“มาร์ค” เสียงแข็ง ไม่หวั่น “นปช.” ระดมพลต้าน ย้ำรัฐบาลอยู่ระหว่างทำความเข้าใจกับ “ชาวเสื้อแดง” ส่วนการปาไข่คงต้องช่วยกันห้ามปราม ลั่น! จะจัดการเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเว้นฯ
วันที่ 11 ม.ค. 2552 เวลา 10.00 น. ที่โรงเรียนสวัสดีวิทยา ซอยสุขุมวิท 31 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวอีกครั้งในวันที่ 12 ม. ค.นี้ว่า การแสดงความคิดเห็นและสิทธิตามระบอบประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ทำได้ โดยรัฐบาลจะไม่เข้าไปดำเนินการใดๆที่เป็นการขัดขวาง แต่ต้องไม่ทำให้บ้านเมืองเสียหายหรือเป็นการใช้ความรุนแรง ผิดกฎหมาย
เมื่อถามต่อว่า นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดรฯ ประกาศว่าจะมีการตั้งวอร์รูมและดำเนินการเป็นเอกภาพในการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าจะตั้งอะไรขึ้นมาเพื่อประโยชน์ในการเคลื่อนไหวนั้น ต้องอยู่ในวิถีทางของรัฐธรรมนูญ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เป็นเรื่องปกติ
อ้างยันรัฐบาลเร่งทำความเข้าใจม็อบ ชุมนุมได้แต่อย่าก่อเหตุรุนแรง
ต่อข้อถามว่า กลุ่มดังกล่าวอ้างว่าเป็นการต่อสู้ครั้งนี้เพื่อประชาธิปไตย ไม่ใช่เพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขามีสิทธิ์แสดงความเห็นของเขา แต่การเคลื่อนไหวเพื่อแสดงออกหรือโน้มน้าวประชาชนในทางการเมืองนั้นทำได้ แต่ไม่ควรมีการทำร้ายร่างกาย ใช้ความรุนแรง หรือทำลายทรัพย์สิน ไม่ควรทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ในทางการเมืองมีความคิดเห็นที่หลากหลาย บางครั้งในมุมมองของฝ่ายหนึ่งคิดว่าอันนี้เป็นประชาธิปไตย แต่อีกฝ่ายจะมองอีกมุมก็ได้ เป็นเรื่องปกติ แต่รัฐบาลจะเคารพเจตนารมณ์ของการกปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่างไรก็ตามรัฐบาลทำความเข้าใจอยู่ตลอดโดยพยายามอธิบายว่าจุดยืนของรัฐบาลคืออะไร ส่วนแนวโน้มจะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องดูอีกระยะหนึ่ง แต่ตอนนี้ เท่าที่ทราบในส่วนของแกนนำก็พยายามบอกว่าที่มีการเคลื่อนไหวในลักษณะของการปาไข่หรืออะไรต่างๆ ไม่ใช่จุดยืนของเขา ถ้าเป็นแบบนั้น ก็ขอให้เขาช่วยห้ามปราม และการดำเนินการของเจ้าหน้าที่จะได้มีความชัดเจนเพื่อให้จัดการได้เรียบร้อย โดยจุดยืนของรัฐบาลคือการไม่ทะเลาะ
เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่าอำนาจรัฐอ่อนแอ เพราะเจ้าหน้าที่ยังรอดูอยู่ว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่นานแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น แต่ในระดับหนึ่งเราต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติด้วยว่าการรับมือกับเหตุการณ์แบบนี้ไม่ง่ายนัก แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ไปรู้เห็นเป็นใจหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เราก็ต้องจัดการ ซึ่งตนได้กำชับเรื่องนี้ไปแล้ว ตนคิดว่าขอให้รอดูอีกไม่กี่วัน หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งเรามองว่าไม่ใช่เรื่องซับซ้อนแต่เป็นเรื่องง่ายๆ จะต้องมีความคืบหน้า ถ้าไม่มีความคืบหน้า จะต้องมาพิจารณากัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะจัดการเรื่องรัฐตำรวจได้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าได้ และยืนยันว่ารัฐบาลไม่ต้องการเอาตำรวจมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง และตำรวจจะเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดไม่ได้ เราจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น ทั้งนี้รัฐบาลมีอำนาจและมีความรับผิดชอบ ก็ต้องดำเนินการ และขอให้มั่นใจว่าเราไม่ปล่อยปละละเลยให้สภาพบ้านเมืองเหมือนสภาพไม่มีกฎหมายและสภาพบ้านเมืองที่มีการใช้ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงปล่อยปละให้มีการละเมิดกฎหมาย มิฉะนั้นสังคมจะอยู่ไม่ได้
