เรื่องจากปกเวบไซต์ โลกวันนี้ ฉบับที่ 262 ปีที่ 6
9 มิถุนายน 2553
"ผมมองทุกอย่างด้วยความเป็นธรรมหลายวันที่ผ่านมาผมมองทหารอย่างมีสติมองทหารอย่างเข้าใจมองคนตายอย่างมีสติทุกคืนผมจุดธูปว่าอย่าให้ใครเสียชีวิตกันเลยในแต่ละวันที่มีคนปลุกระดม ว่าผมพาคนไปตายแล้วใครฆ่าตายล่ะพวกผมพามาแล้วให้พวกท่านฆ่าอย่างนั้นหรือการออกเฉพาะข่าวรัฐบาลด้านเดียวระวังจะเป็นเหมือนรวันดาวันนี้เช้ามาก็บอกว่าคนเสื้อแดงก่อการร้ายล้มสถาบันมี อาวุธร้ายแรงกลางวันก็ก่อการร้ายล้มสถาบันมีอาวุธร้ายแรงเย็นก็บอกก่อการร้ายล้มสถาบันมีอาวุธร้ายแรงในสมองของทหารถูกยัดเยียดทั้งที่คนที่มาชุมนุมเรียกร้องเขาเพียงแค่มาชุมนุมเพื่อยุบสภาขอหีบเลือกตั้ง แต่เขาก็ให้ ศพหีบ" “ผมมองทุกอย่างด้วยความเป็นธรรม หลายวันที่ผ่านมา ผมมองทหารอย่างมีสติ มองทหารอย่างเข้าใจ มองคนตายอย่างมีสติ ทุกคืนผมจุดธูปว่า อย่าให้ใครเสียชีวิตกันเลยในแต่ละวันที่มีคนปลุกระดมว่าผมพาคนไปตาย แล้วใครฆ่าตายล่ะ พวกผมพามาแล้วให้พวกท่านฆ่าอย่างนั้นหรือ การออกเฉพาะข่าวรัฐบาลด้านเดียว ระวังจะเป็นเหมือนรวันดา วันนี้เช้ามาก็บอกว่า คนเสื้อแดงก่อการร้าย ล้มสถาบัน มีอาวุธร้ายแรง กลางวันก็ก่อการร้าย ล้มสถาบัน มีอาวุธร้ายแรง เย็นก็บอกก่อการร้าย ล้มสถาบัน มีอาวุธร้ายแรง ในสมองของทหารถูกยัดเยียด ทั้งที่คนที่มาชุมนุมเรียกร้อง เขาเพียงแค่มาชุมนุมเพื่อยุบสภา ขอหีบเลือกตั้ง แต่เขาก็ให้หีบศพ”
นายจตุพรพรหมพันธุ์ ส.ส. สัดส่วนพรรคเพื่อไทยและแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช. ) แดงทั้งแผ่นดินอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีและนายสุเทพเทือกสุบรรณรองนายกรัฐมนตรีกรณีมี ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากจากการสั่งให้ทหารล้อมปราบคนเสื้อแดงทั้งยังกล่าวหาคนเสื้อแดงเป็น"ผู้ก่อการร้าย"และล้มสถาบันอีกซึ่งเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน อภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กรณีมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จากการสั่งให้ทหารล้อมปราบคนเสื้อแดง ทั้งยังกล่าวหาคนเสื้อแดงเป็น “ผู้ก่อการร้าย” และล้มสถาบันอีก ซึ่งเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองแล้ว แต่กลับปรากฏภาพ"ไอ้โม่งชุดดำ"ขึ้นมาจึงกลายเป็นยาสามัญประจำบ้านของรัฐบาลและศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ศอฉ. () ใช้ปลุกระดมว่า"ไอ้ โม่งชุดดำ"เป็นคนฆ่าทหารและประชาชนและถ้า"ไอ้โม่งชุดดำ"เป็นพวกคนเสื้อแดงแล้วใครฆ่าประชาชน นายอภิสิทธิ์ต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองแล้ว แต่กลับปรากฏภาพ “ไอ้โม่งชุดดำ” ขึ้นมาจึงกลายเป็นยาสามัญประจำบ้านของรัฐบาลและศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุก เฉิน (ศอฉ.) ใช้ปลุกระดมว่า “ไอ้โม่งชุดดำ” เป็นคนฆ่าทหารและประชาชน และถ้า “ไอ้โม่งชุดดำ” เป็นพวกคนเสื้อแดง แล้วใครฆ่าประชาชน
"ชายชุดดำจะเป็นใครก็ตามมีถ่ายภาพให้เห็นประมาณ 4 คน แต่คนบาดเจ็บ 800 28 กว่าคนตายอีกในวันที่ 10 เม.ย. “ชายชุดดำจะเป็นใครก็ตาม มีถ่ายภาพให้เห็นประมาณ 4 คน แต่คนบาดเจ็บ 800 กว่าคน ตายอีก 28 ในวันที่ 10 เม.ย. ท่านเชื่อหรือมีดำคนชุด 4 คนที่สังหารประชาชนและทหารชายชุดดำจะเป็นใครก็ตามนายสุเทพนายอภิสิทธิ์ต้องจับกุมรวมถึงคนลั่นกระสุนปืนใส่ประชาชนความจริงวันนั้นถ้านายอภิสิทธิ์และนายสุเทพหยุดการเข่นฆ่าประชาชน ชายชุดดำมันจะโผล่มาได้อย่างไรนายอภิสิทธิ์ไม่ใช่หรือที่ตำหนิรัฐบาลสมชายที่ทำให้มีคนเสียชีวิตและยังยกย่องสารวัตรจ๊าบว่าเป็นประชาชนอันอาจหาญเหมือนนายสุเทพบอกว่าคนที่เสียชีวิตมีชาวพม่าแล้วไม่บอก มีชาวแคนาดาญี่ปุ่นอิตาลีเขาก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน" ท่านเชื่อหรือ มีคนชุดดำ 4 คน ที่สังหารประชาชนและทหาร ชายชุดดำจะเป็นใครก็ตาม นายสุเทพ นายอภิสิทธิ์ ต้องจับกุม รวมถึงคนลั่นกระสุนปืนใส่ประชาชน ความจริงวันนั้น ถ้านายอภิสิทธิ์และนายสุเทพหยุดการเข่นฆ่าประชาชน ชายชุดดำมันจะโผล่มาได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ไม่ใช่หรือ ที่ตำหนิรัฐบาลสมชายที่ทำให้มีคนเสียชีวิต และยังยกย่องสารวัตรจ๊าบว่า เป็นประชาชนอันอาจหาญ เหมือนนายสุเทพบอกว่า คนที่เสียชีวิตมีชาวพม่า แล้วไม่บอกมีชาวแคนาดา ญี่ปุ่น อิตาลี เขาก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน”
ปรองดองด้วย “เลือด”?
ขณะที่นายสุเทพยืนยันเสียงแข็งเช่นเดียวกับนายอภิสิทธิ์ว่าไม่เคยสั่งฆ่าประชาชน แต่กลับอ้างว่า"ไอ้โม่งชุดดำ"มีความสัมพันธ์กับหัวหน้าใหญ่ที่ออกทุนและปฏิบัติการคู่ขนานกับประชาชนที่บริสุทธิ์ ขณะที่นายสุเทพยืนยันเสียงแข็งเช่นเดียวกับนายอภิสิทธิ์ว่า ไม่เคยสั่งฆ่าประชาชน แต่กลับอ้างว่า “ไอ้โม่งชุดดำ” มีความสัมพันธ์กับหัวหน้าใหญ่ที่ออกทุนและปฏิบัติการคู่ขนาน กับประชาชนที่บริสุทธิ์
"เจ้าหน้าที่ของรัฐนายกฯ และผมไม่ได้สร้างสถานการณ์เพื่อทำลายคู่แข่งทางการเมืองพวกผมไม่ใจบาปหยาบช้าลงทุนเผาบ้านเมืองให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการเมืองคนใจดำอำมหิตที่ทำได้คือผู้ก่อการร้ายที่อยู่กับพวกคุณเป้าหมายมีอย่างเดียวคือนายกฯ และผมสั่งทหารฆ่าประชาชนผมจะทำไปทำไมทหารที่มาปฏิบัติภารกิจ 30.000-40.000 คนเป็นลูกชาวบ้านเหมือนกับเราเขามีหัวใจรักพ่อแม่รักญาติคิดหรือว่าถ้าพวกผมไปสั่งผบ.ทบ. “เจ้าหน้าที่ของรัฐ นายกฯ และผม ไม่ได้สร้างสถานการณ์เพื่อทำลายคู่แข่งทางการเมือง พวกผมไม่ใจบาปหยาบช้า ลงทุนเผาบ้านเมืองให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการเมือง คนใจดำอำมหิตที่ทำได้ คือผู้ก่อการร้ายที่อยู่กับพวกคุณ เป้าหมายมีอย่างเดียว คือนายกฯและผม สั่งทหารฆ่าประชาชน ผมจะทำไปทำไม ทหารที่มาปฏิบัติภารกิจ 30,000-40,000 คนเป็นลูกชาวบ้านเหมือนกับเรา เขามีหัวใจรักพ่อแม่ รักญาติ คิดหรือว่า ถ้าพวกผมไปสั่ง ผบ.ทบ. แล้วจะฟังคำสั่งพวกผม" แล้ว จะฟังคำสั่งพวกผม”
เช่นเดียวกับนายอภิสิทธิ์ที่วันนี้ยังเพิกเฉยต่อเสียงเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบกับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการใช้กำลังทหารปราบล้อมคนเสื้อแดงโดยยืนยันว่า"ไอ้โม่งชุดดำ"เป็น"ผู้ก่อการร้าย"ฆ่าประชาชนที่ และทหารทั้งที่รัฐบาลมีความจริงใจที่จะหาแนวทางแก้ปัญหาให้คลี่คลายอย่างสันติตั้งแต่ต้น เช่นเดียวกับนายอภิสิทธิ์ ที่วันนี้ ยังเพิกเฉยต่อเสียงเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบกับ ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการใช้กำลังทหารปราบล้อมคนเสื้อแดง โดยยืนยันว่า “ไอ้โม่งชุดดำ” เป็น “ผู้ก่อการร้าย” ที่ฆ่าประชาชนและทหาร ทั้งที่รัฐบาลมีความจริงใจที่จะหาแนวทางแก้ปัญหา ให้คลี่คลายอย่างสันติตั้งแต่ต้น
"อุปสรรคคือการชุมนุมเมื่อเกินเลยขอบเขตรัฐธรรมนูญสร้างความเสียหายให้แก่คนจำนวนไม่น้อยและมีกองกำลังติดอาวุธวินาศกรรมการดำเนินการจึงยากเป็นพิเศษ แต่รัฐบาลก็พยายามทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินน้อยที่สุดและเลือกชีวิตสำคัญ กว่าเช่นวันที่ 19 พฤษภาคม" “อุปสรรคคือการชุมนุม เมื่อเกินเลยขอบเขตรัฐธรรมนูญ สร้างความเสียหายให้แก่คนจำนวนไม่น้อย และมีกองกำลังติดอาวุธ วินาศกรรม การดำเนินการจึงยากเป็นพิเศษ แต่รัฐบาลก็พยายามทำให้เกิดความ เสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินน้อยที่สุด และเลือกชีวิตสำคัญกว่า เช่น วันที่ 19 พฤษภาคม”
คำพูดของนายอภิสิทธิ์จึงเห็นได้ชัดเจนว่าทำไมจึงไม่แสดงความรับผิดชอบกับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ แต่กลับมองว่าคนเสื้อแดงทำผิดกฎหมายและมีกองกำลังติดอาวุธที่ใช้ความรุนแรงซึ่งสวนทางกับแผนปรองดองที่นาย อภิสิทธิ์ยืนยันว่ายังคงเดินหน้าต่อไปเช่นเดียวกันยังคงใช้อำนาจ พ.ร.ก. ฉุกเฉินไล่ล่าคนเสื้อแดงและฉวยโอกาสกวาดล้างนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม คำพูดของนายอภิสิทธิ์จึงเห็นได้ชัดเจนว่า ทำไมจึงไม่แสดงความรับผิดชอบกับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ แต่กลับมองว่า คนเสื้อแดงทำผิดกฎหมาย และมีกองกำลังติดอาวุธที่ใช้ความรุนแรง ซึ่งสวนทางกับแผนปรองดองที่นายอภิสิทธิ์ยืนยันว่า ยังคงเดินหน้าต่อไป เช่นเดียวกันยังคงใช้อำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไล่ล่า คนเสื้อแดง และฉวยโอกาสกวาดล้างนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม
มือถือสาก ปากถือศีล?
รัฐบาลจริงใจที่จะสร้างความปรองดองหรือไม่ก็ดูได้จากศอฉ รัฐบาลจริงใจที่จะสร้างความปรองดองหรือไม่ ก็ดูได้จาก ศอฉ. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งอธิบดีดีเอสไอเป็นศอฉกรรมการ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งอธิบดีดีเอสไอเป็นกรรมการ ศอฉ. ด้วยและยังคงออกหมายจับบุคคลต่างๆในข้อหาผู้ก่อการร้ายและล้มสถาบันไปกว่า 100 คนแล้วไม่ใช่แค่คนเสื้อแดงนักการเมืองและนักธุรกิจเท่านั้น ด้วย และยังคงออกหมายจับบุคคลต่างๆ ในข้อหาผู้ก่อการร้ายและล้มสถาบันไปกว่า 100 คนแล้ว ไม่ใช่แค่คนเสื้อแดง นักการเมือง และนักธุรกิจเท่านั้น
แม้แต่นักวิชาการที่ออกมาแสดงความคิดเห็นสนับสนุนคนเสื้อแดงก็กลายเป็นผู้ต้องหาไปด้วยอย่างนายสุธาชัยยิ้มประเสริฐอาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์คณะอักษรศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนายวรพลพรหมิกบุตรอาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จน กลุ่มคณาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆต้องออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลว่าคุกคามเสรีภาพทางวิชาการ แม้แต่นักวิชาการที่ออกมาแสดงความคิดเห็นสนับสนุนคนเสื้อแดง ก็กลายเป็นผู้ต้องหาไปด้วย อย่างนายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายวรพล พรหมิกบุตร อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนกลุ่มคณาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ ต้องออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลว่า คุกคามเสรีภาพทางวิชาการ
โดยเฉพาะกรณีนายสุธาชัยที่ไปมอบตัวและถูกควบคุมตัวไว้ถึง 7 วันทั้งที่พ่อภรรยาของนายสุธาชัยเพิ่งเสียชีวิตซึ่งนายสุริชัยหวันแก้วผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสังคมจุฬาฯ เตือนรัฐบาลที่อ้างพ . ร . ก . ฉุกเฉินด้วยการใช้อำนาจลักษณะครอบจักรวาลนั้นเป็นการกระทำที่สวนทางกับการสร้างบรรยากาศปรองดองซึ่งเหมือนการตบหน้านายอภิสิทธิ์ที่กล่าวว่ารัฐบาลไม่มองคนที่มีความเห็นต่างกันเป็นศัตรูทางการเมืองไม่ได้ ไล่ล่าและกวาดล้างทั้งที่ในข้อเท็จจริงยังคงให้ศอฉ โดยเฉพาะกรณีนายสุธาชัย ที่ไปมอบตัวและถูกควบคุมตัวไว้ถึง 7 วัน ทั้งที่พ่อภรรยาของนายสุธาชัยเพิ่งเสียชีวิต ซึ่งนายสุริชัย หวันแก้ว ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ เตือนรัฐบาลที่อ้าง พ.ร.ก.ฉุก เฉิน ด้วยการใช้อำนาจลักษณะครอบจักรวาลนั้น เป็นการกระทำที่สวนทางกับการสร้างบรรยากาศปรองดอง ซึ่งเหมือนการตบหน้านายอภิสิทธิ์ที่กล่าวว่า รัฐบาลไม่มองคนที่มีความเห็นต่างกันเป็นศัตรูทางการเมือง ไม่ได้ไล่ล่าและกวาดล้าง ทั้งที่ในข้อเท็จจริงยังคงให้ ศอฉ. และดีเอสไอใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินกล่าวหาและจับกุมบุคคลต่างๆที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล และดีเอสไอ ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กล่าวหาและจับกุมบุคคลต่างๆ ที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล
แม้แต่ผู้เสียชีวิตก็ไม่มีการเปิดเผยการชันสูตรพลิกศพให้ประชาชนทราบอย่างที่นายจตุพรระบุว่ารัฐบาลและศอฉ แม้แต่ผู้เสียชีวิต ก็ไม่มีการเปิดเผยการชันสูตรพลิกศพให้ประชาชนทราบ อย่างที่นายจตุพรระบุว่า รัฐบาลและ ศอฉ. ต้องการบิดเบือนคดีคนตายโดยโยนไปให้ดีเอสไอโดยไม่มีการไต่สวนในศาลชั้นต้นแม้แต่กรณี พ.อ. ร่มเกล้าธุวธรรมรอง เสธ.พล.ร. รอ 2 ต้องการบิดเบือนคดีคนตาย โดยโยนไปให้ดีเอสไอ โดยไม่มีการไต่สวนในศาลชั้นต้น แม้แต่กรณี พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม รอง เสธ.พล.ร.2 รอ. หรือทหารเกณฑ์ที่ถูกยิงตายที่สะพานวันชาติก็ไม่เปิดเผยการชันสูตรพลิกศพว่าเสียชีวิตเพราะอะไรหรือการเผาเซ็นทรัลเวิลด์เซ็นเตอร์วันและสถานที่ต่างๆก็ไม่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้เลย หรือทหารเกณฑ์ที่ถูกยิงตายที่สะพานวันชาติ ก็ไม่เปิดเผยการชันสูตรพลิกศพว่า เสียชีวิตเพราะอะไร หรือการเผาเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นเตอร์วัน และสถานที่ต่างๆ ก็ไม่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้เลย
โดยเฉพาะผู้เสียชีวิตภายในวัดปทุมวนารามจำนวน 6 ศพเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมทั้งที่เป็นเขตอภัยทานและมีพยานยืนยันว่าทหารเป็นคนยิงยังเป็นปริศนาว่ากลุ่มคนติดอาวุธบนสถานีรถไฟฟ้าในช่วงเกิดเหตุจลาจลเป็นใคร ซึ่งการชันสูตรพลิกศพระบุชัดเจนว่าทุกคนถูกยิงโดยเฉพาะน.ส. โดยเฉพาะผู้เสียชีวิตภาย ในวัดปทุมวนารามจำนวน 6 ศพเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ทั้งที่เป็นเขตอภัยทาน และมีพยานยืนยันว่าทหารเป็นคนยิง ยังเป็นปริศนาว่ากลุ่มคนติดอาวุธบนสถานีรถไฟฟ้าในช่วงเกิดเหตุจลาจลเป็นใคร ซึ่งการชันสูตรพลิกศพระบุชัดเจนว่าทุกคนถูกยิง โดยเฉพาะ น.ส. กมนเกดอัคอายุฮาด 25 ปีถูกยิงทะลุผิวหนังมากถึง 10 แห่ง กมนเกด อัคฮาด อายุ 25 ปี ถูกยิงทะลุผิวหนังมากถึง 10 แห่ง
พ.ร.ก. ฉกฉวย? พ.ร.ก.ฉกฉวย?
แม้วันนี้นายอภิสิทธิ์จะยังเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ในความรู้สึกของคนไทยหลายสิบล้านคนและหลายประเทศในประชาคมโลกเห็นว่านายอภิสิทธิ์ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้หรือไม่อาจปฏิเสธว่าเป็น"รัฐบาลมือเปื้อนเลือด"ที่หมด ความชอบธรรมแล้วแม้จะดื้อดึงอยู่ในอำนาจต่อไปก็ไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลเป็ดง่อยซึ่งอยู่ได้เพราะ พ.ร.ก. ฉุกเฉินที่นายอภิสิทธิ์และพวกพ้องพยายามนำมาใช้เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเองรวมถึงฉกฉวยโอกาส ไล่ล่าและกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามและประชาชนที่มีความเห็นแตกต่าง แม้วันนี้นายอภิสิทธิ์จะยังเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ในความรู้สึกของคนไทยหลายสิบล้านคน และหลายประเทศในประชาคมโลกเห็นว่า นายอภิสิทธิ์ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ หรือไม่อาจปฏิเสธว่าเป็น “รัฐบาลมือเปื้อนเลือด” ที่หมดความชอบธรรมแล้ว แม้จะดื้อดึงอยู่ในอำนาจต่อไป ก็ไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลเป็ดง่อย ซึ่งอยู่ได้เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่นายอภิสิทธิ์และพวกพ้อง พยายามนำมาใช้เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง รวมถึงฉกฉวยโอกาสไล่ล่าและกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามและประชาชนที่มีความเห็นแตกต่าง
หากนายอภิสิทธิ์มีความจริงใจจะสร้างความปรองดองจริงไม่เพียงต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองเท่านั้น แต่ต้องยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมตามรัฐธรรมนูญไม่ใช่อำนาจจากกฎหมายเผด็จการซึ่งก่อน หน้านี้นายอภิสิทธิ์ก็คัดค้านพ.ร.ก. หากนายอภิสิทธิ์มีความจริงใจจะสร้างความปรองดองจริง ไม่เพียงต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองเท่านั้น แต่ต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่อำนาจจากกฎหมายเผด็จการ ซึ่งก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ก็คัดค้าน พ.ร.ก. ฉบับนี้ว่าเผด็จการเป็นกฎหมาย ฉบับนี้ว่าเป็นกฎหมายเผด็จการ
เพราะไม่เช่นนั้นนายอภิสิทธิ์ก็ไม่ต่างอะไรกับผู้นำเผด็จการที่ใช้กฎหมายอ้างความชอบธรรมเพื่อฆ่าและทำลายศัตรูฝ่ายตรงข้ามโดยไม่สะทกสะท้านกับเสียงประณามและต่อต้านเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ซึ่งรัฐบาลปลุกระดมและโฆษณาชวนเชื่อจนทำให้ คนไทยสามารถฆ่าคนไทยด้วยกันได้ทั้งที่นายอภิสิทธิ์เคยพูดไว้ว่ารัฐบาลของประชาชนต้องแสดงความรับผิดชอบแม้คนตาย 1 คนได้ก็ไม่ เพราะไม่เช่นนั้นนายอภิสิทธิ์ก็ไม่ต่างอะไรกับผู้นำเผด็จการ ที่ใช้กฎหมายอ้างความชอบธรรม เพื่อฆ่าและทำลายศัตรูฝ่ายตรงข้าม โดยไม่สะทกสะท้านกับเสียงประณามและต่อต้าน เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ ซึ่งรัฐบาลปลุกระดมและโฆษณาชวนเชื่อ จนทำให้คนไทยสามารถฆ่าคนไทยด้วยกันได้ ทั้งที่นายอภิสิทธิ์เคยพูดไว้ว่า รัฐบาลของประชาชนต้องแสดงความรับผิดชอบ แม้คนตาย 1 คนก็ไม่ได้
นิติยัดข้อหารัฐ
นิติรัฐและนิติธรรมยุคนายอภิสิทธิ์จึงเหมือน"นิติรัฐยัดข้อหา"หรือ"นิติธรรมอำมหิต"ยิ่งกว่า 2 มาตรฐานและยังฉวยโอกาสกวาดล้างและกำจัดศัตรูฝ่ายตรงข้ามหรือทุกคนที่สงสัยด้วยการกล่าวหาเป็นผู้ก่อการร้ายและเครือข่ายขบวนการที่ สถาบันล้ม นิติรัฐและนิติธรรมยุคนายอภิสิทธิ์ จึงเหมือน “นิติรัฐยัดข้อหา” หรือ “นิติธรรมอำมหิต” ที่ยิ่งกว่า 2 มาตรฐาน และยังฉวยโอกาสกวาดล้างและกำจัดศัตรูฝ่ายตรงข้าม หรือทุกคนที่สงสัย ด้วยการกล่าวหาเป็นผู้ก่อการร้ายและเครือข่ายขบวนการล้มสถาบัน
แม้แต่การค้นพบอาวุธสงครามจำนวนมากที่นำมาแถลงข่าวว่าซุกซ่อนอยู่ในบริเวณการชุมนุมก็เป็นการนำมาแสดงหลังจากคนเสื้อแดงยุติการชุมนุมแล้วถึง 2 วันซึ่งเป็นช่วงเวลาปลอดผู้คนจากการประกาศเคอร์ฟิวห้ามใครมา ยุ่มย่ามนอกจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเท่านั้นไม่มีนักข่าวหรือผู้รู้เห็นเป็นพยานเลยทั้งที่นักข่าวของไทยและนักข่าวต่างประเทศอยู่ในพื้นที่ตลอดการชุมนุมกว่า 2 เดือนยังไม่เคยพบเห็นหรือถ้ามีจริงก็ต้องมีพิรุธซึ่งยากที่จะหลุดรอด สายตาของนักข่าวที่ไม่ใช่อยู่แค่บริเวณเวทีปราศรัย แต่เดินทางเข้าออกและทำข่าวไปทั่วทุกพื้นที่การชุมนุม แม้แต่การค้นพบอาวุธสงครามจำนวนมาก ที่นำมาแถลงข่าวว่าซุกซ่อนอยู่ในบริเวณการชุมนุม ก็เป็นการนำมาแสดงหลัง จากคนเสื้อแดงยุติการชุมนุมแล้วถึง 2 วัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาปลอดผู้คนจากการประกาศเคอร์ฟิว ห้ามใครมายุ่มย่าม นอกจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเท่านั้น ไม่มีนักข่าวหรือผู้รู้เห็นเป็นพยานเลย ทั้งที่นักข่าวของไทยและนักข่าวต่างประเทศ อยู่ในพื้นที่ตลอดการชุมนุมกว่า 2 เดือน ยังไม่เคยพบเห็น หรือถ้ามีจริง ก็ต้องมีพิรุธ ซึ่งยากที่จะหลุดรอดสายตาของนักข่าวที่ไม่ใช่อยู่แค่บริเวณเวทีปราศรัย แต่เดินทางเข้าออกและทำข่าวไปทั่วทุกพื้นที่การชุมนุม
การศอฉแถลงข่าวของ การแถลงข่าวของ ศอฉ. และการนำอาวุธมากมายหรือหลักฐานรูปภาพและคลิปต่างๆมากล่าวหาใส่ร้ายคนเสื้อแดงจึงกลับส่งผลทางลบต่อศอฉ และการนำอาวุธมากมาย หรือหลักฐานรูปภาพ และคลิปต่างๆ มากล่าวหาใส่ร้ายคนเสื้อแดงจึงกลับส่งผลทางลบต่อ ศอฉ. เองโดยเฉพาะข่าวที่เผยแพร่ออกไปทั่วโลกยิ่งสร้างความสงสัยในรัฐบาลและศอฉ เอง โดยเฉพาะข่าวที่เผยแพร่ออกไปทั่วโลก ยิ่งสร้างความสงสัยในรัฐบาลและ ศอฉ. เหมือนบรรดาทูตที่เข้าพบนายกฯ ต่างซักถามเรื่องข้อกล่าวหา"ผู้ก่อการร้าย"ว่ามีหลักฐานอะไรและอาวุธมาจากที่ไหน เหมือนบรรดาทูตที่เข้าพบนายกฯ ต่างซักถามเรื่องข้อกล่าวหา “ผู้ก่อการร้าย” ว่ามีหลักฐานอะไร และอาวุธมาจากที่ไหน
อย่างที่ ร.ต.อ. เฉลิมอยู่บำรุงตั้งคำถามนายสุเทพในการอภิปรายไม่วางใจว่าศอฉ อย่างที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ตั้งคำถามนายสุเทพในการอภิปรายไม่วางใจว่า ศอฉ. มีการตั้งด่านตรวจและสกัดทุกพื้นที่ของการชุมนุมอย่างแน่นหนารายรอบทั้งกรุงเทพฯชั้นนอกชั้นในทั้งชานเมืองและต่างจังหวัดชนิดแม้แต่แมลงวันยังไม่ยอมให้รอดเข้าไปได้ แต่ทำไมจึงปล่อยให้อาวุธร้ายแรงเข้าไปได้ทำไมหลังการชุมนุม จึงค้นพบมากมายและมีการตรวจสอบอาวุธและหลักฐานต่างๆตามหลักนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดหรือไม่ มีการตั้งด่านตรวจและสกัดทุกพื้นที่ของการชุมนุมอย่างแน่นหนารายรอบทั้งกรุงเทพฯชั้นนอก ชั้นใน ทั้งชานเมืองและต่างจังหวัด ชนิดแม้แต่แมลงวัน ยังไม่ยอมให้รอดเข้าไปได้ แต่ทำไมจึงปล่อยให้อาวุธร้ายแรงเข้าไปได้ ทำไมหลังการชุมนุมจึงค้นพบมากมาย และมีการตรวจสอบอาวุธและหลักฐานต่างๆ ตามหลักนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดหรือไม่
ที่สำคัญการแถลงข่าวของรัฐบาลและศอฉ ที่สำคัญการแถลงข่าวของรัฐบาลและ ศอฉ. เป็นการให้ข้อมูลด้านเดียวเหมือนการอภิปรายของฝ่ายค้านที่นำภาพและคลิปวิดีโอทหารที่อยู่บนรางรถไฟฟ้ามาแสดงโดยนายสุเทพตอบว่าเป็นคนละสถานที่ไม่ใช่หน้าวัดปทุมฯ แต่พอเห็นด้านหลังของภาพเป็นฉากวัดปทุม ฯ ก็เลี่ยงไปตอบว่าเป็นคนละวันไม่ใช่วันที่ 19 พฤษภาคม แต่พอทราบว่าเป็นภาพจากคลิปที่ถ่ายต่อเนื่องเห็นชัดว่าเป็นวันเดียวกับที่สยามสแควร์ไฟไหม้คือวันที่ 19 พฤษภาคมอย่างแน่นอนนายสุเทพก็โยนไป ให้"ไอ้โม่ง"เป็นผู้ยิงประชาชนในวัดโดยไม่มีคำตอบว่าถ้าเช่นนั้น"ไอ้โม่ง"เป็นพวกใครกันแน่ เป็นการให้ข้อมูลด้านเดียว เหมือนการอภิปรายของฝ่ายค้าน ที่นำภาพและคลิปวิดีโอทหาร ที่อยู่บนรางรถไฟฟ้ามาแสดง โดยนายสุเทพตอบว่า เป็นคนละสถานที่ ไม่ใช่หน้าวัดปทุมฯ แต่พอเห็นด้านหลังของภาพเป็นฉากวัดปทุมฯ ก็เลี่ยงไปตอบว่า เป็นคนละวัน ไม่ใช่วันที่ 19 พฤษภาคม แต่พอทราบว่า เป็นภาพจากคลิปที่ถ่ายต่อเนื่อง เห็นชัดว่าเป็นวันเดียวกับที่สยามสแควร์ไฟไหม้ คือวันที่ 19 พฤษภาคมอย่างแน่นอน นายสุเทพก็โยนไปให้ “ไอ้โม่ง” เป็นผู้ยิงประชาชนในวัด โดยไม่มีคำตอบว่า ถ้าเช่นนั้น “ไอ้โม่ง” เป็นพวกใครกันแน่
? โกหกซ้ำซาก?
ศอฉรัฐบาลและ รัฐบาลและ ศอฉ. ใช้สื่อของรัฐและสื่อกระแสหลักกล่าวหาว่าแกนนำนปช ใช้สื่อของรัฐและสื่อกระแสหลักกล่าวหาว่า แกนนำ นปช. ปลุกระดมและบิดเบือนข้อมูลข่าวสารจนประชาชนหลงผิดหลงเชื่อมาร่วมชุมนุม แต่รัฐบาลและศอฉ ปลุกระดมและบิดเบือนข้อมูลข่าวสารจนประชาชนหลงผิด หลงเชื่อมาร่วมชุมนุม แต่รัฐบาลและ ศอฉ. กลับไม่รู้สึกละอายกับการปิดสื่อปิดเว็บไซต์ปิดกั้นการเสนอข้อมูลข่าวสารทุกด้านของคนเสื้อแดงและผู้ที่มีความเห็นขัดแย้งไม่ละอายในการใช้สื่อปลุกระดมโฆษณาชวนเชื่อหรือศอฉ กลับไม่รู้สึกละอายกับการปิดสื่อ ปิดเว็บไซต์ ปิดกั้นการเสนอข้อมูลข่าวสารทุกด้านของคนเสื้อแดง และผู้ที่มีความเห็นขัดแย้ง ไม่ละอายในการใช้สื่อปลุกระดมโฆษณาชวน เชื่อ หรือ ศอฉ. ที่แถลงข่าวกล่าวหาและข่มขู่ซ้ำ ๆ ซาก ๆ ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยแม้แต่ความเห็นของนักวิชาการก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายและขบวนการล้มเจ้า ที่แถลงข่าวกล่าวหาและข่มขู่ซ้ำๆ ซากๆ ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย แม้แต่ความเห็นของนักวิชาการ ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายและขบวนการล้มเจ้า
รัฐบาลยุคนายอภิสิทธิ์ไม่ได้แค่ครองแชมป์"รัฐบาลมือเปื้อนเลือด"เท่านั้นยังถือว่าเป็นรัฐบาลที่ใช้อำนาจปิดกั้นสิทธิเสรีภาพสื่อมากกว่ายุคใด ๆ แม้แต่รัฐบาลเผด็จการทหารหรือการรัฐประหารที่ผ่านมายังไม่ปิดกั้นและแทรกแซงสื่อเท่า กับอภิสิทธิ์รัฐบาลนาย รัฐบาลยุคนายอภิสิทธิ์ ไม่ได้แค่ครองแชมป์ “รัฐบาลมือเปื้อนเลือด” เท่านั้น ยังถือว่าเป็นรัฐบาลที่ใช้อำนาจปิดกั้นสิทธิเสรีภาพสื่อมากกว่ายุคใดๆ แม้แต่รัฐบาลเผด็จการทหาร หรือการรัฐประหารที่ผ่านมา ยังไม่ปิดกั้นและแทรกแซงสื่อเท่า กับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์
ทุกครั้งที่นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพกล่าวหาคนเสื้อแดงปลุกระดมและบิดเบือนข้อมูลข่าวสารผู้สื่อข่าวจึงได้ แต่พยักหน้าและอมยิ้มเพราะทั้งผู้แถลงและผู้ฟังต่างรู้ดีว่าฝ่ายใดที่ปลุกระดมและโฆษณาชวนเชื่อยัดเยียดข้อมูลด้านเดียวให้กับประชาชน กว่า 2 เดือนมาที่ผ่าน ทุกครั้งที่นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพกล่าวหาคนเสื้อแดงปลุกระดมและบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ผู้สื่อข่าวจึงได้แต่พยักหน้าและอมยิ้ม เพราะทั้งผู้แถลง และผู้ฟังต่างรู้ดีว่า ฝ่ายใดที่ปลุกระดมและโฆษณาชวนเชื่อ ยัดเยียดข้อมูลด้านเดียวให้กับประชาชนกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา
การอภิปรายไม่ไว้วางใจแค่ 2 วันของฝ่ายค้านเมื่อเทียบกับการกรอกหูผ่านทีวีพูลของศอฉ การอภิปรายไม่ไว้วางใจแค่ 2 วันของฝ่ายค้าน เมื่อเทียบกับการกรอกหูผ่านทีวีพูลของ ศอฉ. กว่า 2 เดือนแม้ไม่สามารถทำให้ประชาชนรับรู้ความจริงทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็ได้รู้ข้อมูลและความจริงอีกด้านหนึ่งที่ยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้อย่างกรณีไอ้โม่งชุดดำเรื่องสไนเปอร์การสังหารโหด 6 ศพ ในวัด ฯลฯ ปทุมฯ กว่า 2 เดือน แม้ไม่สามารถทำให้ประชาชนรับรู้ความจริงทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็ได้รู้ข้อ มูลและความจริงอีกด้านหนึ่งที่ยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้ อย่างกรณีไอ้โม่งชุดดำ เรื่องสไนเปอร์ การสังหารโหด 6 ศพในวัดปทุมฯ ฯลฯ
โดยเฉพาะ"ไอ้โม่งชุดดำ"ที่กลายเป็นตัวละครสำคัญของนายอภิสิทธิ์และศอฉ โดยเฉพาะ “ไอ้โม่งชุดดำ” ที่กลายเป็นตัวละครสำคัญของนายอภิสิทธิ์และ ศอฉ. ที่นำมาใช้ฟอกเหตุการณ์ตัวจาก 10 เมษายนซึ่งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากโดยนายอภิสิทธิ์และศอฉ ที่นำมาใช้ฟอกตัวจากเหตุการณ์ 10 เมษายน ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยนายอภิสิทธิ์และ ศอฉ. นำมาแถลงตอกย้ำทุกครั้งเพื่อกล่าวหาและใส่ร้ายป้ายสีว่าเป็น"ผู้ก่อการร้าย"ที่แฝงตัวอยู่กับคนเสื้อแดง แต่ไม่เคยจับตัวได้แม้ แต่คนเดียวซึ่งโดยนัยก็คือการกล่าวหาและใส่ร้ายว่าคนเสื้อแดงเป็นผู้ก่อการร้ายหรือ เป็นเครือข่ายกลุ่มก่อการร้ายเหมือนการกล่าวหากรณี"เครือข่ายขบวนการล้มเจ้า" นำมาแถลงตอกย้ำทุกครั้ง เพื่อกล่าวหาและใส่ร้ายป้ายสีว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย” ที่แฝงตัวอยู่กับคนเสื้อแดง แต่ไม่เคยจับตัวได้แม้ แต่คนเดียว ซึ่งโดยนัยก็คือการกล่าวหาและใส่ร้ายว่า คนเสื้อแดงเป็นผู้ก่อการร้าย หรือเป็นเครือข่ายกลุ่มก่อการร้าย เหมือน การกล่าวหากรณี “เครือข่ายขบวนการล้มเจ้า”
"ไอ้โม่งชุดดำ"จึงไม่รู้ว่าเป็นพระเอกหรือผู้ร้าย แต่ที่ได้ผลประโยชน์ไปเต็ม ๆ ก็คือฝ่ายรัฐบาลเพราะรัฐบาลใช้กล่าวหาเป็นพวกเดียวกับคนเสื้อแดงเพื่อสร้างความชอบธรรมในการใช้กำลังทหารล้อมปราบคนเสื้อแดง “ไอ้โม่งชุดดำ” จึงไม่รู้ว่าเป็นพระเอกหรือผู้ร้าย แต่ที่ได้ผลประโยชน์ไปเต็มๆ ก็คือฝ่ายรัฐบาล เพราะรัฐบาลใช้กล่าวหา เป็นพวกเดียวกับคนเสื้อแดง เพื่อสร้างความชอบธรรมในการใช้กำลังทหารล้อมปราบคนเสื้อแดง
หรือแม้การอ้างว่า"ไอ้โม่งชุดดำ"3 เป็นมือที่ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นฝ่ายใด แต่รัฐบาลก็ยัดเยียดให้เป็นคนเสื้อแดงไปโดยปริยายแม้บางครั้ง"ไอ้โม่ง"แต่งชุดลายพรางเหมือนทหารก็จะถูกระบุ ว่าเป็นผู้ก่อการร้ายที่แต่งเลียนแบบทหารทั้งที่อาจเป็นคนของรัฐบาลก็ได้ซึ่งสะ -- ท้อนให้เห็นชัดเจนถึงความไม่ยุติธรรมที่ยิ่งกว่า 2 มาตรฐาน หรือแม้การอ้างว่า “ไอ้โม่งชุดดำ” เป็นมือที่ 3 ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นฝ่ายใด แต่รัฐบาลก็ยัดเยียดให้เป็นคนเสื้อแดงไปโดยปริยาย แม้บางครั้ง “ไอ้โม่ง” แต่งชุดลายพรางเหมือนทหารก็จะถูกระบุว่าเป็นผู้ก่อการร้ายที่แต่งเลียนแบบทหาร ทั้งที่อาจเป็นคนของรัฐบาลก็ได้ ซึ่งสะ-ท้อนให้เห็นชัดเจนถึงความไม่ยุติธรรมที่ยิ่งกว่า 2 มาตรฐาน
วาทกรรมนายกฯ 100 ศพ
เช่นเดียวกับวาทกรรมของนายอภิสิทธิ์ที่ประกาศจะเดินหน้าตามแผนความปรองดองจึงยังถูกมองว่าเป็นแค่ลมปากเพื่อพยายามสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเองอยู่ในอำนาจต่อไปมากกว่าเพราะในทางปฏิบัตินายอภิสิทธิ์ก็ยังใช้อำนาจ จาก พ.ร.ก. ฉุกเฉินให้ศอฉ เช่นเดียวกับวาทกรรมของนายอภิสิทธิ์ ที่ประกาศจะเดินหน้าตามแผนความปรองดองจึงยังถูกมองว่า เป็นแค่ลมปาก เพื่อพยายามสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเองอยู่ในอำนาจต่อไปมากกว่า เพราะในทางปฏิบัตินายอภิสิทธิ์ก็ยังใช้อำนาจจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉินให้ ศอฉ. ออกมากล่าวหาไล่ล่ากวาดล้างคนเสื้อแดงและฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง ออกมากล่าวหา ไล่ล่า กวาด ล้างคนเสื้อแดงและฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง
แผนปรองดองของนายอภิสิทธิ์จึงเหมือนน้ำมันกับไฟมากกว่าตราบใดที่ยังใช้พ.ร.ก. แผนปรองดองของนายอภิสิทธิ์จึงเหมือนน้ำมันกับไฟมากกว่า ตราบใดที่ยังใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อฉวยโอกาสไล่ล่ากวาดล้างฝ่ายตรงข้ามไม่ต่างกับเพลง"โรดแม็พความปรองดอง"เพลงหรือ"รักกันไว้เถิด"ที่นำไปเปิดขณะที่รถถังและกำลังทหารนับหมื่นนายกำลัง เข้าสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงจนตายและบาดเจ็บมากมาย ฉุกเฉินเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อฉวยโอกาสไล่ล่า กวาด ล้างฝ่ายตรงข้าม ไม่ต่างกับเพลง “โรดแม็พความปรองดอง” หรือ เพลง “รักกันไว้เถิด” ที่นำไปเปิดขณะที่รถถังและกำลังทหาร นับหมื่นนายกำลังเข้าสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงจนตายและบาดเจ็บมากมาย
นายอภิสิทธิ์ที่วันนี้ได้ฉายา"นายกฯ ศพ 100 (หรืออาจจะเถียงว่าไม่ถึงแค่ 89 100 ศพเท่านั้น) ในความรู้สึกของคนเสื้อแดงและประชาคมโลกจึงหมดความชอบธรรมล้านเปอร์เซ็นต์เหมือนที่นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์เมื่อ วันที่ 9 ตุลาคม 2551 ในรายการ"ข่าวยามเช้า"ทางวิทยุ FM 101 ถึงเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม 2551 ซึ่งมีการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ปิดล้อมรัฐสภาไม่ให้นายสมชายวงศ์สวัสดิ์แถลงนโยบายและพรรคประชาธิปัตย์ไม่ ยอมเข้าประชุมทำให้มีชีวิตผู้เสีย 2 รายและบาดเจ็บ 443 รายว่าไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีรัฐที่ได้ทำร้ายประชาชนจนถึงขั้นเสียชีวิตบาดเจ็บสาหัสแล้วยังพยายามยัดเยียดความผิดกลับไปให้ประชาชนอีกซึ่งการเมืองในวิถีทางประชาธิปไตย ไม่มีที่ไหนในโลกที่ประชาชนถูกทำร้ายจากภาครัฐโดยรัฐบาลที่มาจากประชาชนไม่แสดงความรับผิดชอบ นายอภิสิทธิ์ที่วันนี้ได้ฉายา “นายกฯ 100 ศพ” (หรืออาจจะเถียงว่าไม่ถึง 100 แค่ 89 ศพ เท่านั้น) ในความรู้สึกของคนเสื้อแดงและประชาคมโลก จึงหมดความชอบธรรมล้านเปอร์เซ็นต์ เหมือนที่นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2551 ในรายการ “ข่าวยามเช้า” ทางวิทยุ FM 101 ถึงเหตุการณ์ วันที่ 7 ตุลาคม 2551 ซึ่งมีการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปิดล้อมรัฐสภาไม่ให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แถลงนโยบาย และพรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอมเข้าประชุม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 443 รายว่า ไม่นึกไม่ฝันว่า จะมีรัฐที่ได้ทำร้ายประชาชนจนถึงขั้นเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัส แล้วยังพยายามยัดเยียดความผิดกลับไปให้ประชาชนอีก ซึ่งการเมืองในวิถีทางประชาธิปไตยไม่มีที่ไหนในโลกที่ประชาชนถูกทำร้ายจากภาครัฐโดยรัฐบาลที่มาจากประชาชนไม่แสดงความรับผิดชอบ
"สังคมไทยต้องอยู่กับความถูกต้องแล้วผมจะเตือนคุณสมชายในฐานะนายกรัฐมนตรีว่าถ้าไม่มีการแสดงความรับผิดชอบแบบอารยประเทศแล้ววัฒนธรรมทางการเมืองในประเทศไทยจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงครับจากนี้ไปจะมี แต่ความขัดแย้งรุนแรง ขึ้นไปอีกถึงท่านอยู่ท่านก็ปกครองไม่ได้บริหารไม่ได้แล้วอยู่ไปเพื่ออะไรเพราะฉะนั้นกลับตัวกลับใจเสียเถอะครับ" “สังคมไทยต้องอยู่กับความถูกต้อง แล้วผมจะเตือนคุณสมชายในฐานะนายกรัฐมนตรีว่า ถ้าไม่มีการแสดงความรับผิดชอบแบบอารยประเทศแล้ว วัฒนธรรมทาง การเมืองในประเทศไทยจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงครับ จากนี้ไปจะมีแต่ความขัดแย้งรุนแรงขึ้นไปอีก ถึงท่านอยู่ ท่านก็ปกครองไม่ได้ บริหารไม่ได้แล้ว อยู่ไปเพื่ออะไร เพราะฉะนั้นกลับตัวกลับใจเสียเถอะครับ”
อำมหิต กฎหมา(ย) นิติธรรมอำมหิต
คำพูดของนายอภิสิทธิ์ที่เคยเรียกร้องให้นายสมชายแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองจากการสลายกลุ่มพันธมิตรฯ ในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายกว่าและบาดเจ็บ 400 รายหรือการเรียกร้องให้นายสมัครสุนทร เวชยุบสภาเพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองครั้งที่กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมขับไล่และยึดทำเนียบรัฐบาล (อ่านได้ที่ปกหลังฉบับนี้) คำพูดของนายอภิสิทธิ์ที่เคยเรียกร้องให้นายสมชายแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองจากการสลายกลุ่มพันธมิตรฯในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บกว่า 400 ราย หรือการเรียกร้องให้นายสมัคร สุนทรเวช ยุบสภา เพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองครั้งที่กลุ่มพันธมิตรฯชุมนุมขับไล่และยึดทำเนียบรัฐบาล (อ่านได้ที่ปกหลังฉบับนี้)
วันนี้ย้อนกลับมาที่ตัวนายอภิสิทธิ์เช่นกันว่าทำไมนายอภิสิทธิ์จึงดื้อดึงและดื้อด้านไม่แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองกับการทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 รายเกือบและบาดเจ็บ 2.000 รายทั้งยังกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีประชาชนและฝ่ายตรงข้าม ว่าเป็นผู้ก่อการร้ายเผาบ้านเผาเมืองอีก วันนี้ย้อนกลับมาที่ตัวนาย อภิสิทธิ์เช่นกันว่า ทำไมนายอภิสิทธิ์จึงดื้อดึงและดื้อด้านไม่แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองกับการทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 ราย และบาดเจ็บเกือบ 2,000 ราย ทั้งยังกล่าวหา ใส่ร้ายป้ายสีประชาชนและฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นผู้ก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมืองอีก
โดยเฉพาะการใช้อำนาจจาก พ.ร.ก. ฉุกเฉินที่นายอภิสิทธิ์เคยประกาศต่อต้านว่าเป็นกฎหมายเผด็จการ แต่วันนี้นายอภิสิทธิ์กลับนำมาใช้เหมือนเป็นดาบอาญาสิทธิ์ที่คิดจะกล่าวหาไล่ล่ากวาดล้างหรือสั่งฆ่าใครก็ได้พลอยให้ แม้แต่ศาลยุติธรรมเองที่จะต้องพิพากษาคดีความด้วยหลักฐานและข้อเท็จจริงก็ยังถูกมองว่าไร้ความยุติธรรมเพราะต้องตัดสินไปตามหลักฐานและข้อเท็จจริงที่สร้างขึ้นโดยฝ่ายรัฐบาล แต่ฝ่ายเดียว โดยเฉพาะการใช้อำนาจจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่นายอภิสิทธิ์เคยประกาศต่อต้านว่าเป็นกฎหมายเผด็จการ แต่วันนี้นายอภิสิทธิ์กลับนำมาใช้เหมือนเป็น ดาบอาญาสิทธิ์ที่คิดจะกล่าวหา ไล่ล่า กวาดล้าง หรือสั่งฆ่าใครก็ได้ พลอยให้แม้แต่ศาลยุติธรรม เองที่จะต้องพิพากษาคดีความด้วยหลักฐานและข้อเท็จจริง ก็ยังถูกมองว่าไร้ความยุติธรรม เพราะต้องตัดสินไปตามหลักฐานและข้อเท็จจริงที่สร้างขึ้นโดยฝ่ายรัฐบาลแต่ฝ่ายเดียว
สังคมไทยทุกวันนี้จึงวิปริตและหายนะเพราะการโกหกตอแหลของคนในสังคมนั่นเองรวมถึงการเชิดชูยกย่องและยอมรับว่าใครโกหกตอแหลเก่งคือผู้นำศรีธนญชัยที่เก่งกล้าไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองนักธุรกิจข้าราชการสื่อหรือองค์กรภาคประชาชน ก็ยังเต็มไปด้วยความอคติและเกลียดชังแม้แต่ผู้นำบ้านเมืองที่ต้องยึดมั่นในหลักนิติรัฐนิติธรรมเพื่อเป็นหลักประกันความยุติธรรมให้กับประชาชนทุกคนอย่างเสมอภาคยังถูกประณามว่ามาตรฐาน 2 สังคมไทยทุกวันนี้จึงวิปริต และหายนะ เพราะการโกหกตอแหลของคนในสังคมนั่นเอง รวมถึงการเชิดชูยกย่องและ ยอมรับว่าใครโกหกตอแหลเก่งคือผู้นำศรีธนญชัยที่เก่งกล้า ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักธุรกิจ ข้าราชการ สื่อ หรือองค์กรภาค ประชาชน ก็ยังเต็มไปด้วยความ อคติและเกลียดชัง แม้แต่ผู้นำบ้านเมืองที่ต้องยึดมั่นในหลักนิติรัฐ นิติธรรม เพื่อเป็นหลักประกันความยุติธรรมให้กับประชาชนทุกคนอย่างเสมอภาคยังถูกประณามว่า 2 มาตรฐาน
กฎหมายประเทศไทยวันนี้จึงเหมือนไม่มีย". ยักษ์"นิติรัฐและนิติธรรม"กลายเป็น"นิติรัฐยัดข้อหา"หรือ"นิติธรรมอำมหิต"! กฎหมายประเทศไทยวันนี้จึงเหมือนไม่มี “ย.ยักษ์” “นิติรัฐและนิติธรรม” กลายเป็น “นิติรัฐยัดข้อหา” หรือ “นิติ ธรรมอำมหิต”!
ผู้ก่อการร้ายตัวจริงจึงอาจไม่ใช่"ไอ้โม่งชุดดำ"... แต่มันคือคนใส่สูทแต่งเครื่องแบบเต็มยศให้พรรคร่วมงูเห่าปลาไหลที่กลัวอดอยากปากแห้งยกมือให้ครองเมืองกันต่อไป ... ผู้ก่อการร้ายตัวจริงจึงอาจ ไม่ใช่ “ไอ้โม่งชุดดำ”...แต่มันคือคนใส่สูท แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ให้พรรคร่วมงูเห่าปลาไหลที่กลัวอดอยากปากแห้ง ยกมือให้ครองเมืองกันต่อไป...
ประชาชนไทยอนิจจา! อนิจจาประชาชนไทย!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น