เสื้อแดงนัดบ่ายโมง17ส.ค. ยื่นฎีกาสำนักราชเลขาธิการ จัดชุมนุมใหญ่เช้ามืดเคลื่อนมาหน้าพระบรมมหาราชวัง
เปิดแบบฟอร์มลงชื่อถวายฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ"ทักษิณ" (ฉบับเต็ม) "เสื้อแดง"อ้างประสานสำนักราชเลขาธิการแล้ว นัดบ่ายโมง 17ส.ค. ให้ยื่นฎีกาได้ โดยจะส่ง 8ตัวแทนเป็นคนยื่น พร้อมนัดชุมนุมใหญ่ตั้งแต่เช้ามืดที่ท้องสนามหลวงโชว์พลังหนุน"แม้ว"
นายวีระ มุกสิกพงษ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษก นปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อดีต ส.ส.กทม. พรรคไทยรักไทย พร้อมแกนนำ นปช. ได้แถลงข่าวที่ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 13 สิงหาคม ถึงการเข้าถวายฎีกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
นายวีระ มุกสิกพงษ์ แถลงว่า แกนนำคนเสื้อแดง ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้หารือกับทางสำนักราชเลขาธิการ โดยได้นัดหมายกันว่า ในเวลา 13.00 น.ของวันที่ 17 สิงหาคม คนเสื้อแดงจะนำฎีกาฯ มอบให้ทางสำนักราชเลขาธิการ ซึ่งแกนนำคนเสื้อแดง ได้นัดหมายประชาชนทั่วประเทศ ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 17 สิงหาคม ที่ท้องสนามหลวง เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่า ประชาชนมาร่วมลงชื่อถวายฎีกาฯนั้นมีชีวิตอยู่จริง ไม่ใช่เอาใครก็ไม่รู้มาลงชื่อตามที่รัฐบาลได้กล่าวอ้าง จึงจะทำให้การชุมนุมครั้งนี้มีจำนวนประชาชนมาร่วมชุมนุมมากหน่อย แต่จะเป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธเหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา
นายวีระกล่าวว่า การเข้ายื่นถวายฎีกาฯนั้น จะเริ่มในเวลา 13.00 น. โดยจะมีตัวแทนคนเสื้อแดง 8 คนนำฎีกาส่วนหนึ่งเข้าไปยื่นที่สำนักราชเลขาธิการ จากนั้น จะมีคนเสื้อแดงประมาณ 2 พันคนนำฎีกาประมาณ 500-600 กล่องไปส่งยังประตูวิเศษไชยศรี สำนักพระราชวัง ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยศิลปากร ให้กับเจ้าหน้าที่ของสำนักราชเลขาธิการและเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับต่อ โดยคนเสื้อแดงทั้ง 2 พันคนจะไม่เดินทางเข้าไปในสำนักพระราชวัง แต่จะปล่อยให้ตัวแทน 8 คนเข้าไปยังศาลาลูกขุน เพื่อดำเนินการเรื่องการถวายฎีกาฯ จากนั้นตัวแทนทั้ง 8 คนจะกลับมารายงานประชาชนที่ชุมนุมกันอยู่ที่ท้องสนามหลวงเมื่อกระบวนการทุกอย่างเสร็จสิ้น เราก็จะร้องเพลงสรรเสริฐพระบารมี จากนั้นก็จะแยกย้ายกันกลับบ้าน ซึ่วคาดว่า น่าจะเสร็จสิ้น
"เมื่อกระบวนการการถวายฎีกาเสร็จสิ้นแล้ว เราก็จะไม่มีการพูดถึงเรื่องของการถวายฎีกากันอีก เพราะถือว่าเป็นเรื่องของพระบรมราชวินิจฉัย ซึ่งยืนยันได้ว่ากระบวนการถวายฎีกาของคนเสื้อแดงนั้นไม่มีอะไรน่าวิตกกังวล แม้บางคนถึงกับต้องออกมาข่มขู่คำรามว่าไม่สามารถถวายฎีกาฯ ได้ เพราะเป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย" นายวีระกล่าวและ สำหรับผู้ที่ต่อต่านการถวายฎีกาฯของคนเสื้อแดง และดำเนินการแจ้งความร้อมทุกข์ดำเนินคดีกับแกนนำคนเสื้อแดงหลายกลุ่มนั้นเราก็ขอบอกเลยว่าหากไม่อยากจะตกเป็นจำเลยเสียเองก็ให้ไปถอนแจ้งความเสีย หรือไม่ก็ให้รีบมาแจ้งความเพิ่มเติมในอีกหลายจังหวัด เพราะเมื่อคนเสื้อแดงเสร็จสิ้นกระบวนการถวายฏีกาฯแล้วเราจะเดินสายดำเนินคดีกลับหมดทุกคน
