ชาวดิน ออนเน็ต

***อนิจา วาสนา ไพร่***

เรียกร้องเถอะ ร่ำหา กันให้ตาย
เคยบ้างไหม เคยได้ สิ่งที่หวัง
กราบแทบเท้า ติดดิน ร้องเสียงดัง
มีสักครั้ง บ้างไหม ใครเมตตา

สิ่งที่ขอ รอมา กี่ชาติแล้ว
ไร้วี่แวว สิทธิ ที่ใฝ่หา
เป็นแค่ไพร่ เขาชี้ เป็นอีกา
อย่าได้มา ร่วมหงส์ ดงผู้ดี
ร้องขอมา กี่ปี กี่ชาติแล้ว
ก็ไม่แคล้ว โดนด่า ฆ่าทุบตี
จากปู่ย่า มาถึง ทุกวันนี้
ถูกย่ำยี ไล่บี้ ให้จำนน
ตายแล้วสิบ เกิดใหม่ ได้เป็นแสน
แต่ขาแขน ถูกตรึง ด้วยเล่ห์กล
แล้วเมื่อไหร่ สิ่งนี้ จะหลุดพ้น
รับกฏโจร กฏหมาย ไร้ปราณี
อนิจา วาสนา ชะตาไพร่
ถูกใส่ร้าย กล่าวหา ว่าบัดสี
ทั้งหมอบกราบ ก้มไหว้ อย่างภักดี
แพ้วจี คนโฉด โป้ปดลวง
คงถึงครา แล้วหนา บรรดาไพร่
แม้ร่ำไห้ ร้องขอ ก็ช้ำทรวง
เขาไม่แล พวกเรา ไพร่ทั้งปวง
ต้องวัดดวง ทวงค่า ความเป็นคน


โดย ยรรยง ลูกชาวดิน

7 / มีนาคม / 2553
........


วันศุกร์, ตุลาคม 16, 2552

"สมบัติ เมทะนี"เข้าเป็นสมาชิกเพื่อไทยแล้ว เผยดาราคู่แฝด 'บิณฑ์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์' เตรียมจ่อมาร่วมด้วย

ที่มาข่าว ไทยรัฐออนไลน์ http://www.thairath.co.th/content/pol/39895

(15ต.ค.52) ที่พรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. ในฐานะประธานภาคกทม. ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวนายสมบัติ เมทะนี ดารานักแสดง พระเอกตลอดกาล และอดีตส.ว.กทม. เข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยนายสมบัติ กล่าวว่า การที่มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยเพราะได้รับการชักชวนจากนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นางเยาวเรศ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้มาร่วมงานจึงใจอ่อน และอยากช่วยชาติบ้านเมืองให้มีความสมานฉันท์ อีกทั้ง

ตนและครอบครัวชินวัตรรู้จักกันมานาน รู้จักตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สมัยยังเป็น ร.ต.อ. ความเกี่ยวพันมีมานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่สมัยตนยังเป็นนักแสดง ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะลงสมัครรับเลือกตั้ง กทม. เขตวังทองหลาง ลาดพร้าว ส่วนเพื่อนดารานักแสดงคาดว่านายเอกพันธ์ และบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ นักแสดง อาจจะตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยในไม่ช้านี้ จากนั้นนายยงยุทธและนายวิชาญ ร่วมกันสวมเสื้อแจ็กเก็ตพรรคเพื่อไทย ให้นายสมบัติ

นอกจากนี้ นายยงยุทธ กล่าวว่า หลังจากนี้พรรคจะทยอยเปิดตัวผู้หลักผู้ใหญ่ที่ตัดสินใจเข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทยเป็นระยะ ในวันที่ 16 ต.ค.จะมีการเปิดตัวอดีตนายทหารผู้ใหญ่อีก 1 คน และในสัปดาห์หน้าจะมีการเปิดตัวกลุ่มใหญ่แต่ละคนล้วนเป็นคนมีชื่อเสียง และมีความรู้ความสามารถ ขณะนี้พรรคกำลังพิจารณาตำแหน่งสำคัญในพรรคให้กับบุคคลเหล่านี้ ให้ได้ทำงานอย่างสมน้ำสมเนื้อกับความรู้ความสามารถ

"วันนี้เราก็เข้ามาช่วยงานในพรรคเพื่อไทยกันแล้วก็ไม่คิดว่าจะมีใครคิดกิน แหนงแคลงใจอะไรกันอีก สำหรับตำแหน่งของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธนั้น ขณะนี้กำลังพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งสำคัญเพื่อให้ทำงานตามความสามารถ อาจจะเป็นตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรค ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคสามารถแต่งตั้งได้เลย" นายยงยุทธ กล่าว




.....................................................

