ที่มาบทความ .thaifreenews.
วันที่ 12 ธ.ค. 2551 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิจจา ทวีกุลกิจ หรือ “หมอนิด” หมอดูชื่อดัง ได้เขียนบทความเรื่อง “กรรมของประชาชน” ด้วยการบรรยายอารมณ์อย่างรุนแรง ชนิดไม่เคยปรากฏมาก่อน พร้อมกับรับไม่ได้ในสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์กระทำอยู่ในเวลานี้ ด้วยการนำ “เ***้ย” มาร่วมและบอกว่าเป็น “จระเข้” ถือเป็นเวรกรรมของประเทศที่ให้ “อัปรีย์ครองเมือง”
“กรรมของประชาชน”
นับจากนี้ไปประชาชนเตรียม...รับกรรม...จากบรรดาพรรคการเมืองและนักการเมืองต่างๆได้แล้ว ไม่ว่าพรรคไหนจะมาเป็น “รัฐบาล” หรือใครจะมาเป็น “นายก” ก็ตามเพราะเมื่อดูจาก...ดวง...ของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะแล้ว...ในปี พ.ศ 2552 ดวงของนายอภิสิทธิ์เริ่มไม่ดี...และไม่ดีมากๆด้วย เพราะฉะนั้นหาก นายอภิสิทธิ์ได้เป็น...“นายก”... ก็เตรียมตัวเครียดได้เลยเพราะสารพัดปัญหาทั้งจากการแก้ไขเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ได้ผลแล้ว ซ้ำยังต้องเจอสารพัดพิษจากพรรคร่วมรัฐบาล...ที่มุ่งแต่กอบโกยจากโครงการต่างๆโดยไม่จริงใจกับบ้านเมืองและประชาชน...ประชาชนก็จะมีการประท้วงชุมนุม ไม่ขาดสาย...ความปั่นป่วนไม่มีทางยุติ และความรุนแรงจะมากขึ้นกว่าที่พันธมิตรเคยชุมนุมประท้วง...ตีนตบ จะอาละวาดขับไล่บรรดารัฐมนตรีต่างๆโดยเฉพาะทางภาคเหนือและอีสานจะมากเป็นพิเศษ...จนบรรดารัฐมนตรีไม่สามารถทำงานได้เต็มที่...คงจะต้องเตรียมหาทาง “หมาเผ่น” สำรองไว้เป็นทางออกฉุกเฉิน...รัฐบาลอยู่ไม่ได้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น...เรียกว่ารัฐบาล “พัง” หากนายอภิสิทธิ์สามารถประคองให้ผ่านพ้นปี 2522ไปได้ก็พอจะเบาขึ้นแต่ยังไม่ใช่ว่าดี (แต่ยากมากที่จะผ่านปี2552ไปได้) เพราะแกนนำหลายคนในพรรคประชาธิปัตย์...ดวงทรุดหนัก...เช่นกัน การที่พรรคประชาธิปัตย์นำ “เ***้ย” มาบอกประชาชนว่าเป็น “จระเข้” เพื่อสร้างราคาให้ตัวเอง...หรือนำเอา “เนื้อหมา” มาหลอกขายให้กับประชาชนบอกว่าเป็น “เนื้อหมู” นั้นเป็นการทำลายภาพพจน์ และอนาคตของพรรค...นับว่าเป็นกรรมของประชาชน...ที่ต้องเอาชีวิต และแขน-ขา..มาบูชาพรรคเทพ... หากผู้ที่มีใจเป็นกลางคงจะมีความคิดที่แยกแยะผิด-ถูกได้คงจะมีความรู้สึกได้ ดีและคงจะหมดศรัทธาพรรคนี้ไปนาน...เพราะความกระสันต์จนลืมความดีความชั่ว... ผมเองบอกตรงๆว่าผมหมดศรัทธาพรรคประชาธิปัตย์ที่มาผสมพันธุ์กับเ***้ยจำนวนมาก...ถึงแม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ได้เป็นรัฐบาลในครั้งนี้ก็ตาม...ผมคิดว่าคงจะมีประชาชนจำนวนหนึ่ง “ต้องคิดใหม่” ว่ายังจะรับได้หรือไม่...เวรกรรมของประเทศไทยที่หันไปทางไหนก็มีแต่ “อัปรีย์ครองเมือง” แต่สำรากได้หวานหูว่า...ทำเพื่อชาติบ้านเมือง ...