“ผู้นำหน้าตัวเมีย” ถอยไม่ขอชน นปช. สั่งย้ายการประชุมอาเซียนซัมมิท ไปจัดที่หัวหินแทน เพื่อความสงบเรียบร้อย ขณะที่รปภ.ทำเนียบฯ กำเริบ! ประเมินเสื้อแดงคงมาป่วนทุกวัน ประสานขอกำลังตร.มาหนุนเพิ่ม
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า หลังจากที่กลุ่มเสื้อแดงได้เดินทางมาชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลติดต่อกันถึง 2 วันแล้ว นับจากเปิดทำการหลังปีใหม่เป็นต้นมา ทางหน่วยรักษาความปลอดภัยของทำเนียบรัฐบาลได้หารือกันและได้รับรายงานว่า ทางกลุ่มเสื้อแดงจะมาชุมนุมที่หน้าที่ทำเนียบรัฐบาลในลักษณะเช่นนี้ทุกวัน เพื่อสังเกตการณ์ว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลทำอะไรบ้าง รวมทั้งจะมีการแสดงกิจกรรมหรือก่อความวุ่นวาย เช่นการปาไข่อย่างต่อเนื่อง ทางหน่วยรักษาความปลอดภัยจึงได้ประสานไปยังสน.ดุสิต และสน.นางเลิ้งเพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่มาสนับสนุนที่ทำเนียบรัฐบาลเพิ่มขึ้นเป็นประจำ
อีกด้านหนึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 14 (อาเซียนซัมมิท) ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจากในกรุงเทพฯ เป็นอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 27 ก.พ.ถึงวันที่ 1 มี.ค 2552 โดยการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจย้ายสถานที่จัดการประชุม นอกจากนั้นยังได้รับคำแนะนำจากฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่เห็นว่า อ.หัวหินง่ายแก่การรักษาความปลอดภัย
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นเรื่องปกติไม่แตกต่างจากการเคลื่อนไหวที่ผ่านมาๆ อย่างไรก็ตาม ถ้ายืนยันจะจัดการประชุมที่กรุงเทพฯก็ยืนยันได้ แต่การชุมนุมอะไรต่างๆ โดยเฉพาะการประกาศจะขัดขวาง ก็ไม่อยากให้เกิดปัญหา เหมือนกับที่ยอมตามที่ประธานรัฐสภานัดย้ายแถลงนโยบายนอกสถานที่ เพราะไม่ต้องการเห็นคนไทยเสียเลือดเนื้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสั่งย้ายสถานที่ประชุม เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลชุดก่อน ประกาศที่จะเคลื่อนไหวคัดค้านการจัดประชุมดังกล่าว โดยอ้างความไม่ชอบธรรมที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีเรียกร้องให้ฝ่ายค้าน ร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีในการจัดประชุมอาเซียนซัมมิทว่า พรรคเพื่อไทยช่วงที่เป็นรัฐบาลพยายามจัดการประชุมดังกล่าว แต่ไม่สำเร็จ เพราะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ได้แสดงท่าทีชัดเจนในการร่วมมือจัดการประชุมแต่อย่างใด
"แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยพร้อมให้ร่วมมือสนับสนุน เพราะเห็นว่าเพื่อประเทศชาติ แต่อยากให้แยกแยะว่า ความชอบธรรมของรัฐบาลที่มาไม่ถูกต้อง กับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเป็นคนละเรื่องกัน"นายวิชาญกล่าว
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า หลังจากที่กลุ่มเสื้อแดงได้เดินทางมาชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลติดต่อกันถึง 2 วันแล้ว นับจากเปิดทำการหลังปีใหม่เป็นต้นมา ทางหน่วยรักษาความปลอดภัยของทำเนียบรัฐบาลได้หารือกันและได้รับรายงานว่า ทางกลุ่มเสื้อแดงจะมาชุมนุมที่หน้าที่ทำเนียบรัฐบาลในลักษณะเช่นนี้ทุกวัน เพื่อสังเกตการณ์ว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลทำอะไรบ้าง รวมทั้งจะมีการแสดงกิจกรรมหรือก่อความวุ่นวาย เช่นการปาไข่อย่างต่อเนื่อง ทางหน่วยรักษาความปลอดภัยจึงได้ประสานไปยังสน.ดุสิต และสน.นางเลิ้งเพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่มาสนับสนุนที่ทำเนียบรัฐบาลเพิ่มขึ้นเป็นประจำ
อีกด้านหนึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 14 (อาเซียนซัมมิท) ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจากในกรุงเทพฯ เป็นอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 27 ก.พ.ถึงวันที่ 1 มี.ค 2552 โดยการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจย้ายสถานที่จัดการประชุม นอกจากนั้นยังได้รับคำแนะนำจากฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่เห็นว่า อ.หัวหินง่ายแก่การรักษาความปลอดภัย
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นเรื่องปกติไม่แตกต่างจากการเคลื่อนไหวที่ผ่านมาๆ อย่างไรก็ตาม ถ้ายืนยันจะจัดการประชุมที่กรุงเทพฯก็ยืนยันได้ แต่การชุมนุมอะไรต่างๆ โดยเฉพาะการประกาศจะขัดขวาง ก็ไม่อยากให้เกิดปัญหา เหมือนกับที่ยอมตามที่ประธานรัฐสภานัดย้ายแถลงนโยบายนอกสถานที่ เพราะไม่ต้องการเห็นคนไทยเสียเลือดเนื้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสั่งย้ายสถานที่ประชุม เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลชุดก่อน ประกาศที่จะเคลื่อนไหวคัดค้านการจัดประชุมดังกล่าว โดยอ้างความไม่ชอบธรรมที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีเรียกร้องให้ฝ่ายค้าน ร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีในการจัดประชุมอาเซียนซัมมิทว่า พรรคเพื่อไทยช่วงที่เป็นรัฐบาลพยายามจัดการประชุมดังกล่าว แต่ไม่สำเร็จ เพราะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ได้แสดงท่าทีชัดเจนในการร่วมมือจัดการประชุมแต่อย่างใด
"แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยพร้อมให้ร่วมมือสนับสนุน เพราะเห็นว่าเพื่อประเทศชาติ แต่อยากให้แยกแยะว่า ความชอบธรรมของรัฐบาลที่มาไม่ถูกต้อง กับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเป็นคนละเรื่องกัน"นายวิชาญกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น