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวว่า เวทีคนเสื้อแดงในวันที่ 17 สิงหาคมที่ท้องสนามหลวง เพื่อยื่นถวายฎีกาฯนั้น จะเป็นเวทีที่ต่อเนื่องมาจากเวทีสนับสนุนการถวายฎีกาฯ ของคนเสื้อแดงในต่างจังหวัด 4 จุดคือวันที่ 13 สิงหาคม ที่ จ.ราชบุรี วันที่ 14 สิงหาคม ที่จ.ชลบุรี วันที่ 15 สิงหาคมที่จ.มุกดาหารและ 16 สิงหาคม ที่จ.นครสวรรค์ โดยเวทีที่ จ.นครสวรรค์นั้นจะเสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 24.00 น.หรือ 01.00 น.ของวันที่ 17 สิงหาคม จากนั้น แกนนำคนเสื้อแดงจะนำประชาชนจา จ.นครสวรรค์เดินทางเข้ามาสมทบยังท้องสนามหลวง ซึ่งน่าจะถึงสนามหลวงประมาณ 04.00-05.00 น. จากนั้นก็จะเป็นการเล่นดนตรีเบาๆ จากนั้นจะเป็นการพูดคุยทำความเข้าใจเกี่ยวกับการถวายฎีกาฯและซักซ้อมขั้นตอนกับผู้ชุมนุม รวมไปถึงข่าวคราวความเคลื่อนไหวต่างๆ จนกระทั่ง 11.00 น.จะเริ่มจัดริ้วขบวนที่กระทัดรัดตามหลักเกณ์ที่คนเสื้อแดงได้ศึกษามา ถนนถนนด้านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนเวลา 13.00 น.ก็จะเริ่มเคลื่อนขบวนไปยังพระบรมมหาราชวัง เพื่อนำฎีกาฯที่ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องขึ้นทูลเกล้าฯ
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า นายวีระ ได้รับการประสานงานจากนายอินทร์จันทร์ บุราพันธ์ รองราชเลขาธิการ ซึ่งได้มอบหมายจากนายอาสา สารสิน ราชเลขาธิการ ทางโทรศัพท์เพื่อพูดคุยหลักการการถวายฎีกาฯ ที่ถูกต้องเรียบร้อยแล้ว และทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เราได้กำหนดไว้ โดย 8 คนที่จะเป็นตัวแทนการนำฎีกาฯ ไปมอบให้สำนักราชเลขาธิการนั้น เบื้องต้นเรายังไม่ได้หารือกันว่าใครจะเป็นตัวแทน แต่จะมีการพูดคุยและแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง แต่คาดว่า น่าจะเป็นแกนนำคนเสื้อแดงและผู้ที่เห็นด้วยกับแนวทางคนเสื้อแดงเป็นหลัก ส่วนญาติสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอย่าง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีหรือคนในตระกูลชินวัตร นั้นเรายังไม่ได้มีการประสานงานกัน
"สำหรับขบวนการต่อต้านการถวายฎีกาฯของคนเสื้อแดง โดยเฉพาะการล่ารายชื่อประชาชนของกระทรวงมหาดไทยนั้นบอกได้เลยว่าเราไม่ได้ให้ความสำคัญ เพราะวันนี้ ชัดเจนแล้วว่า คนพวกนี้กระทำการโดยขาดความรู้ความเข้าใจที่ถองแท้ และหากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังปล่อยให้บุคคลเหล่านี้ดำเนินการไปเรื่อยๆ ก็แสดงว่า รัฐบาลกำลังสร้างบรรทัดฐานอัปยศ ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติใหม่ให้กับสังคมไทย ที่สามารถรวบรวมรายชื่อต่อต้านการถวายฎีกาฯของประชาชนได้ และไม่ว่าจะมีรายชื่อประชาชนของกระทรวงมหาดไทย 3 ล้าน 5 ล้านหรือ 20 ล้านคนก็ขอให้เป็นผลกรรมของคนที่กระทำเองก็แล้วกัน" นายณัฐวุฒิกล่าว
นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า การได้รับการประสานงานจากทางสำนักราชเลขาธิการ น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าการถวายฎีกาฯของคนเสื้อแดงนั้นสามารถดำเนินการได้ ดังนั้นสมุนเผด็จการที่ออกมาบอกว่า คนเสื้อแดงไม่สามารถถวายฎีกาฯได้นั้น วันนี้มีความชัดเจนแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า กระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งงบประมาณหน่วยงานละ 28,000 บาท รวมๆแล้วทั้งประเทศกว่า 200 ล้านบาท ไปว่าจ้างประชาชนให้มาลงชื่อปลอม ซึ่งบางแห่งเป็นการคัดลอกรายชื่อประชาชนมาจากหน่วยเลือกตั้ง หรือบางแห่งก็เอาสมุดลงรายมือชื่อของกระทรวงมหาดไทย ไปวางคู่กับสมุดลงนามถวายพระพระเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม ซึ่งรัฐบาลไม่น่าปล่อยให้มีการดำเนินการอย่างนี้ ส่วนคนที่ขัดขวางการถวายฎีกาฯของคนเสื้อแดงด้วยการไปแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำคนเสื้อแดงในหลายพื้นที่นั้น เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการถวายฎีกาฯเราจะแจ้งความกลับข้อหาแจ้งความเท็จและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง กล่าวว่า การจัดริ้วขบวนของคนเสื้อแดงที่จะนำใบฎีกาทั้งหมดไปมอบให้สำนักราชเลขาธิการนั้น จะเริ่มจากตัวแทนคนเสื้อแดง 8 คนที่จะนำฎีกาส่วนหนึ่งไปก่อน จากนั้นจะตามด้วยธงชาติไทย 75 ผืน เพราะคนเสื้อแดงถือเลขพ.ศ. 2475 ที่ประเทศไทยมีประชาธิปไตย จากนั้นจะเป็นขบวนพระภิกษุสงฆ์ 1,000 รูป และคนเสื้อแดง 1,000 คนที่จะหาบกล่องฎีกา 500 กล่องเดินตามกันไปจนถึงประตูวิเศษไชยศรี
สำหรับคนที่จะเป็นตัวแทนคนเสื้อแดง 8 คนนรั้นแกนนำคนเสื้อแดงจะพิจารณาจากบุคคลที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ที่สามารถเป็นตัวแทนประชาชนได้ ที่สำคัญคือมีภาพลักษณ์ที่ดำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรม ซึ่งอาจจะต้องมีตัวแทนที่เป็นบุคคลากรทางการเมืองและตัวแทนจากพระสงฆ์ร่วมไปด้วย โดยผู้ใหญ่ที่พูดคุยกับคนเสื้อแดงไว้ก็มีหลายคนและมีทั้งที่ติดต่อเข้ามาเองและที่แกนนำคนเสื้อแดงได้ประสานงานไป แต่แต่ละคนที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนได้จะต้องมีแนวทางเดียวกับคนเสื้อแดงคือต้องการให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข
“แกนนคนเสื้อแดงก็เคยพูดคุยกับพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แต่เป็นการพูดคุยเรื่องข้อระมัดระวังการถวายฎีกาฯ เพราะพล.อ.ชวลิต เกรงว่าอาจจะมีบางอย่างทำให้เกิดข้อครหาเรื่องการละเมิดพระราชอำนาจ แต่เราก็ได้เชิญให้พล.อ.ชวลิต มาเป็นตัวแทน 1 ใน 8 แต่ก็ยังไม่รู้พล.อ.ชวลิต จะตอบรับหรือไม่ แต่ผมก็เชื่อคำหนึ่งที่พล.อ.ชวลิต เคยพูดไว้ว่าวันหนึ่งอาจจะมีวันมหัศจรรย์เกิดขึ้นในเมืองไทย ซึ่งผมคิดว่ามันอาจจะเป็นวันที่มีการอภัยโทษให้ทั้งหมดตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นต้นมา” นายอริสมันต์กล่าว