โครงการแดงช่วยแดง จ.นนทบุรี(ฉบับแก้ไข)
โครงการแดงช่วยแดง เป็นโครงการสวัสดิการที่จัดขึ้นเพื่อคนเสื้อแดงโดยกลุ่ม"แดงนนท์บางกรวย"

ขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดงานใหม่เป็น "วัดโพธ์เผือก"(มาจากพระราม7อยู่เลยวัดจันทร์ไป700เมตร)

จึงเรียนมาเพื่อช่วยกันประชาสัมพันธ์ และเรียนมาเพื่อทราบ
http://www.rednon.org/forum/index.php?topic=595.०
.....................................................
โรงเรียน นปช. โรงเรียนแดงทั่วไทย โรงเรียนประชาธิปไตย เปิดรับทั่วไปทุกเพศวัยไม่จำกัด


โรงเรียน นปช. โรงเรียนแดงทั่วไทย โรงเรียนประชาธิปไตย เปิดรับทั่วไปทุกเพศวัยไม่จำกัด

โรงเรียน นปช.โรงเรียนประชาธิปไตย เป้าหมายสำคัญยิ่งใหญ่ จะสู้อย่างไรก้าวไปให้ถูกทาง ถกเเถลงกันให้กระจ่าง กำหนดแนวทางและวางท่าที จุดร่วมจุดแตกต่างมี จัดการให้ดีเราย่อมมีชัย โรงเรียนไม่มีนกหวีด เป่าปี๊ด ๆ ปลุกใคร ไม่มีระฆังแขวนไว้ ให้ครูใหญ่คนไหนมาตี มีแต่นาฬิกาใจ นัดเมื่อไรทันที รู้ผิดชอบชั่วดี ไม่มีใครชี้สั่งทำจำใจ โรงเรียน นปช. โรงเรียนประชาธิปไตย ยุทธศาสตร์ใกล้ไกลอย่างไร นโยบายขยายทำความ

ยุทธวิธีชี้นำ เคี้ยวกรำจดจำชำนาญ ปรับปรุงพัฒนาแผนงาน สามัคคีวิจารณ์สืบสานสร้างพลัง
ยกระดับปรับขบวนมวลไทย ยืดเยื้อยาวไกล สู้ต่อไปตลอดกาล."

(เนื้อเพลง"โรงเรียน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน" โดย...วิสา คัญทัพ)
ผ่านไปอีก 1 รุ่น สำหรับนักเรียนของ "โรงเรียนผู้ปฎิบัติงาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน" ซึ่งเปิดหลักสูตรอบรมแนวทางการต่อสู้ ให้กับบุคคลระดับแกนนำคนเสื้อแดง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ระหว่างวันที่ 3-4 ตุลาคม 2552 ณ โรงแรมแก่นอินทร์ จังหวัดขอนแก่น

ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากจัดมาแล้วครั้งหนึ่งที่ กทม.
วันแรก 3 ตุลาคม 2552 ซึ่งตามกำหนดเปิดลงทะเบียนเวลา 08.00 น. แต่ปรากฎว่ามีนักเรียน นปช.จำนวนหลายสิบท่าน ไปถึงโรงเรียน

ตั้งแต่ 04.00-05.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ฟ้ายังไม่สว่างเลย แสดงว่า นักเรียน นปช.มีความกระตือรือร้น ในการที่จะเข้ารับการเรียนรู้มากจริง ๆ

หลังจากลงทะเบียนเสร็จ นักเรียน นปช.กว่า 600 คน เริ่มทยอยเข้าห้องเรียน ครูสันทนาการ(ครูวิสา คัญทัพ,ครูไพจิตร อักษรณรงค์)พาซักซ้อมร้องเพลง"โรงเรียน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน"(ตามเนื้อร้องข้างต้น) จากนั้นผู้อำนวยการโรงเรียน(ครูนิสิต สินธุไพร)กล่าวต้อนรับนักเรียน

ตามด้วยประธานที่ปรึกษาโรงเรียน(ครูวีระ มุกสิกพงศ์) กล่าวเปิด เสร็จแล้วก็เข้าสู่กระบวนเรียนการสอนตามลำดับ
เริ่มจาก ภาคเช้า
- แนวทางการเมืองและหลักนโยบายของ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน (ครูธิดา ถาวรเศรษฐ)
- เนื้อหาและโครงสร้างของระบอบอำมาตยาธิปไตย (ครูวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย)
- แนวคิดและอุดมการณ์ประชาธิปไตย (ครูณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ)

ภาคบ่าย - แนวทางสันติวิธี และบทเรียนประวัติศาสตร์ของขบวนการการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย (ครูจรัล ดิษฐาอภิชัย)
- การจัดตั้งและการสร้างแนวร่วม (ครูเหวง โตจิราการ)
- "วิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน และอนาคต (ครูจตุพร พรหมพันธุ์, ครูจำลอง ครุฑขุนทด, ครูอดิศร เพียงเกษ /
โดยครูสุทิน คลังแสง เป็นผู้ดำเนินรายการ)หัวข้อนี้เรียกเสียงฮาได้ตลอด โดยเฉพาะครูอดิศร (เจ้าของตำนานแคนการเมือง)จนนักเรียนไม่อยากให้ลงเวที

ในการเรียนการสอนในวันแรกนี้ มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์พีเพิลชาแนลไปทั่วโลก ซึ่งท่านผู้อ่านที่สนใจก็คงได้ติดตามรับชมไปแล้ว

บรรยากาศในห้องเรียนดีมาก ๆ แอร์เย็นสบาย แต่ปรากฏว่า ไม่มีนักเรียนคนใดหลับในห้องเรียนเลย นักเรียนทุกคนตื่นตัวตลอดเวลา กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้มาก
ส่วนเนื้อหาและรายละเอียดนั้นเยอะมาก จึงขอนำที่สำคัญ ๆ มาเล่าในที่นี้ คือ
1. เป้าหมายของ นปช.
2. ยุทธศาสตร์การต่อสู้ของ นปช.
3. ยุทธวิธีในการต่อสู้ และ
4. สิ่งที่ นปช.เรียกร้องต้องการ

1) เป้าหมาย ได้แก่
(ก) เป้าหมายเฉพาะหน้า คือ โค่นรัฐบาลอำมาตยาธิปไตย และกระบวนการ"อยุติธรรม"
(ข) เป้าหมายระยะกลางคือ ยกเลิกรัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2550 และผลิตผลของ คมช.
(ค) เป้าหมายระยะยาว คือโค่นล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย

2) ยุทธศาสตร์
(ก) การเดินด้วย 2 ขา ขาที่ 1 ได้แก่การต่อสู้ของขบวนการคนเสื้อแดง ขาที่ 2 ได้แก่การต่อสู้ของ ส.ส.ในสภา
(ข) การทำงานด้วย 2 แขน แขนที่ 1 คือกลุ่มมวลชนคนรากหญ้า แขนที่ 2 คือ กลุ่มผู้รักประชาธิปไตย รักความเป็นธรรม กลุ่มอื่น ๆ
(ค) มีการต่อสู้ใน 4 เขต คือ เขตชนบท, เขตเมือง, เขตกรุงเทพ/ปริมณฑล และเขตต่างประเทศ

3) ยุทธวิธี
(ก) การเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลที่มาโดยมิชอบ
(ข) การทวงถามถึงความยุติธรรม
(ค) เปิดเกมรุกในการต่อสู้ทางกฎหมาย
(ง) เปิดโปงความชั่วร้ายของพวกอำมาตย์ และรัฐบาลนอมินี(ประเภท ป๋าดัน ทหารอุ้ม กลุ่มพันธมารสนับสนุน)
(จ) เปิดเกมรุกด้านการสื่อ เช่น โทรทัศน์ช่องพีเพิลชาแนล หนังสือพิมพ์ที่มีคุณภาพ (อย่างเช่นไทยเรดนิวส์) เว็บไซต์ และวิทยุชุมชน

4) สิ่งที่ นปช.เรียกร้องต้องการ และให้นักเรียน นปช.ยืดถือเป็นแนวทาง คือ
(ก) ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
(ข) โค่นล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย
(ค) ต่อสู้ด้วยสันติวิธีเท่านนั้น
(ง) พัฒนาเศษฐกิจและการเมืองให้ดีขึ้น
(จ) ความเป็นนิติรัฐ นิติธรรม และ
(ฉ) ต้องนำรัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2540 กลับคืนมาใช้

นอกจากที่กล่าวมา 6 ข้อนี้แล้ว ไม่ใช่แนวทางของ นปช. และให้แกนนำทุกคนยึดถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด

วันที่สอง ของการเรียน 4 ตุลาคม 2552 เริ่มจาก
ภาคเช้า เวลา 09.00-12.00 น. เข้มข้นมาก เพราะเป็นการระดมความคิดเห็นของนักเรียน นปช.ซึ่งแยกออกเป็น 12 กลุ่มยอย
ช่วยกันหาคำตอบโจทย์หัวข้อศึกษาที่ว่า
(1) ท่านมีวิธีการปฏิบัติอย่างไรเพื่อเพิ่มจำนวนพลังมวลชนคนเสื้อแดง
(2) ท่านมียุทธวิธีอย่างไรเพื่อเอาชนะระบอบอำมาตยาธิปไตย

ภาคบ่าย จากเวลา 13.00-15.00 น.โดยครูณัฐวุฒิ ได้ให้นักเรียนซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่ม (กลุ่มละ 3-5 คน) ขึ้นไปบนเวทีหน้าห้องเรียนเพื่อนำเสนอข้อคิดเห็นที่ได้เป็นยุติของกลุ่มตน(กลุ่มละ 10 นาที) ในหัวข้อศึกษาที่ได้ระดมความคิดเห็นกันมาในภาคเช้านั้นเอง ซึ่งแต่ละกลุ่มก็ได้นำเสนอแนวคิดของกลุ่มตน เยอะแยะมากมายน่ารับฟังทั้งนั้น โดยครู ณัฐวุฒิ ฯ ก็ได้เก็บรวบรวมเพื่อนำเสนอกรรมการ นปช.ใหญ่เพื่อกำหนดเป็นโยบายการต่อสู้หลังจากเปิดโรงเรียนครบ 4 ภาคแล้ว

ขั้นตอนสุดท้าย เมื่อเวลา 15.00 - 16.00 น.ประธาน นปช.ได้ขึ้นมอบวุฒิบัตรให้แก่ตัวแทนนักเรียน 19 จังหวัด แล้วกล่าวปิดประชุม

ปิดท้ายด้วยครู และนักเรียนร่วมร้องเพลง"สัญญาใจเราไม่ทิ้งกัน" เป็นจบการเรียนการสอนลงโดยสมบูรณ์แบบ
ในวันที่สองของการอบรม เป็นวันที่เข้มข้นมาก ๆ จากการสังเกตุของผู้เขียน ได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่าง ของแกนนำคนเสื้อแดง
ในทางที่เป็นบวกมากขึ้น ซึ่งขอนำมากล่าวในที่นี้ คือ

1. ขบวนการของคนเสื้อแดงนั้น ไม่ได้โดดเดี่ยวมีเฉพาะคนรากหญ้าเท่านั้น เพราะขบวนการคนเสื้อแดงได้ขยายวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ ถึงคนทุกชนชั้นที่มีความรักประชาธิปไตย รักความเป็นธรรม ในการเรียนครั้งนี้ก็มีคนทุกวงการเข้าร่วมเรียนด้วย เช่น ข้าราชพลเรือน ครู อาจารย์ ทหาร ตำรวจ (ยศตั้งแต่พันเอกลงมา) พ่อค้า เกษตรกร นักวิชาการ นักกฎหมาย ทนายความ นักจัดรายการ นักเคลื่อนไหว นักธุรกิจ ฯลฯ

2. ขบวนการคนเสื้อแดง กล้าเปิดเผยตัวเองมากขึ้น ด้วยสาเหตุแห่งความไม่ยุติธรรม ด้วยระบบกฎหมายแบบ 2 มาตรฐาน ทำให้มวลชนคนเสื้อแดงกล้าประกาศเปิดเผยตัวตน เปิดหน้าชก กับพวกอำมาตยา โดยไม่เกรงกลัว ไม่มีลับ ลวง พราง อีกต่อไป บางท่านเป็นนักวิชาการ บางท่านเป็นทหารบางท่านเป็นตำรวจ มีตำแหน่งหน้าที่เป็นถึง รองผู้กำกับสถานีตำรวจ ยังกล้าด่าอำมาตย์ ผ่านพีเพิลชาแนลไปทั่วโลก และยังบอกดัง ๆผ่านพีเพิลชาแนลอีกว่า "กูไม่กลัวมึง" อย่างนี้ "รัฐบาลอำนาจนิยม" และพวก "อำมาตย์" ได้ฟังแล้วคงของขึ้นไปหลายวันแน่

3. ขบวนการคนเสื้อแดง มีคนระดับปัญญาชนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้เห็นได้จากผู้ที่เข้าเรียน มีระดับ ป.ตรี ป.โท ป.เอก จำนวนมาก
ส่วนระดับ ม.ปลาย ปวช.ปวส. ก็มีเยอะ นั้นแสดงว่ายังมี "ปัญญาชน" อีกจำนวนมากที่ไม่ได้เป็น "ปัญญาชนห่างเครื่องของอำมาตยา"

4. ขบวนการคนเสื้อแดง เก็บกดกับอำมาตย์ เก็บกดกับรัฐบาล เก็บกดกับกระบวนการ"อยุติธรรม" กันมาก สังเกตุได้จาก
นักเรียน นปช.ที่ขึ้นนำเสนอหน้าห้องเรียน หากใครมีโอกาสแสดงความคิดเห็น พอได้โอกาสจับไมค์ก็ใส่ไม่ยั้ง แรงยิ่งกว่าแกนนำ "สามเกลอ"บนเวทีที่ท้องสนามหลวงเสียอืก จากที่ได้เข้าไปเป็น "นักเรียน นปช." 2 วัน 1 คืน ทั้งดูจากเนื้อหาในเอกสารการเรียนการสอน ฟังจากครูผู้สอนที่บรรยายหรือจากเหล่านักเรียนทั้งหลาย ที่เข้าเรียนแสดงความคิดเห็นกัน ก็มีแต่เรื่องการเรียกร้องประชาธิปไตย การเรียกร้องความเป็นธรรมเรียกร้องความยุติธรรม ซึ่งก็เป็นเรื่องที่จะเป็นผลดีกับสังคมทั้งนั้น ผู้เขียนจึงได้พบความจริงว่า ที่พวก"รัฐบาลอำนาจนิยม" และพวก"อำมาตยา"ทั้งหลายกล่าวหาว่า "โรงเรียน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน เป็นโรงเรียนคอมมิวนิสต์ เป็นโรงเรียนของพวกคิดล้มล้างสถาบันฯ"นั้น ไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด

"ข้อกล่าวหา"ที่พวกเขาพากันตั้งให้กับ"โรงเรียน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน"นั้น มันคือ "การใส่ร้ายป้ายสี"จากพวกจิตทรามเท่านั้นเอง
ในอนาคตถ้าพวกสมุนอำมาตย์"จิตทราม"ทั้งหลายเหล่านี้ ไม่ปรับเปลี่ยนสันดานเดิม ๆ ของพวกเขา คงสักวันไม่นานเกินรอพวกเขา
จะได้รู้จักคำว่า "นรกมีจริง"เพราะว่า "โรงเรียน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน" แห่งนี้ เริ่มจะมีศิษย์เก่ามากขึ้น ๆ
จึงขอฝากเตือนดัง ๆ ไปยังพวก "รัฐบาลอำนาจนิยม" และพวก "อำมาตยา" ทั้งหลายว่า จงระวังปากอย่า "บังอาจ" ไปใส่ร้ายป้ายสี "สถาบัน" โรงเรียนผู้ปฎิบัติงาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน เขาลอย ๆ โดยไม่มีหลักฐาน เพราะนักเรียน นปช. และ"ศิษบ์เก่า"ทุกคน
เขาก็มีศักดิ์ศรี "รักสถาบันฯ(โรงเรียน)" เช่นเดียวกับพวกคุณนั้นแหละ "อำมาตย์" เอ๋ย @

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก