บทความโดย ใหญ่ บางซื่อ ที่มาจาก thaienews.
๖ มค.๒๕๕๒
บทความนี้ มีเจตนาจะสืบเนื่องจากบทความเรื่อง คุณธรรมไม่กลับ คนไทยจะหลับไม่ตื่น ซึ่งได้นำเผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้ว ในบทความนั้น ได้แสดงให้เห็นว่า สังคมไทยกำลังถูกครอบงำของผู้มิอิทธิพลที่มีพฤติกรรมไร้คุณธรรม ในสภามีพรรคประชาธิปัตย์ทำทุกทางที่จะเป็นรัฐบาลให้ได้ และขณะที่เขียนบทความนี้ก็ได้เป็นสมใจแล้ว
นอกสภาก็มีพวกพันธมิตรฯทำทุกทางที่ทำให้ฝ่ายตรงกันข้ามกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะพรรคพลังประชาชนที่เป็นแกนนำเป็นรัฐบาลอยู่ ให้พ้นไป ไม่ว่าการกระทำนั้นจะมีข้อหาขบถ และก่อการร้ายนานาชาติ ก็ตาม และก็ทำสำเร็จถึงขั้นต้องยุบพรรคพลังประชาชน ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ทำการอันไร้จรรยาจนได้เป็นรัฐบาล
ผู้อยู่เบื้องหลังในความสำเร็จของการเข้าสู่อำนาจทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ คืออำมาตย์ใหญ่ที่สนับสนุนโดยอดีตข้าราชการ ข้าราชการ นักวิชาการ นักวิชาชีพ นายทุน นักการธนาคาร มิจฉาชีพ ฯลฯ เข้าไปคุมอำนาจอธิปไตยบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ และได้คุมอำนาจของทหาร ตำรวจ จนทำคนไม่ดีได้ขึ้นไปเป็นใหญ่ และหาประโยชน์ทั้งโดยชอบและมิชอบ เป็นอันตรายใหญ่หลวงต่อสังคมไทย
คนกลุ่มนี้ หลายท่านเรียกว่า เป็นพวกทุนเก่า ที่มีอดีตข้าราชการ และข้าราชการเป็นแกนนำ ทำมาหากินอยู่กับการแต่งตั้งพรรคพวกเข้าไปในตำแหน่งสำคัญในราชการ และรัฐวิสาหกิจ การฉ้อราชบังหลวงจากการจัดซื้อ จัดจ้าง การกินสินบนจากสัมปทานต่างๆ การหากินกับภาคเอกชนด้วยการลดมาตรฐาน ด้วยการทำกิจกรรมทุจริต แล้วผลักภาระการเงิน และภัยให้คนส่วนใหญ่ ฯลฯ
ผลของการกระทำของคนกลุ่มนี้ ทำให้เกิดความอ่อนแอในการบริหารจัดการทั้งภาครัฐและเอกชน ประชาชนชนส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อน ประเทศไม่สามารถอยู่ในโลกของการแข่งขันได้อย่างปลอดภัย และมีศักดิ์ศรี
ที่น่าเป็นห่วงอย่างที่สุดก็คือ คนกลุ่มนี้ไม่น้อยเลยที่เข้าไปแอบแฝงพระราชอำนาจหากินผ่านสำนักพระราชวัง ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ราชพัสดุ จนเป็นที่ระคายเคืองเบื้องยุคลบาทจนหลายท่านเห็นว่าเป็นการบ่อนทำลายสถาบันอย่างชัดเจน
โดยสรุปก็คือ ประเทศไทยกำลังอยู่ในอันตรายโดยคนกลุ่มหนึ่งที่แอบใช้อำนาจอธิปไตยแทนพระมหากษัตริย์โดยไม่สนใจประชาชนไทยหมู่มาก มุ่งประโยชน์ตน เพื่อความเป็นใหญ่แห่งตน โดยยอมทำการอันไม่ชอบอย่างทุกอย่างเพื่อความเป็นใหญ่ ได้ครองอำนาจ
เรายอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้สถานการณ์ ทุนเก่า เผด็จการ กลุ่มคนไม่ดีครองเมือง เราต้องการระบอบประชาธิปไตยที่มีการยอมรับความมีสิทธิเท่าเทีอมกันของประชาชนทุกผู้ทุกนาม โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข(ไม่ใช่พวกมาแบบใช้อำนาจอยู่ขณะนี้)
ความต้องการนี้จะไม่มีทางสำเร็จถ้าไม่มีความมุ่งมั่นสูง การจัดตั้งที่ดี และมีความอดทนอดกลั้นสูง เพราะการจะจัดการให้คนกลุ่มนี้พ้นจากอำนาจ เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้กำลังจัดการได้อย่างรวดเร็ว เพราะเขามีประโยชน์และมีการจัดตั้งกันมาเป็นเวลานาน
ที่สำคัญจะต้องคิดว่า การดำเนินการครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อการต่อสู้เพื่อให้คนกลุ่มนี้พ้นจากอำนาจไปเท่านั้น จะต้องพิจารณาไปถึงว่า เมื่อประชาธิปไตยกลับมาแล้ว เราจะทำอย่างไรที่ทำให้ประเทศไทยมีธรรมาภิบาลที่ก้าวหน้าอย่างมั่นคงอีกด้วย
เพื่อบรรลุผลดังกล่าว ขอนำเสนอแนวทางของแผนระยะสั้น แผนระยะกลาง และแผนระยะยาว ดังนี้
แผนระยะสั้น ภายในปี ๒๕๕๒
พรรคเพื่อไทยควรเป็นแกนในการดำเนินการดังนี้
๑. ต้องรีบจัดการพรรคให้มีความเข้มแข็งโดยเร็ว ควรใช้แนวคิดเรื่องการทำให้พรรคเป็นสถาบันที่มีการบริหารจัดการที่เข้มแข็งโดยเร็วโดยประโยชน์จากนักประชาธิปไตยที่สวมเสื้อสีแดงสร้างเครือข่ายไปจนถึงระดับหมู่บ้าน พร้อมสร้างระบบการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ การฝึกอบรม เพื่อสร้างแรงสนับสนุนที่เข้มแข็ง
๒. ต้องจัดระบบข้อมูลข่าวสารที่มีประสิทธิภาพ ตรวจสอบได้ โดยเร็ว เพื่อการรู้เขา และรู้เราเพื่อดำเนินการ ดังนี้
• เร่งรัดให้มีการเอาผิดทั้งอาญาและแพ่งแก่กลุ่มพันธมิตรโดยเร็ว
• ตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษไม่ให้รัฐบาลเอางบประมาณไปช่วยกลุ่มพันธมิตรฯไม่ว่ากรณีใดๆ
• ติดตามอย่างเข้มงวดจากต้นทางจนถึงปลายทางในการใช้เงิน ไม่ให้มีการทุจริตคดโกงได้ในหมู่นักการเมือง ข้าราชการ และภาคเอกชนที่ขาดคุณธรรม
• ป้องกันอย่าให้รัฐบาลนี้กู้เงินจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจาก imf เพราะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถืออย่างร้ายแรงอย่างที่พรรคนี้ได้เคยทำมาแล้ว ทั้งยังเป็นช่องทางที่ทำให้กลุ่มคนที่ไร้ยางอายกลุ่มนื้ฉ้อโกงเงินกู้ได้อีกด้วย
๓. ต้องวางกลยุทธ์เฉพาะหน้าอย่างเรียงลำดับให้ถูกต้อง เกี่ยวกับ การทำให้พรรคประชาธิปัตย์พ้นหน้าที่โดยเร็ว การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการยุบสภา การเรียงลำดับผิดอาจอยู่ในฐานะเพรี่ยงพร้ำได้
๔. แสดงให้ชัดเจนถึงความยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
๕. ต้องเตรียมการเรื่องการเลือกตั้งอย่างรอบคอบ สามารถต่อต้านกลโกงต่างๆได้ และใช้ประโยชน์จากบารมีของฯพณฯทักษิณ ชินวัตร ให้เป็นและต้องเข้าไปใช้อำนาจรัฐให้ได้
แผนระยะกลาง ระหว่าง ปลายปี ๒๕๕๒ – ๒๕๕๖
เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี ๒๕๕๐ ไม่ง่าย เพราะแหล่งอำนาจของกลุ่มคนไม่ดี การต่อสู้จึงต้องเน้นข้อ ๕ ของแผนระยะสั้น แล้วในช่วงนี้ เมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้ว ควร
๑. ใช้นโยบายซ่อมบางส่วน และเน้นการสร้างตามที่ฯพณฯทักษิณ ชินวัตร ได้วางไว้ และควรเป็นระยะสร้างคน(ลงทุนทางการศึกษาให้เกินร้อยละ ๕ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมฯ) ที่มีคุณภาพทำงานเป็นทำงานเก่ง มีวัฒนธรรมประชาธิปไตย มีจิตใจตื่นอยู่เสมอ สร้างความรู้(วิจัยสร้างองค์ความรู้เองทั้งด้านสังคมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ที่เป็นที่พึ่งของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้อย่างแท้จริง –แทนการซื้อหรือนำเข้า) และ สร้างงาน กระจายงานให้เต็มที่
๒. สร้างความเข้มแข็งของพรรคการเมือง อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้เป็นสถาบันที่ไว้ใจให้ดูแลประเทศไทยในระยะยาว เช่นประเทศเจริญแล้ว
๓. เริ่มยกเครื่องการบริหารจัดการประเทศทำให้ระบบราชการ รัฐวิสาหกิจ เป็นระบบคุณภาพปลอดจากการฉ้อราษฎร์บังหลวง มีธรรมาภิบาล ทั้งมีระบบสารสนเทศที่ดี ตรวจสอบได้ และอาจมีความจำเป็นต้องเข้าไปเกี่ยวข้องช่วยในหน่วยงานส่วนพระองค์ให้ปลอดจากพวกแอบแฝงพระราชอำนาจหาประโยชน์ส่วนตัว และแอบบ่อนทำลายพระราชอำนาจอย่างทุกวันนี้
๔. ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้ในระยะนี้
แผนระยะยาว ปี ๒๕๕๖ เป็นต้นไป
ระยะนี้ เชื่อว่าพวกคนไม่ดีจะอ่อนแรงลง หรือ กลับมามีสำนึกที่ถูกต้อง เริ่มมีคุณธรรมมากขึ้น จึงควรเป็นยุคเริ่มต้นที่ชัดเจนที่สังคมไทย เป็นสังคมของคนมีคุณธรรม และวัฒนธรรมประชาธิปไตยชัดเจน ขึ้น หมายถึง ความเป็นประเทศเจริญแล้วฉายแววชัดเจน พร้อมเป็นสังคมที่ทุกคนมีความสุขทั่วหน้า รัฐบาลควรดำเนินการดังนี้
๑. พัฒนาการบริหารจัดการพรรคการเมืองให้ก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ สู่ความเป็นเลิศ
๒. ลงทุนในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และองค์ความรู้ ให้สามารถเป็นผู้นำทางภูมิปัญญาสมกับเป็นสังคมพุทธอย่างแท้จริง
๓. ปฏิรูประบบบริหารจัดการประเทศให้สมบูรณ์ เป็นธรรมาภิบาลเต็มที่ สามารถอยู่ในสังคมโลกได้อย่างมีศักดิ์ศรี
ทั้งหมดนี้เป็นข้อเสนอเพื่อการเอาชนะกลุ่มคนไม่ดีอย่างสันติ จึงต้องการความมุ่งมั่นในจิตใจของผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้นำทั้งในและนอกพรรคเพื่อไทย หรือแม้พรรคอื่นๆที่มีใจเป็นธรรม และกลุ่มชาวเสื้อแดง พร้อมต้องมีการจัดตังองค์กรที่มีความเข้มแข็งมีธรรมาภิบาล รวมทั้งทุกคนที่กล่าวมาจะต้องมีความอดทนอดกลั้นทำหน้าที่ไม่สำเร็จไม่เลิก เช่นนี้ สังคมไทย จะพ้นมือมารก้าวหน้าสู่ความรุ่งโรจน์ของปวงชนชาวไทย ได้อย่างแท้จริง ต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น