เมื่อได้ราคาค่าตัวพร้อมตำแหน่งที่ประเคนให้...คำพูดที่หวานหู...ไม่หวังตำแหน่ง...มักจะได้ยินอยู่เสมอจากนักการเมืองทุกคน...ผมไม่เคยชอบรัฐบาลเผด็จการมาก่อน...แต่มาฟังข่าวพรรรคประชาธิปัตย์มาร่วมผสมพันธุ์กับคนกลุ่มหนึ่งที่สังคมทั่วไป “ส่ายหน้า” ทุกครั้ง...ท่านพอใจหรือไม่? ที่เอาโจรมาร่วม “ปล้นชาติ” อย่างหน้าตาเฉย...บางครั้งก็พยายามทำใจ...ช่างมันเถอะ...เ***้ยต้องสู้กับเ***้ย...ถึงจะสมน้ำสมเนื้อ...เพราะถ้าปล่อยไป บ้านเมืองและประเทศไทยคงจะบอบช้ำมากกว่านี้เพราะฝ่ายตรงข้ามก็ “เล่นไม่เลิก” และ “ผยองจนหลง” ...ไม่ยอมสงบนิ่ง...แต่บอกตรงๆว่า “ทำใจลำบาก” กับการตัดสินใจของพรรคเทพในหมู่มารห้อมล้อมรุมกินโต๊ะ “ประเทศไทย” ประชาชนคนไทยเหมือน “เครื่องต้มยำ” เป็น กุ้ง, หอย, ปู, ปลา, ขิงข่า, ตะใคร้, พริกแกง...ให้นักการเมืองทุกพรรค...หยิบมาปรุงมาต้มยำทำแกง... ตามใจชอบ แถมใส่ผักชีโรยหน้ามาให้ประชาชนดูสวยงาม...ใจหนึ่งก็คิดว่าถ้าพรรคประชา ธิปัตย์มาเป็นรัฐบาล ก็คงจะมีการเปลี่ยนแปลงข้าราชการครั้งใหญ่...ที่ทางพรรคเก่าได้วางตัวไว้ แล้วหลายจุดหลายจังหวัด...พวกใครพวกมันทีใครทีมัน...มีดีก็มีเสียแต่ทำใจไม่ ได้จริงๆกับบรรดา “ผีปอบ” ทั้งหลาย (เป็นทุกพรรค...ทุกรัฐบาล) วันนี้ผมเปิดใจเขียนจากความรู้สึก...ถึงแม้ว่าจะไม่ถูกใจใครบ้างผมก็ต้องขออภัย...เพราะผม “ตอแหล”ไม่เป็น
มามองดูพรรคเพื่อไทย...ก็น่าเห็นใจเพราะดวงของ “เขาคนนั้น” และดวงของ “คู่ชีวิตเก่า” รวมไปถึงผู้ประสานงานอยู่เบื้องหลังหลายๆคน “ดวงก็ไม่ดี” จำนวนมาก...ตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อปี 2550 ที่ผ่านมาต้องเสียแต่เงิน...เงิน...เงิน...ตลอดมาไม่สิ้นสุดจนถึงวันนี้ก็ ยังต้องดิ้นสุดเฮือก...ยามที่คนดวงไม่ดีก็คิดผิด...ทำผิดยิ่งดื้อยิ่งเสีย.. ยิ่งดั้นยิ่งพัง...เตือนไปในบทความก็หลายครั้ง...บ้านท่าแร้ง... คือบทความที่เขียนให้รู้ว่ามีแร้งลงมาถึงวันนี้เขาคนนั้นและอีกหลายคนใน เครือญาติพี่น้อง...ต้องกลุ้มและเครียดที่สุดตั้งแต่เข้ามาเล่นการเมือง... จะถอยก็ไม่ได้เพราะมีคดีหลายคดีจ่ออยู่...ถ้าเดินหน้าลุยก็ต้องทุ่มทุนครั้ง ใหญ่เป็นเดิมพันชีวิต...เพราะถ้าพลาดการเป็นรัฐบาลในปีนี้อำนาจและอนาคตจะ ต้อง “ดับสนิท” จนยากที่จะหวนกลับมาใหม่อีกครั้ง...ในปี พ.ศ. 2551-2522 เป็นปีที่โหดที่สุดเพราะ “ดวงดับ” จะต่อลมหายใจได้ก็ต้องใช้เงิน...เงิน...เงินจำนวนมากอีก...และหากสมมุติว่าได้เป็นรัฐบาล ถ้ายังแข็งขืนดื้อดึงจะให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อปลดล็อคตัวเองหรือพวกพ้อง...ก็จะต้องถูกต่อต้านอย่างรุนแรงอีกครั้งและรัฐบาลก็ “พัง”เหมือนกัน...ในยามนี้เขาคนนั้นคงจะตาสว่างบ้างในบางเรื่องว่า “ห้อยเ***้ยม” เพื่อชาติ..ไม่ได้เพื่อนาย...เคยเตือนมาหลายปีแล้วว่า...ของที่ท่าน “ห้อย” อยู่จะพาท่านไปตาย...ยังจำได้ไหม..
การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ “หินสุดๆ” ต้องระดมทุน “ปล้น” เพื่อตำแหน่ง “นายก” และอำนาจ...ซึ่งทุกฝ่ายต่างก็ต้องการแต่ “เขาคนนั้น” ชะตาชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย...แพ้เป็นตายทั้งเป็นและตายยกเล้า...เพราะจะ “ถูกน็อค” กลางอากาศ
ผมเขียนบทความในวันนี้ ผมเขียนด้วยความรู้สึกที่หดหู่...ใจหนึ่งรักแต่เกลียดความไม่มีศักดิ์ศรีของ พรรคการเมืองหนึ่ง..และรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าได้มาเป็นรัฐบาล...แต่อีกใจ หนึ่งก็สงสารอีกฝ่ายหนึ่งแต่การกระทำที่ผ่านมาในอดีต...ช่างใหญ่หลวงและเลว ร้ายหลายอย่างซึ่งอาจจะเกิดจากการกระทำของลูกน้องบริวารก็ได้เช่นกัน...บางครั้งคนเราไม่ควรที่จะ “หลงตัวลืมตน” การให้คนเกรงนั้นถือว่าเป็นผู้ที่มีอำนาจ...แต่บางครั้งการใช้อำนาจมากเกินไปก็ทำให้คนเกลียดได้เช่นกัน...ให้คนเกรงใจดีกว่าให้คนเกรงกลัว ...ท่านผู้อ่านคงจะตัดสินใจได้ว่า...สิ่งไหน...คนไหน...พรรคไหน...สมควรที่จะมาเป็นรัฐบาล..และที่สำคัญหากพรรคเก่ากลับมาเป็นรัฐบาล อนาคตของประเทศชาติบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร? ดีขึ้น...หรือเลวลง..นี่คือโจทย์ที่ทุกท่านต้องหาคำตอบ...หากจะให้มองกัน ตรงๆพูดกันชัดๆโดยไม่ต้องเกรงใจใคร...ดวงของทั้งสองฝ่ายไม่ดีตลอดปี 2552 ...เพียงแต่ว่าดวงของนายอภิสิทธิ์ ยังดีอยู่ในเดือนธันวาคม 2551 เพราะเป็นธาตุไม้ต้องการธาตุน้ำมาหนุน...ในปี 2550-2551 เป็นปีธาตุน้ำ ที่มาส่งเสริมดวงของคุณอภิสิทธิ์ และเดือนธันวาคมก็เป็นเดือนธาตุน้ำที่ให้คุณกับนายอภิสิทธิ์ แต่ต้องไม่เลยเดือนธันวาคมนี้...เพราะเป็นช่วงสุดท้ายของดวง
ในขณะเดียวกันดวงของ “เขาคนนั้น” ที่เป็นธาตุไฟ ซึ่งโดนเล่นงานมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2549 มาปี2551 นี้ยังเป็นธาตุน้ำ...เดือนธันวาคมก็เป็นธาตุน้ำ...ซึ่งมาทำลายธาตุไฟของ “เขาคนนั้น” อย่างเต็มที่..รวมทั้งดวงของอดีตภรรยาของ “เขาคนนั้น” ก็ไม่ดีสุดๆ...ทั้งดวงของอดีตนายกสมชาย วงศ์สวัสดิ์ก็ไม่ดี...ของคุณเยาวภาก็ไม่ดี…ของคุณยิ่งลักษณ์ก็ไม่ดี...แทบจะเรียกได้ว่า “รวมกันตายหมู่” นี่คือสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะดวง...ทำให้ “เขาคนนั้น” ต้องทุ่มทุนมา ตลอดแต่ไม่สมหวังสักครั้งตั้งแต่ได้ให้อดีตนายกสมัคร สุนทรเวช มาเป็นนายกก็ต้องล้มเหลว...มาถึงนายกสมชาย ก็ต้องสิ้นสุด...ซ้ำซวยซ้อนดันให้ นายชวรัตน์มารักษาการนายก...เขาเป็นใคร?...ประธานสภาเป็นใคร? จุดจบของ “เขาคนนั้น” ใกล้เข้ามาทุกขณะ เหมือนจุดเทียนท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำลงมา...หากว่า “เขาคนนั้น” ต้องการอำนาจคืนมา คิดว่า “เขาคนนั้น” ต้อง “ทุ่มทุนครั้งมโหฬาร” เพื่อต่อชีวิต...หากดูตามดวงว่ากันตามดวงจริงๆ “ยากส์” ตามที่ผมได้เขียนมาตลอด...แต่ชนกลุ่มใหญ่ของเขากลับคิดว่าผมใส่ไข่เขามาตลอด...ครั้งนี้คงจะรู้แล้วซิว่า ผมว่าไปตามดวงจริงๆ...ผมเครียดกับการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ อยากบอกตรงๆว่าผมรับไม่ได้กับคนบางกลุ่ม... “ในหมู่โจรยังมีสัจจะ” มากกว่า “ในหมู่นักการเมือง” ที่ไม่มีมิตรแท้...ศัตรูถาวร...
ผมภาวนา...อยากเห็นนายกคนกลางที่ลงมาจากฟ้าประทาน...เพื่อบ้านเมืองจริงๆผมไม่ปิดบัง...ไม่เอาใจใครถึงแม้ว่าผมไม่อยากเห็น “รัฐบาลทรราช” แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการนำบุคคลที่น่ารังเกียจมาโอบกอด...ใครจะชอบก็ชอบไป..แต่ผมขอใช้สิทธิ์ส่วนตัว...ไม่ชอบ...และรังเกียจออกหน้าตรงๆไม่อ้อมค้อม...เ***้ยก็คือเ***้ยวันยังค่ำ...จะกลายพันธุ์เป็นปลาเงินปลาทองได้หรือ...ผมขอรับผิดชอบกับคำทำนาย “ทิ้งทวน” ว่านายอภิสิทธิ์จะไม่ได้เป็น “นายก” และไม่กลับลำด้วยประการทั้งปวงทั้งๆที่รู้ว่าดวงของ “เขาคนนั้น”... “รอดยาก” เพราะรอถูกน็อคอยู่...ผมไม่อยากได้นายกจากพรรคการเมืองเลย เพราะในปัจจุบันยังมองไม่เห็นทางสงบของชาติบ้านเมือง...คอยดูต่อไปความฉิบหายจะเกิดจากน้ำมือของนักการเมือง...บ้านเมืองปั่นป่วนอย่างหนัก “เผาป่า...พังเมือง” ของจริงตอนต่อไป..
คนที่เคยเมลมาต่อว่าผมเอนเอียง...คงจะได้เห็นธาตุแท้ตัวตนของหมอนิดวันนี้...และคอยติดตามดู “หมอนิด” จะคว้าปังตอ...สับหมูบะช่อ..รัฐบาลถ้าทำไม่ดี..คงจะได้เห็น...มาม่าหมูสับ...ผมเคยพูดไว้แล้วว่า...ใครมาเป็น “นายก” ผมก็ต้องซื้อข้าวกินเอง...ผมรักความถูกต้อง...ไม่ชอบความถูกใจ..ไปๆมาๆกลาย เป็นว่า...หมอนิดสร้างศัตรูให้คนเกลียดทั้งสองฝ่าย...ฝ่ายแรกคนรักพรรคไทย รักไทย...มาถึงวันนี้เป็นพรรคเพื่อไทยที่ด่าผมมาตลอดในอดีตที่ผ่านมา...มาวันนี้ผมคงจะต้องเตรียมตัวต้อนรับคนรักพรรคประชาธิปัตย์...รับช่วงต่อมาด่า หมอนิด...เชิญครับท่านผมทนได้..
ผมคิดว่าวันนี้ผมเขียนบทความยาวที่สุดเท่าที่เคยเขียนมา...เพราะทำใจรับไม่ได้ที่เห็นเ***้ยเป็นพระเอก...ได้ราคา...ถอยเป็นหมา...เดินหน้า “ฆ่าชาติ” ...สร้างฐานรากเพื่อตัวเอง...แต่อีกใจหนึ่งก็พยายามคิดว่าก็ดีเหมือนกันจะได้ “หมามาฆ่าเสือ” ที่ผยอง... ครองอำนาจทุกองค์กร...เศร้าใจตัวเองที่คิดไม่ตก...จะเอาไงดีเมื่อไหร่หนอ ประเทศไทยจะไร้คนอัปรีย์มาครองเมือง...ศึกครั้งนี้คงจบไม่สวย! ผมคิดว่าคงจะมีแฟนๆพรรคประชาธิปัตย์พะอืดพะอมเหมือนผมไม่น้อย...กลืนไม่เข้า...คลายไม่ออก...
วันไหนที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล... “วันแดงเดือด” จะแผ่กระจายไปทั่วเหตุการณ์ “เผาป่า” คงต้องเกิดขึ้นอย่างรุนแรง...แต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามมาเป็นรัฐบาล “อำนาจเถื่อน” จะยิ่งใหญ่และครอบครองประเทศไทยไปยาวนาน...ก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่ง ถ้าผ่านพ้นไปถึงปีพ.ศ.2553 จะไม่มีใคร “ล้มเขาได้” นานแสนนาน...นี่เป็นการบ้านที่น่าคิด! ผมจึงเหมือนคน “น้ำท่วมปาก” บางครั้งรู้มากก็กลุ้มใจ...แต่ทุกอย่างและทุกสิ่งที่ผมทำมาตลอดก็เพื่อ “สถาบัน” ที่เคารพยิ่ง..
บางครั้งบางเรื่องพูดจากใจก็ทำให้คนเกลียด...แต่ผมไม่แคร์...เพราะผม อยากพูดอยากเขียนความจริง...หากท่านผู้อ่านที่ติดตามบทความของผมมาตลอดจะรู้ ว่าผมได้เขียนอะไรไปแล้วบ้างก็ลองเอามาปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆดู...แต่ยอมรับว่าผมผิดหวังกับพรรคประชาธิปัตย์มากในครั้งนี้ แต่เอาเถอะในเมื่อประเทศไทยยังไม่หมดเคราะห์...กรรมก็เป็นของประชาชน...ต่อไปไม่มีวันสิ้นสุด..
ผมขอสาบานว่านับจากนี้ไป...ไม่มีพรรคประชาธิปัตย์...มาอยู่ในใจผมตลอดไปในเมื่อกระสันต์อยากเป็นรัฐบาลอย่างไร้ศักดิ์ศรี...กูไปเอากะหรี่ยังมันส์กว่า...มาเสียเวลากับนักการเมือง “น้ำเน่า” พอได้ยินเสียงเคาะกะลา...ก็พากันกรูเข้ามาอนิจาผู้ยอมเสียสัตย์เพื่อชาติ
ถ้าตราบใดที่ยังไม่มี “นายก” คนซื่อมือสะอาดและมีความรู้ความสามารถพร้อมคณะรัฐมนตรี...ที่มาจาก “ฟ้าประทาน” ประเทศไทยไม่มีวันสงบ...แต่ภาวนาอย่าให้เป็นเหมือนรัฐบาลขิงแก่ที่ผ่านมาเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น