======================
แบบฟอร์มลงชื่อถวายฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ"ทักษิณ" (ฉบับเต็ม)
แบบฟอร์มลงชื่อถวายฎีกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งคนเสื้อแดง ยืนยันว่าจะใช้ไปปะหน้าการถวายฎีกาฯ ฉบับเดิม ในการนำฎีกาฯคนเสื้อแดงมอบให้สำนักราชเลขาธิการในวันที่ 17 สิงหาคม
------------------------------------------
กรกฎาคม 2552
ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้าผู้มีนามและที่อยู่ข้างท้ายนี้ ขอทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาเพื่อกราบบังคมทูลทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ดังนี้
1. ข้าพระพุทธเจ้ามีความทุกข์แสนสาหัสจากปัญหาเศรษฐกิจ อันมีปฐมเหตุมาจากการยึดอำนาจทางการเมืองเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เพราะนั่นเป็นการทำลายระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้กลายเป็นระบอบเผด็จการทหารที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
การยึดอำนาจการปกครองครั้งนั้น ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง และส่งผลต่อเนื่องมาจนปัจจุบันนี้ เมื่อมาประสบกับเหตุภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ทำให้เราไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์นั้นได้ ต้องเดือดร้อนสาหัสทุกหย่อมหญ้า
เมื่อประกอบกับรัฐบาลปัจจุบันนี้เกิดขึ้นด้วยความไม่ชอบธรรมตามหลักประชาธิปไตย จึงไม่ได้รับความรักและความร่วมมือจากประชาชน รัฐบาลไม่อาจเป็นองค์กรหลักในการนำประเทศสู้ภัยเศรษฐกิจครั้งนี้ได้ แม้ตัวนายกรัฐมนตรีเองก็ไม่สามารถเดินทางไปในหลายพื้นที่ของประเทศ
2. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกทำรัฐประหารแย่งอำนาจไป เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ และเป็นที่เชื่อถือศรัทธาของข้าพระพุทธเจ้าว่าจะช่วยแก้ปัญหาบรรเทาความทุกข์ความเดือดร้อนได้ ก็ต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศเพราะถูกกระทำโดยอำนาจเผด็จการ ใช้กฎหมายที่ไม่ต้องด้วยหลักนิติธรรมดำเนินคดี เป็นเหตุให้ไม่มีโอกาสที่จะใช้กำลังสติปัญญา ความสามารถช่วยเหลือประเทศชาติและประชาชนได้ นับเป็นความสูญเปล่าซึ่งทรัพยากรบุคคล
อีกทั้งการใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดนเป็นระยะเวลานานๆ ไม่ว่าในซีกหนึ่งส่วนใดของโลกที่จะให้ความสุข ความอบอุ่นเท่าบ้านเกิดเมืองมารดรย่อมไม่มี
3. การยึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2549 นอกจากก่อให้เกิดผลเสียทางเศรษฐกิจ ทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและทางด้านความมั่นคงแล้ว ยังมีผลกระทบโดยตรงต่อกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของประเทศ จนนักกฎหมายผู้เคารพต่อศักดิ์ศรีวิชาชีพ ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า จากปี 2549 ถึงปัจจุบันนี้ ประเทศเรามีปัญหาด้านนิติรัฐและนิติธรรม เป็นที่น่าอับอายแก่นานาอารยประเทศ
ข้าพระพุทธเจ้าและชาวบ้านทั่วไปต่างรู้ซาบซึ้งดีว่าการใช้กฎหมาย 2 มาตรฐาน กับคน 2 พวก การไม่ใช้กฎหมายโดยเสมอภาคเป็นวิธีการอนารยะ เป็นเรื่องไม่อาจยอมรับได้ จึงได้นัดชุมนุมประท้วงและเรียกร้องหาความถูกต้อง และความชอบธรรมเสมอมา แต่รัฐบาลกลับยัดเยียดความอยุติธรรม และความไม่เสมอภาคมากยิ่งขึ้นจนใกล้ถึงขีดสุดแห่งความอดทนที่มนุษย์จะพึงมี
4. ทั้งหมดนี้ข้าพระพุทธเจ้าขอกราบทูลใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเพื่อทรงทราบว่า เวลานี้เหลือที่พึ่งสุดท้ายหนึ่งเดียวที่ข้าพระพุทธเจ้าจะพึ่งได้คือใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เพราะทรงบำเพ็ญกรณียกิจบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ทวยราษฎร์เสมอมา ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม มีสายพระเนตรยาวไกล คงจะไม่ปล่อยปละละเลยพสกนิกรให้จมอยู่กับความระทมทุกข์เป็นเวลายาวนานเกินไป
ข้าพระพุทธเจ้าจึงกราบบังคมทูลถวายฎีกามา เพื่อทรงพระกรุณาอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 2 ปีนั้นเสีย เพื่อจักได้อิสรภาพกลับมาเป็นข้าทูลละอองธุลีพระบาททำประโยชน์ต่อแผ่นดิน อย่างน้อยก็เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจช่วยบรรเทาความทุกข์ยากของปวงข้าพระพุทธเจ้า ผู้ยังเชื่อมั่นและศรัทธาในความสามารถของเขา
การทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาครั้งนี้ ข้าพระพุทธเจ้ามุ่งหวังให้เกิดความสามัคคี เป็นการสมานฉันท์คนในชาติให้กลับมาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันดังเดิม เพื่อรวมกันเป็นเอกภาพ สู้ภัยหลายๆ รูปแบบจากทิศานุทิศให้ปราศนาการไป นำความสุขความร่มเย็นมาสู่พสกนิกรเสริมพระบารมีใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทให้สูงส่งไพศาล
แต่ทั้งนี้ก็สุดแต่พระบรมราชวินิจฉัย
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า (นาย/นาง/นางสาว)................................................................................
บัตรประชาชนเลขที่.................... ออกที่......................... อยู่บ้านเลขที่...............................
หมู่ที่...... ถนน............................ซอย.............................แขวง/ตำบล...........................
เขต/อำเภอ...........จังหวัด............รหัสไปรษณีย์.................หมายเลขโทรศัพท์........................
(ผู้ลงชื่อต้องอ่านข้อความให้เข้าใจโดยละเอียด หากเห็นชอบและมีความสมัครใจ กรุณาเซ็นชื่อและกรอกข้อความตามแบบที่แนบให้ครบถ้วนแล้วส่งกลับไปรวบรวมที่ สำนักงานความจริงวันนี้ เลขที่ 2539 อาคารอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว ชั้น 6 แขวง/เขต วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310)
--------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น