเขาก่อนจนจมเขี้ยว ก็เป็นธรรมดาที่คุณจะต้องเจ็บบ้าง โดยผู้ปล่อยคลิปนี้มีศักยภาพและสติปัญญาลึกซึ้งมาก ปล่อยหมัดเด็ด ชกหน้าตรงและถูกกาลเวลาที่คนเสื้อแดงจะเตรียมการเคลื่อนไหวไล่อภิสิทธิ์ ในวันที่ 30 สิงหาคม 2552 ก็จะมีเหตุผลที่จะใส่ร้าย่วาคนเสื้อแดงทำ ที่สุดแล้วผู้ปล่อยคลิปเสียงนี้จะนั่งบนภูดูเสือกัดกันอย่างสบายใจ

4. จากคำพูดในคลิปเสียงทั้งหมดเมื่อฟังแล้วให้ย้อนมาดูเหตุการณ์สงกรานต์เลือด ก็เป็นจริงตามที่คลิปนั้นกล่าวไว้ทุกประการ ก็ไม่รู้ว่าจะแปลว่าอย่างไรให้ไปคิดเอาเอง ว่าเสียงและการตัดต่อมันมีจริง แต่ผลของการกระทำก็จริงตรงกับข้อความในเสียงนั้น ?




ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ซ้ำ ร อ ย เ ส ม อ


เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2490 จอมพลผิน ชุณหะวัณ (ปู่ของนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัน) ร่วมกับจอมพล ป.พิบูลสงคราม ทำการัฐประหาร รัฐบาล พล.ร.ต.ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รน. ซึ่งมี ดร.ปรีดี พนมยงค์ เป็นผู้สนับสนุนรัฐบาลหลวงถวัลย์ฯ นี้อยู่ จอมพลผินได้ร่วมกับจอมพล ป. ทำการรัฐประหารขับไล่รัฐบาลหลวงถวัลย์ฯ ออกไป โดยกล่าวหาว่าทั้งสองท่านต้องรับผิดชอบต่อกรณี ร.8 สวรรคต แล้วให้นายควง อภัยวงศ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเพิ่งเริ่มตั้งพรรคมาได้ปีเศษ (สถาปนาเมื่อ 6 เมษายน 2489) เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อเป็นได้ประมาณ 6 เดือน ก็ถูกทหารกลุ่มเก่าที่ทำการรัฐประหารจี้ให้ลาออกและจอมพล ป. ก็ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทนได้ประมาณ 10 ปี

จอมพลสฤษดิ์ ปฏิวัติจอมพล ป. เมื่อ 16 กันยายน 2550 ก็ให้นายพจน์ สารสิน (บิดานายอาสา สารสิน ราชเลขาธิการสำนักพระราชวังปัจจุบัน) เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ได้ประมาณ 1 ปี จอมพลสฤษดิ์ก็มาทวงอำนาจคืนขึ้นเป็นนายกฯ แทน

คณะ รสช. นำโดยบิ๊กจ๊อด แต่คนสำคัญที่กุมอำนาจจริงในการปฏิวัติคือ พลเอกสุจินดา คราประยูร หัวหน้ากลุ่ม จปร.5 เมื่อทำการปฏิวัติพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ก็ให้นายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกฯ ขัดตาทัพอยู่ 1 ปี แล้ว พลเอกสุจินดา ชายชาติทหารที่ยอมตระบัดสัตย์เพื่อชาติก็ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีจนเกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬเมื่อปี 2535

ทั้งหมดนี้คือประวัติศาสตร์ที่สอนให้รู้ว่า เมื่อใดที่ทหารทำการรัฐประหารแล้ว ก็จะเชิดตัวแทนขึ้นมา 1 คน ให้เป็นนายกฯ ชั่วคราว แล้วที่สุดตัวทหารที่มีอำนาจจริง ก็ทนไม่ได้ก็จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีเสียเอง

เหตุการณ์ในช่วงนี้ก็คือประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเก่า แต่แทนที่จะอยู่ได้ครบปี กลับเหลือแค่ 8 เดือน ก็เพราะความไม่ประมาณตน เหลิงอำนาจ กัดเขาก่อน เพราะรู้ตัวดีว่าอีกไม่ถึงปีเขาก็คงจะปลดออก เกมนี้จึงเป็นการชิงอำนาจของกลุ่มอำมาตย์ แต่ต้องการป้ายสี หาแพะยัดข้อหาใส่กลุ่มเสื้อแดง

ที่วิเคราะห์มาทั้งหมดนี้ ก็เป็นมุมมองหนึ่งที่ต้องการให้คนไทยรู้ทันเล่ห์เพทุบายของกลุ่มอำมาตย์ที่เล่นเกมนี้มาตั้งแต่ปี 2490 และเล่นมากนี้ซ้ำซากเพราะเขาดูถูกสติปัญญาคนไทยว่าโง่รู้ไม่เท่าทันเขา แต่วันนี้เป็นโลก แต่วันนี้เป็นโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ยุคข้อมูลข่าวสาร, ยุคอินเตอร์เน็ต, เว็บไซต์ กลุ่มอำมาตย์คิดว่าสามารถบังคับคุมสื่อกระแสหลักได้ ก็สามารถลับ ลวง พราง ผู้คนได้ตลอดไปโดยคิดว่าคนไทยโง่เขลา...

.(ที่มาจากพันทิบ) คัดจากคอลัมภ์ ไทยรู้ทัน โดย ทองคำ
จาก นสพ. ความจริงวันนี้ ฉบับวันที่ 4 – 7 กันยายน 2552

......................................




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก