คอลัมน์ ชาวดิน ออนเน็ต
จากเรื่องราวที่กล่าวมาแม้นเพียงบางส่วนจากแหล่งข้อมูลที่บันทึกไว้ ณ วันนี้กับเหตุบ้านการเมืองในเมืองไทยและความแตกแยกแตกต่างทางความคิด เราก็สามารถจะมองเห็นว่า ต้นเหตุแห่งปัญหานั้น ทุกเรื่องมีความเกี่ยวพันกันมา ด้วยการสืบทอดสานต่อเจตนา เพียงแต่มีผลประโยชน์ที่เรียกว่า ความชอบธรรม เป็นข้ออ้าง แต่ใช่ว่าจะไม่ดี เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมานั้น ทำให้คน หลายกลุ่ม หลายอาชีพ หลายระดับทุกชนชั้น ได้แสดงตัวตน และ จริตทางสังคมออกมาให้เห็น เป็นเช่นไร
แต่คนที่ต่อสู้เรียกร้องอย่างจริงจัง ทุกวันนี้ คนเหล่านั้น ยังไม่เคยได้รับสิ่งที่เรียกร้องอย่างจริงจังจริงใจ เลยสักครั้งเดียว นอกจากสิ่งที่ได้รับมาตลอด คือ ความสูญเสีย ที่จบลงด้วย เสียงปืน กลิ่นคาวเลือด หยดน้ำตา ที่สะสมเพิ่มพูนความเจ็บปวดเคียดแค้นไว้ในใจตลอดมา ต้องยอมรับว่านี่คือความจริง จะเสแสร้งแสดงออกต่อกันอย่างไรก็หนีไม่พ้น
การเรียกร้องการต่อสู้ที่กำหนดต้นแบบไว้ด้วย ตัวบุคคล ที่เหลือเพียงแต่ ชื่อ คงเป็นไปอีกนาน การเปลี่ยนแปลง คงเกิดขึ้นยากมาก เพราะหากการเรียกร้องที่มีการพัฒนาแตกต่างไปจากที่เห็นนี้ (ที่มีแนวคิดนี้อยู่บ้างที่ผ่านมา) จะถูกมองและกล่าวหาว่า จาบจ้วง ดูหมิ่น มาทันที จากคนอีกฝ่ายที่คิดต่าง นั่นคือจุดที่ทำให้เกิดวาทะกรรมตอบโต้กันมากมายและเป็นที่มาของการอ้างความชอบธรรมในการใช้อำนาจัดการ โดย ไม่ได้มองถึงความเป็นจริง ว่า ความเดือดร้อน ที่คนในแผ่นดินนี้ได้รับนั้น ทุกข์ยากสาหัสเพียงใด แต่กับเลือกที่จะตัดสินแบบ ชี้นกเป็นไม้ ว่า คนส่วนไหน ระดับไหน ชนชั้นไหน ที่เดือดร้อนมากน้อยกว่ากัน สำคัญมากกว่ากัน
( ต่อให้คนไหน อมพระประธานมาพูดได้ แล้วโต้แย้งว่า ไม่จริงกับข้อกล่าวนี้ ผมไม่เชื่อหรอก เพราะถ้าไม่เลือกปฏิบัติจริง ประเทศนี้เจริญมากกว่านี้แน่นอน)
การแก้ปัญหาปลายเหตุด้วยการอ้าง ให้คนไทยสำนึกบุญคุณแผ่นดิน ต่างๆนาๆที่กำลังทำ ณ ปัจจุบันนี้ มิถุนายน 2553 ด้วยการหลอกลวง โปรโมทโฆษณา โชว์หน้าตา ดารา นักร้อง นักแสดง ที่ออกมาออดอ้อน ขอ ความสุข ความสามัคคี ความสงบสุข หยุดความรุนแรง... น่าสมเพชจริงๆครับ เพราะเหมือนว่าคนพวกนี้ พึ่งโผล่มาจากหลุม หรือไม่ก็เป็น พวกมนุษย์ไขลาน หรือ พวกที่ ถูกมนต์สกด ที่เขาสั่งบงการให้มาพูด มาร้อง มาแสดงออก อย่างไร ก็ทำ ว่าต้องการอะไร
เพราะที่ผ่านมาไม่รู้สึกรู้สา หรือรู้ถึงความต้องการ รับรู้ถึงความทุกข์ยากลำบาก ของคนที่ออกมาเรียกร้อง ขอความเป็นธรรมและบอกเล่าความทุกข์ ที่เขาได้รับผลกระทบกับสภาพความเป็นอยู่ในกฏกติกาบ้านเมืองในปัจจุบัน เคยเช้าใจและสนใจให้ความสำคัญกันบ้างไหม ว่าคนเหล่านั้นเขาต้องการอะไร และสามารถให้เขาได้ไหม ผลที่เขาได้รับคืออะไร บาดเจ็บ ล้มตาย สูญหาย ... แต่คนบ้ากลุ่มหนึ่งกับมาอ้างแต่ผลเสียผลกระทบกับการประกอบอาชีพต่างๆนาๆ อย่างชนิดที่ทุ่มทุนสร้างข่าวทุกชั่วโมง เพื่อหาความชอบธรรมให้ตัวเองและพวกพ้อง
โดยลืมมองว่าคนที่ออกมาเหล่านั้นเขาได้รับผลกระทบเดือดร้อนอะไรบ้างในการดำรงอยู่ภายใต้อำนาจดูแลของกลุ่มคน ที่เขาออกมาต่อต้าน และเรียกร้องขอ ... โอ้ย พระเจ้าถูกทอด ... ปรองดองมากๆ..!!
...แบบนี้ ประเทศไทย อยู่ในระบอบประชาธิปไตย จริงหรือ...??
โดย ยรรยง ลูกชาวดิน
26/มิถุนายน/2553
จากเรื่องราวที่กล่าวมาแม้นเพียงบางส่วนจากแหล่งข้อมูลที่บันทึกไว้ ณ วันนี้กับเหตุบ้านการเมืองในเมืองไทยและความแตกแยกแตกต่างทางความคิด เราก็สามารถจะมองเห็นว่า ต้นเหตุแห่งปัญหานั้น ทุกเรื่องมีความเกี่ยวพันกันมา ด้วยการสืบทอดสานต่อเจตนา เพียงแต่มีผลประโยชน์ที่เรียกว่า ความชอบธรรม เป็นข้ออ้าง แต่ใช่ว่าจะไม่ดี เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมานั้น ทำให้คน หลายกลุ่ม หลายอาชีพ หลายระดับทุกชนชั้น ได้แสดงตัวตน และ จริตทางสังคมออกมาให้เห็น เป็นเช่นไร
แต่คนที่ต่อสู้เรียกร้องอย่างจริงจัง ทุกวันนี้ คนเหล่านั้น ยังไม่เคยได้รับสิ่งที่เรียกร้องอย่างจริงจังจริงใจ เลยสักครั้งเดียว นอกจากสิ่งที่ได้รับมาตลอด คือ ความสูญเสีย ที่จบลงด้วย เสียงปืน กลิ่นคาวเลือด หยดน้ำตา ที่สะสมเพิ่มพูนความเจ็บปวดเคียดแค้นไว้ในใจตลอดมา ต้องยอมรับว่านี่คือความจริง จะเสแสร้งแสดงออกต่อกันอย่างไรก็หนีไม่พ้น
การเรียกร้องการต่อสู้ที่กำหนดต้นแบบไว้ด้วย ตัวบุคคล ที่เหลือเพียงแต่ ชื่อ คงเป็นไปอีกนาน การเปลี่ยนแปลง คงเกิดขึ้นยากมาก เพราะหากการเรียกร้องที่มีการพัฒนาแตกต่างไปจากที่เห็นนี้ (ที่มีแนวคิดนี้อยู่บ้างที่ผ่านมา) จะถูกมองและกล่าวหาว่า จาบจ้วง ดูหมิ่น มาทันที จากคนอีกฝ่ายที่คิดต่าง นั่นคือจุดที่ทำให้เกิดวาทะกรรมตอบโต้กันมากมายและเป็นที่มาของการอ้างความชอบธรรมในการใช้อำนาจัดการ โดย ไม่ได้มองถึงความเป็นจริง ว่า ความเดือดร้อน ที่คนในแผ่นดินนี้ได้รับนั้น ทุกข์ยากสาหัสเพียงใด แต่กับเลือกที่จะตัดสินแบบ ชี้นกเป็นไม้ ว่า คนส่วนไหน ระดับไหน ชนชั้นไหน ที่เดือดร้อนมากน้อยกว่ากัน สำคัญมากกว่ากัน
( ต่อให้คนไหน อมพระประธานมาพูดได้ แล้วโต้แย้งว่า ไม่จริงกับข้อกล่าวนี้ ผมไม่เชื่อหรอก เพราะถ้าไม่เลือกปฏิบัติจริง ประเทศนี้เจริญมากกว่านี้แน่นอน)
การแก้ปัญหาปลายเหตุด้วยการอ้าง ให้คนไทยสำนึกบุญคุณแผ่นดิน ต่างๆนาๆที่กำลังทำ ณ ปัจจุบันนี้ มิถุนายน 2553 ด้วยการหลอกลวง โปรโมทโฆษณา โชว์หน้าตา ดารา นักร้อง นักแสดง ที่ออกมาออดอ้อน ขอ ความสุข ความสามัคคี ความสงบสุข หยุดความรุนแรง... น่าสมเพชจริงๆครับ เพราะเหมือนว่าคนพวกนี้ พึ่งโผล่มาจากหลุม หรือไม่ก็เป็น พวกมนุษย์ไขลาน หรือ พวกที่ ถูกมนต์สกด ที่เขาสั่งบงการให้มาพูด มาร้อง มาแสดงออก อย่างไร ก็ทำ ว่าต้องการอะไร
เพราะที่ผ่านมาไม่รู้สึกรู้สา หรือรู้ถึงความต้องการ รับรู้ถึงความทุกข์ยากลำบาก ของคนที่ออกมาเรียกร้อง ขอความเป็นธรรมและบอกเล่าความทุกข์ ที่เขาได้รับผลกระทบกับสภาพความเป็นอยู่ในกฏกติกาบ้านเมืองในปัจจุบัน เคยเช้าใจและสนใจให้ความสำคัญกันบ้างไหม ว่าคนเหล่านั้นเขาต้องการอะไร และสามารถให้เขาได้ไหม ผลที่เขาได้รับคืออะไร บาดเจ็บ ล้มตาย สูญหาย ... แต่คนบ้ากลุ่มหนึ่งกับมาอ้างแต่ผลเสียผลกระทบกับการประกอบอาชีพต่างๆนาๆ อย่างชนิดที่ทุ่มทุนสร้างข่าวทุกชั่วโมง เพื่อหาความชอบธรรมให้ตัวเองและพวกพ้อง
โดยลืมมองว่าคนที่ออกมาเหล่านั้นเขาได้รับผลกระทบเดือดร้อนอะไรบ้างในการดำรงอยู่ภายใต้อำนาจดูแลของกลุ่มคน ที่เขาออกมาต่อต้าน และเรียกร้องขอ ... โอ้ย พระเจ้าถูกทอด ... ปรองดองมากๆ..!!
...แบบนี้ ประเทศไทย อยู่ในระบอบประชาธิปไตย จริงหรือ...??
โดย ยรรยง ลูกชาวดิน
26/มิถุนายน/2553
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น