เมื่อถามว่า ในการจัดรายการ“เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์” ที่จะเริ่มออกอากาศในวันที่ 18 ม.ค.นี้ จะใช้ทำความเข้าใจกับกลุ่มคนที่ต่อต้านหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงจะทำ เพราะต้องพูดถึงนโยบายสำคัญของรัฐบาลอยู่แล้วทั้งด้านเศรษฐกิจและความปรองดอง อย่างไรก็ตาม รูปแบบของรายการไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกสัปดาห์ แต่ครั้งแรกตนตั้งใจพูดด้วยตัวเองก่อน โดยจะมีการจัดรายการนอกสถานที่ด้วย แต่ในวันที่ 18 ม.ค.นี้จะเริ่มทีทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้จะมีการพิจารณาเวลาให้ประชาชนสอบถามเข้ามาในรายการนี้ได้เพื่อเข้ามา มีส่วนร่วมซึ่งมีความหลากหลายมากขึ้น ในส่วนของการจัดรายการโดยผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรนั้นกำลังสอบฝ่ายค้านอยู่เรื่องวันและเวลาของการจัดรายการ
เมื่อถามว่า จะให้เวลาจัดรายการ 1 ชั่วโมงเท่ากับของรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อครั้งตนเป็นฝ่ายค้าน ก็ขอเวลาแค่ 30 นาที
ต่อข้อถามว่า จะทำอย่างไรประชาชนได้รับประโยชน์จากการจัดรายการนี้ด้วย ไม่ใช่เป็นแค่การประชาสัมพันธ์งานของรัฐบาลเท่านั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชาสัมพันธ์งานของรัฐก็สำคัญ แต่ตนตั้งใจว่าทุกเรื่องที่รัฐบาลทำก็ต้องมีการชี้แจง แต่มีหลายเรื่องที่ตนยืนยันว่าเราจะเปลี่ยนแปลงสังคมได้ ซึ่งรับบาลต้องสื่อสารกับประชาชน ดังนั้น นอกเหนืองานประจำสัปดาห์ที่ได้ชี้แจงไปแล้ว ตนจะพยายามหาโอกาสเชิญชวนประชาชนให้ตื่นตัวในปัญหาสำคัญๆโดยเฉพาะปัญหาระยะยาว ปัญหาสังคม และอาจช่วยรณรงค์ในหลายเรื่องที่เป็นเรื่องค่านิยมที่จะมีความสำคัญในการแก้ปัญหาต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการเดินทางไปร่วมงานฌาปนกิจศพนางเนียม พันธุ์มณี ที่จ.อุบลราชธานี ว่า ตนตั้งใจจะไปร่วมงานนี้ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี ตนได้ทราบว่าเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้เตรียมการไม่ให้เกิดความวุ่นวาย แต่ถ้าใครอยากมาแสดงออกก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่จะเหมาะสมหรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทั้งนี้ขอย้ำว่าตนไปร่วมงานศพ ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นการแสดงออกถึงความผูกพันระหว่างบุคคล จึงไม่มีเหตุผลใดๆที่จะมาต่อต้าน เพราะยังมีโอกาสที่จะแสดงออกและต่อต้านอีกมาก ตนจึงขอว่าในงานศพของนางเนียมในวันนี้ ตนอยากเห็นการยืนยันค่านิยมที่ดีงามที่เรารู้คุณและสำนึกคุณคนที่มีความกรุณาเมตตากับเราโดยเฉพาะคนที่เป็นผู้ใหญ่ ซึ่งตนต้องการก็ตามไปตอบแทนเท่านั้น ไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรที่จะมาต่อต้านกัน
......................................
นี่แหละนะสันดานของคนชั่วเห็นแก่ตัว ทีคนอื่นเขาเข้ามาอย่างอย่างถูกต้อง มันหาเรื่องกล่าวหาสารพัด แต่พอตัวเองโดนประชาชนที่รักประชาธิปไตยออกมาต่อต้านบ้าง ทำเป้นอ้างว่าต้องการความสงบ สิ่งที่มันเกิดขึ้นทุกวันนี้ ก็ฝือมือเอ็งกับพวกอำมาตย์ชั่ว ที่ร่วมกันทำทั้งนั้นแหละ ไอ้มาร์ค ยิ่งมาทำฝีปากกล้าแบบนี้อย่าหวังเลย จะได้ใจชาวบ้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น